วิธีกำจัดขนรักแร้
กำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีการถอน เป็นวิธีที่เบสิคที่สุด

กำจัดขนรักแร้

มองรักแร้ดาราหรือบรรดาคนดังทีไรก็ต้องหันกลับมามองรักแร้ตัวเองทุกที แล้วคำถามเดิมๆ ก็วนเวียนมาอีกรอบ “เขาทำยังไงนะ รักแร้ถึงขาวเนียนไร้ขน ราวกับไม่เคยมีมันมาก่อนเลย” นี่คือปัญหาโลกแตกที่คาใจสาวๆ มาโดยตลอด การ กำจัดขนรักแร้ พร้อมกับเนรมิตให้ใต้วงแขนเรียบเนียนนั้นสำคัญไม่แพ้การดูแลใบหน้า เพราะการมีรักแร้ที่เป็นเลิศนั้น  เปรียบเหมือนเรามีแต้มต่อราคาแพง จะสวมเสื้อแขนกุดหรือเกาะอกก็ไม่ต้องกลัวว่าขนหรือหนังไก่จะโชว์ออกมาให้อับอาย เสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้หญิงยุคใหม่อย่างเต็มกำลัง ดังนั้นไม่ว่านวัตกรรมการกำจัดขนและดูแลผิวหนังใต้วงแขนจะมีสิ่งใดออกมา ก็ล้วนแต่มีสาวใจกล้าไปทดลองกันถ้วนหน้า หวังเพียงผลลัพธ์คาตาคาใจที่จะทำให้ชูมือสุดแขนได้เสียที 

ขนรักแร้

ก่อนจะไปถึงขั้น กำจัดขนรักแร้ ให้สิ้นซาก เรามาทำความรู้จักกับขนรักแร้กันสักเล็กน้อย จริงๆ แล้วขนตามร่างกายของเรามีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน โดยบริเวณรักแร้นั้นถูกจัดเป็นขนกลุ่มเวลลัส หรือขนที่เป็นเส้นอ่อนนุ่ม มีหน้าที่หลักในการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ช่วยเพิ่มการกระจายฟีโรโมนซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นอารมณ์และพฤติกรรมของผู้อื่น ตลอดจนช่วยลดการเสียดสีของผิวที่บอบบางบริเวณนั้น ว่าไปแล้วขนรักแร้ก็มีประโยชน์ไม่น้อย แต่จะมีสักกี่คนที่คิดว่าลองไว้ขนรักแร้ให้ยาวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกันดีกว่า เพราะมันไม่เจริญหูเจริญตาเอาเสียเลย เช่นนั้นก็ต้องกำจัดออกให้หมดไป แต่จะมีวิธีไหนบ้างที่จะตัดปัญหากวนใจอันนี้ไปได้

วิธี กำจัดขนรักแร้

กำจัดขนรักแร้ ด้วยวิธีการถอน
นี่น่าจะเป็นวิธีที่เบสิคที่สุด เพราะใช้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายแล้ว ลงทุนเป็นเม็ดเงินน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ แถมยังสามารถทำเมื่อไรก็ได้โดยไม่ต้องรบกวนใครอีกต่างหาก แต่ก็แอบเห็นว่ามีหลายบ้านเอาการถอนขนรักแร้มาเป็นกิจกรรมครอบครัวด้วยเหมือนกัน วิธีการก็คือใช้แหนบอันที่ถนัดมือค่อยๆ คีบขนขึ้นมาทีละเส้นแล้วดึงออกแบบถอนรากถอนโคน เราจะเห็นเลยว่ามีตุ่มสีขาวๆ ติดมาที่โคนขน มันคือส่วนของรากขนรักแร้นั่นเอง การกำจัดขนด้วยการถอนจึงทำให้ขนขึ้นใหม่ช้ามาก อาจยาวนานไปถึง 3 อาทิตย์ แต่มีข้อเสียตรงที่เจ็บอย่างที่สุด ยิ่งถ้าเป็นคนมีขนรักแร้มากก็ยิ่งเจ็บนานกว่าจะถอนเสร็จทั้งหมด ทั้งเจ็บแสบรักแร้และเมื่อยคอไปพร้อมกัน นอกจากนี้ก็ยังเป็นวิธีที่ค่อนข้างทำร้ายผิวใต้วงแขนพอสมควร บางรายจึงมีผิวที่หมองคล้ำขึ้นหรือกลายเป็นหนังไก่

กำจัดขนรักแร้ ด้วยวิธีโกน
การโกนขนรักแร้ค่อนข้างได้รับความนิยมสูง เพราะทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ยิ่งในยุคนี้ที่มีอุปกรณ์โกนขนให้เลือกหลากหลายเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้การโกนกลายเป็นเรื่องสนุก วิธีการนั้นแสนง่าย เพียงมองหามีดโกนที่ชื่นชอบมาสักอัน มีเคล็ดลับเล็กน้อยคือ มีดโกนที่มีหลายใบมีดจะช่วยให้โกนขนได้เกลี้ยงเกลามากขึ้น ครั้นจะใช้งานก็สามารถใช้น้ำสบู่หรือครีมโกนขนทาลงไปให้ทั่วบริเวณใต้วงแขน จากนั้นเริ่มโกนจากบนลงล่าง พร้อมเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย เมื่อ  ทำเสร็จทั้งสองข้างแล้วก็ล้างทำความสะอาดเอาสบู่หรือครีมออกให้หมด ข้อดีคือทำง่ายและไม่เจ็บ แต่ก็มีข้อเสียด้วยตรงที่ขนจะขึ้นเร็ว ระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ 2-3 วัน อีกทั้งส่วนของขนที่ขึ้นมาใหม่ก็เส้นใหญ่และหนากว่าเดิม เมื่อไม่ได้โกนอย่างสม่ำเสมอก็จะไม่น่ามอง ในบางคนที่ผิวบอบบางก็สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผิวอักเสบได้ด้วย 

กำจัดขนรักแร้ ด้วยวิธีแวกซ์
หลายคนชื่นชอบวิธีนี้มากกว่าการโกนเสียอีก เพราะการแวกซ์ขนรักแร้นั้น ค่อนข้างสะดวกรวดเร็ว ผิวใต้วงแขนก็เรียบเนียน แถมขนยังขึ้นช้าอีกด้วย คล้ายกับเอาจุดดีของวิธีการกำจัดขนแบบถอนและแบบโกนมารวมกัน แต่การลงมือทำครั้งแรกต้องใช้ความกล้าเล็กน้อยในการดึงแวกซ์ออก บางคนก็ว่าเจ็บมาก บางคนก็ว่าเจ็บพอทน ขอแค่ทำไปเรื่อยๆ ก็จะชินไปเอง แวกซ์ที่ใช้จะแบ่งแบบหยาบๆ ได้ 2 ประเภท คือ แวกซ์ร้อนและแวกซ์เย็น ซึ่งยังสามารถแบ่งย่อยไปได้อีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบครีม แบบแผ่น หรือแบบก้อน แต่หลักการใช้งานเหมือนกันหมดคือป้ายหรือแปะทิ้งไว้สักพักก็ดึงย้อนขนอย่างรวดเร็ว การกำจัดขนด้วยวิธีนี้จะทำให้ขนขึ้นช้า ระยะเวลาราวๆ 3-4 อาทิตย์ และมีข้อจำกัดตรงที่ต้องไว้ขนให้ยาวประมาณหนึ่งก่อนถึงจะแวกซ์ได้

กำจัดขนรักแร้ ด้วยเจลสมุนไพร
วิธีนี้คือการนำเอาประโยชน์จากสมุนไพรมาใช้งาน โดยทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปของเจล เวลาใช้ก็แค่ป้ายเจลไปที่ใต้วงแขนด้วยไม้พายพลาสติก ซึ่งจะมีแนบมาให้พร้อมตัวผลิตภัณฑ์เสมอ จากนั้นทิ้งไว้ให้เซตตัวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือ แล้วค่อยเช็ดออก ขนก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย ข้อดีคือทำง่ายมาก ไม่เจ็บแสบแต่อย่างใด แต่มีข้อเสียคือใช้ไม่ค่อยได้ผลเต็มประสิทธิภาพสำหรับคนที่มีขนเส้นใหญ่และหนา ระยะเวลาที่ขนจะขึ้นใหม่อยู่ที่ 1-2 อาทิตย์

กำจัดขนรักแร้ ด้วยครีมกำจัดขน
ครีมกำจัดขนก็มีลักษณะและวิธีการใช้งานคล้ายคลึงกับเจลสมุนไพรนั่นเอง เพียงแต่ว่าอันนี้เป็นเคมีที่เน้นการกำจัดขนโดยเฉพาะ ทำให้ทำลายขนได้สิ้นซากมากกว่า ข้อดีคือทำได้ง่ายและทำได้ทุกที่ แต่ข้อเสียคือค่อนข้างสุ่มเสี่ยงสำหรับผิวบอบบางและมีกลิ่นที่ค่อนข้างฉุน ดังนั้นการใช้ครีมกำจัดขนจึงต้องทดสอบการแพ้ก่อนเสมอ และทำตามขั้นตอนในคู่มืออย่างเคร่งครัด ไม่ทิ้งเวลาไว้นานเกินไป ไม่ป้ายครีมหนาเกินไป และไม่ทำบ่อยจนเกินไปด้วย ระยะเวลาที่ขนจะขึ้นใหม่อยู่ที่ 2-3 วันเท่านั้น

การ กำจัดขนรักแร้ ช่วยให้ใต้วงแขนสะอาดน่ามอง มีหลายวิธี และถูกพัฒนาให้ก้าวหน้ามากขึ้น แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

กำจัดขนรักแร้ ด้วยเครื่อง
นี่เป็นนวัตกรรมที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์คนที่รักการถอนขนรักแร้ แต่เบื่อหน่ายกับอาการเมื่อยคอและรู้สึกเสียเวลา เครื่องถอนขนในท้องตลาดมีอยู่หลายราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหลายพัน คุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งานก็แปรผันตามราคา สิ่งที่ทำให้แต่ละเครื่องแตกต่างกันก็คือจำนวนหัวหนีบ ยิ่งมีหัวหนีบมากก็ยิ่งถอนขนได้เร็วและลดความเจ็บจากการถอนขนได้มาก แม้ว่าจะเป็นการดึงขนแบบถอนรากถอนโคนเช่นเดียวกับการใช้แหนบ แต่ก็จะไม่เจ็บเทียบเท่าเพราะเครื่องทำงานได้รวดเร็ว อาจรู้สึกแสบบ้างหลังการใช้เครื่องกำจัดขน ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเนื่องจากเป็นอาการเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ระยะเวลาที่ขนจะขึ้นใหม่ก็อยู่ที่ 1-2 อาทิตย์

กำจัดขนรักแร้ ด้วย IPL- Intense pulsed light ( ไอพีแอล )
ถ้าถามหาเทคโนโลยีทางการแพทย์ IPL น่าจะเป็นเครื่องมือรุ่นแรกๆ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อการกำจัดขนแบบถาวร เป็นการใช้คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 500-1200 นาโนเมตร และมีค่าความเข้มแสงสูง คุณสมบัติของแสงนี้จะเข้าไปทำลายรากขนใต้ชันผิวหนัง ขนรักแร้ที่มีอยู่จึงค่อยๆ หลุดออกไป แต่จะไม่ใช่การทำเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จำเป็นต้องทำ 3-6 ครั้งในทุกๆ 3 อาทิตย์ เป็นการแก้ปัญหาแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่ได้ผลคุ้มเกินคาด เพราะผิวใต้วงแขนจะเรียบเนียนยาวนานเป็นปีๆ หลายคนไม่มีขนขึ้นมาอีกเลยก็มี หรือหากขึ้นมาใหม่ก็จะบางลงมากๆ ทำ IPL ซ้ำอีกสักรอบสองรอบก็จะกำจัดขนไปแบบถาวรเช่นเดียวกัน มีข้อจำกัดอยู่เพียงเล็กน้อยคือต้องได้รับการบริการจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะมีโอกาสที่ผิวจะเกิดอาการไหม้ได้

กำจัดขนรักแร้ ด้วย Diode Laser ( ไดโอดเลเซอร์ )
ตามมาติดๆ กับเทคโนโลยีไดโอดเลเซอร์ ตัวนี้เป็นกลุ่มเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นประมาณ 800-1000 นาโนเมตร ให้พลังงานได้สูงกว่า IPL และทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะถูกออกแบบมาใช้เพื่อการกำจัดขนโดยเฉพาะ ระหว่างการทำก็ไม่รู้สึกแสบร้อน ด้วยเหตุที่มีระบบความเย็นติดอยู่กับหัวเลเซอร์ด้วย จึงช่วยลดอุณหภูมิของผิวหนังลงได้ วิธีนี้จำเป็นต้องทำซ้ำ 5-8 ครั้งตามช่วงเวลาที่เหมาะสม

กำจัดขนรักแร้ ด้วยวิธี YAG
เครื่องมือชนิดนี้นับได้ว่าเป็นรุ่นเดียวกับ IPL เลยก็ว่าได้ แต่จะดีกว่าตรงที่สามารถทำได้ในทุกสีผิว ไม่ทำให้เกิดอาการผิวไหม้แต่อย่างใด เครื่องมือ YAG ในท้องตลาดมีทั้งแบบ Q Swithed nd yag (เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสั้น 532 nm และ 1064 nm) และ Long pulse nd yag (คลื่นยาว 1,064 nm) แต่ตัวที่ใช้กับการ กำจัดขนรักแร้ จริงๆ มีแค่ Long pulse nd yag เท่านั้น การทำงานก็เป็นเหมือนกับเครื่องเลเซอร์อื่นๆ คือตรงเข้าทำลายรากขนที่ใต้ชั้นผิวหนัง ต้องทำซ้ำ 4-8 ครั้งก่อนที่ขนรักแร้จะหมดไป จุดเด่นคือมีส่วนที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ด้วย ในขณะเดียวกันถ้าใช้เครื่องผิดประเภทก็จะเสียเวลาและเสียทุนทรัพย์ไปเปล่าๆ เพราะมันจะไม่เกิดผลอะไรเลย งั้นถาม  ว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องที่ใช้เหมาะกับการกำจัดขนหรือไม่ ก็บอกได้ยากหากไม่มีการแจ้งรายละเอียดเอาไว้ในคอร์สกำจัดขน จึงจำเป็นต้องเลือกใช้บริการกับสถานบริการที่เชื่อถือได้ และมีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์คอยดูแล 

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเลเซอร์ กำจัดขนรักแร้ อีกหลายชนิด ซึ่งแกนหลักในการกำจัดขนนั้นเหมือนกัน แต่แตกต่างกันไปในรายละเอียด เช่น ระหว่างทำไม่แสบแดง ไม่มีการอักเสบหลังการทำ จำนวนครั้งที่ทำลดน้อยลง เป็นต้น ไม่ว่าจะตัดสินใจกำจัดขนกับเลเซอร์ตัวไหน ก็อย่าลืมดูแลผิวใต้วงแขนหลังการทำเสมอ หากมีอาการแสบแดงก็ประคบด้วยของเย็น หากมีอาการบวมแล้วไม่หายภายใน 24 ชั่วโมง ก็ต้องพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาต่อไป

จะเห็นได้ว่าการกำจัดขนมีหลากหลายวิธี และถูกพัฒนาให้ก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป บ้างเจ็บมาก บ้างเจ็บน้อย บ้างราคาถูก บ้างราคาสูง ก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ หากยังไม่มีทุนทรัพย์มากเพียงพอสำหรับการลงคอร์สกำจัดขนแพงๆ ก็ไม่ต้องกังวลมากไป เพราะใจความสำคัญคือการ กำจัดขนรักแร้ และช่วยให้ใต้วงแขนสะอาดสะอ้านน่ามองเท่านั้น ที่สำคัญเมื่อจัดการเรื่องกำจัดขนแล้วก็อย่าลืมเรื่องการบำรุงผิวหนังใต้วงแขนและดูแลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย หากมีรักแร้ที่ขาวเนียนแต่กลิ่นสุดจะทนก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ต้องดูแลให้สวยครบทุกด้านไปพร้อมกัน

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เอกสารอ้างอิง

Bhargava, Amber (November 26, 2012). “Beauty and the Geek: The Engineering Behind Laser Hair Removal”.

Heinz Tschachler, Maureen Devine, Michael Draxlbauer; The EmBodyment of American Culture; pp 61–62; LIT Verlag, Berlin-Hamburg-Münster; 2003; ISBN 3-8258-6762-5.

Kutty, Ahmad (September 13, 2005) “Islamic Ruling on Waxing Unwanted Hair” Archived 2008-02-13 at the Wayback Machine. Retrieved March 29, 2006