ดูบอลโลกอย่างไร หน้าไม่โทรม
การนอนดึกจะทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันใต้ผิวหนังออกมามากกว่าปกติ ทำให้หน้ามันแต่ผิวกลับขาดความชุ่มชื่น ทำให้เกิดสิวได้ง่าย รวมทั้งเกิดปัญหาผิว และริ้วรอยก่อนวัยอันควร

ดูบอลโลกให้หน้าไม่โทรม

เทศกาลบอลโลกมาถึงทั้งที 4 ปีมีครั้งหนึ่งเท่านั้น แล้วแบบนี้จะให้รีบนอนแต่หัวค่ำแล้วคอยรอฟังผลการแข่งขันในตอนเช้าเพียงอย่างเดียวก็ใช่ที่ หรือต่อให้ไม่ชอบดูบอลเท่าไร แต่มันก็ต้องมีใครบางคนในครอบครัวที่นั่งถ่างตาดูบอล  จนเกือบเช้า พาให้เราต้องนอนไม่หลับไปด้วย เมื่อเป็นอย่างนี้ก็สู้ลุกขึ้นมาลุ้นและร่วมเชียร์ไปด้วยกันเสียเลยดีกว่า พอดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มสนุก แต่พอมาดูกระจกกลับต้องตกใจ ใต้ตาดำคล้ำ หน้าหมองเป็นสิว แถมผิวเหี่ยวก็มา เรียกว่าโทรมอย่างถึงที่สุดในช่วงเวลาอันรวดเร็ว แบบนี้ปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งเป็นผู้หญิง ยิ่งต้องตามเทรนด์โลกได้ทัน พร้อมกับรักษาระดับความสวยให้คงทนไปด้วย ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้เราดูบอลโลกได้ทุกนัด แถมหน้ายังสวยใสราวกับนอนมาเต็มอิ่มตลอดทั้งคืน

1. เปลือยหน้าให้เป็นธรรมชาติในทุกนัดที่เชียร์บอล : โดยปกติแล้วช่วงเวลาแข่งขันที่เราจะได้ดูกันแบบสดๆ ก็มักจะเป็นช่วงกลางคืนที่ค่อนข้างดึกมากอยู่แล้ว และนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ผิวควรจะได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่เหนื่อยล้ามาแล้วทั้งวัน หากคิดให้ดีในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลบอลโลก ดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้คือช่วงที่ร่างกายพักผ่อนและซ่อมแซมตัวเอง ถ้าเราอดนอนแล้วยังคงแต่งหน้าหนาอยู่อีก นอกจากผิวจะไม่ได้พักผ่อนแล้วก็ยังต้องแบกรับภาระจากเครื่องสำอางเหล่านั้นอีกด้วย ที่สำคัญหลายคนก็ทิ้งตัวลงนอนเลยหลังจากดูบอลจบ รอไปล้างเครื่องสำอางออกตอนตื่นนอนในวันถัดไป ทำให้รูขุมขนเริ่มอุดตัน นำมาซึ่งสารพัดสิว ตั้งแต่สิวเสี้ยนไปจนถึงสิวหัวช้างหรือสิวอักเสบ ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าปัญหาเรื่องการรักษาสิวนั้นไม่เท่าไร แต่การรักษาแผลเป็นหรือร่องรอยที่สิวทิ้งเอาไว้ต่างหากที่ลำบากยากเย็น และก็ไม่ใช่แค่สิวเท่านั้น บางคนอาจเกิดอาการผิวแห้งและแพ้ง่ายไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นก็อย่าลืมล้างหน้าก่อนนั่งล้อมวงดูบอลเสมอ ต่อให้ออกไปดูกันนอกบ้านก็ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าไป อาจเพิ่มความมั่นใจด้วยลิปกลอสบางเบาสักแท่งก็เพียงพอแล้ว

2. บำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ : เมื่อไรที่เรานอนดึกหรืออดนอน ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ และเนื่องจากว่าความชุ่มชื้นของผิวนั้นเป็นปัจจัยสำคัญต่อการมีสุขภาพผิวที่ดีอย่างมาก เมื่อผิวเริ่มแห้งลงจะมีปัญหาผิวตามมามากมาย เช่น เป็นสิวง่าย แพ้ง่าย หน้าลอก เหี่ยวย่น เป็นต้น ดังนั้นเมื่อต้องดูบอลจนดึกเมื่อไร อย่างแรกที่ต้องทำก็คือจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดเวลาจนกว่าจะใกล้เข้านอน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอกับความต้องการ อย่างที่สองก็คือทาครีมบำรุงที่เน้นหนักไปทางให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว สังเกตได้ง่ายๆ ว่าหากมีส่วนประกอบของน้ำและ Hyaluronic acid ในเนื้อครีมมาก ก็จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้มาก หรือจะเลือกใช้เป็นแบบ overnight mask ก็ได้เหมือนกัน ทาพอกให้หนาแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนไปเลย ตื่นเช้ามารับรองได้ว่าผิวยังเปล่งปลั่งฉ่ำน้ำอยู่เหมือนเดิมแน่ นอน

3. ใช้ประโยชน์จากสารคาเฟอีน : สารคาเฟอีนที่เรารู้จักกันดีก็ได้แก่เครื่องดื่มจำพวกชาและกาแฟ ซึ่งน่าจะมีติดบ้านกันแทบทุกหลังคาเรือนอยู่แล้ว หรือต่อให้ไม่มีก็ยังสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ไม่ได้ให้หามาดื่มเพื่อรอดูบอลแต่อย่างใด ครั้งนี้เราจะนำมาเนรมิตความสวยโดยเฉพาะ ด้วยว่าสารคาเฟอีนนั้นมีฤทธิ์ต้านอาการบวมของใต้ถุงตาได้อย่างดีเยี่ยม และยังช่วยให้ใต้ตาไม่ดูคล้ำจนเกินไปอีกด้วย มาเริ่มกันที่วิธีง่ายๆ กันก่อน นั่นคือใช้ชาถุงแบบสำเร็จที่ชงดื่มเรียบร้อยแล้ว เอาแค่ส่วนของถุงชาเท่านั้น ใส่ตู้เย็นทิ้งไว้ แล้วค่อยเอามาประคบตาหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า ประคบไปเรื่อยๆ จนกว่าถุงชาจะบรรเทาความเย็นลง อีกวิธีหนึ่งก็คือใช้ใบชาที่ชงน้ำดื่มเรียบร้อยแล้ว ห่อด้วยผ้าบางๆ ให้มันเป็นก้อนกลมคล้ายลูกประคบ เอาแช่ตู้เย็นไว้ แล้วก็เอามาประคบในตอนเช้าเช่นเดียวกัน ถามว่าใช้กาแฟได้ไหม อันที่จริงก็ได้เหมือนกัน แต่จะไม่ค่อยสะดวกนักเพราะผงกาแฟจะละลายไปหมด เว้นเสียแต่ว่าที่บ้านมีกากกาแฟสดจึงจะสามารถเอามาใช้ได้

4. ลดปริมาณโซเดียม : หากนึกไม่ออกว่าโซเดียมคืออะไร ก็ให้นึกถึงอะไรก็ตามที่มีรสชาติเค็มๆ ความจริงแล้วโซเดียมนั้นเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อย แต่เนื่องจากอาหารในปัจจุบันมีโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยวแบบถุง เป็นต้น เรียกว่าเรารับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายกันตลอดเวลาเลย ยิ่งในช่วงดูบอลกับกลุ่มเพื่อนอย่างนี้ มีหรือที่จะไม่มีขนมและเครื่องดื่มเย็นๆ เป็นเครื่องเคียง ซึ่งสามารถทานได้แต่ต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่าทานไปมากน้อยเท่าไรแล้ว เพราะหากร่างกายมีโซเดียมมากเกินพอดี ไตจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกไป และส่งผลกระทบไปยังระบบอื่นๆ ในร่างกายด้วย สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนก็คือ วันไหนทานโซเดียมมากไป โดยเฉพาะมื้อเย็นหรือก่อนนอน ตื่นมาหน้าจะบวมกว่าปกติ และมีอาการคอแห้งกระหายน้ำอย่างรุนแรง เมื่อหน้าบวมเสียแล้วจะแต่งหน้ายังไงก็คงไม่สวยเท่ากับทุกวันจริงไหม ดังนั้นถ้าทำได้ ให้เปลี่ยนขนมที่ทานระหว่างดูบอลเป็นผลไม้ โยเกิร์ตหรือถั่วต่างๆ แทน แต่ก็ต้องไม่ใช่ถั่วที่คั่วเกลือมาจนเต็มโดดเช่นเดียวกัน

5. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน : มันอาจจะไม่ง่ายที่จะต้องงดเครื่องดื่มเหล่านี้ไปเลย ในระหว่างที่ดูบอลสนุกๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว แต่ยังไงก็ต้องควบคุมปริมาณไม่ให้มากจนเกินไป เพราะแอลกอฮอล์และคาเฟอีนเป็นสารออกฤทธิ์ที่จะกระตุ้นสมองและปรับสมดุลบางส่วนของระบบร่างกาย ทำให้เกิดอารมณ์ตื่นตัว คึกคัก ซึ่งมันจะไม่หมดไปพร้อมกับการแข่งขันฟุตบอลที่จบลง หมายความว่าเมื่อถึงคราวนอนก็จะนอนไม่หลับ ด้วยว่าสมองยังตื่นตัวอยู่ ทำให้นอนไม่พอหรือนอนหลับไม่สนิท ร่างกายจึงไม่มีเวลาให้ซ่อมแซมและพักผ่อน หากทำต่อเนื่องหลายวันเข้าร่างกายก็ย่อมทรุดโทรมลง และแน่นอนผิวพรรณก็ต้องหมองลงด้วย

6. เลือกนอนหมอนสูงกว่าปกติเล็กน้อย : นี่เป็นตัวช่วยที่ดี ที่จะลดความบวมของถุงใต้ตาเนื่องจากการนอนดึก เมื่อเราหนุนหมอนให้สูง ของเหลวที่ควรจะไปคั่งอยู่ใต้ตาก็จึงไม่ไปหรือไปได้น้อย ตื่นมาจึงไม่มีอาการใต้ตาบวมให้เห็น แต่การนอนหนุนหมอนที่สูงขึ้นนี้ ต้องไม่เป็นระดับที่ทำให้เกิดอาการเมื่อยคอ ให้สูงจากปกติสักเล็กน้อยก็พอ ไม่เช่นนั้นจะยิ่งทำให้นอนไม่สบาย และปวดตึงช่วงคอ บ่า ไหล่ ในระยะยาว

การนอนดึกจะทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันใต้ผิวหนังออกมามากกว่าปกติ ทำให้หน้ามันแต่ผิวกลับขาดความชุ่มชื่น ทำให้เกิดสิวได้ง่าย รวมทั้งเกิดปัญหาผิว และริ้วรอยก่อนวัยอันควร

7. ล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ : กรณีนี้ใช้สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้โดยเฉพาะ เนื่องจากว่าการนอนไม่พอนั้นมีผลกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันภายในร่างกายไม่แข็งแรงดังเดิม มีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดน้อยลงค่อนข้างมาก ยิ่งกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ซึ่งมีค่าภูมิต้านทานที่ต่ำอยู่แล้วก็จะยิ่งต่ำลงไปอีก ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้ง่าย ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องดูแลร่างกายให้มากเป็นพิเศษ และการทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ดี เพราะจะทำให้ช่องหายใจสะอาด ลดการบวมของโพรงไซนัส และยังลดอาการบวมของดวงตาได้ด้วย วิธีการนั้นง่ายมาก เพียงแค่หากระบอกฉีดยากับน้ำเกลือสำหรับล้างช่องจมูกมาติดบ้านไว้สักชุด ซึ่งหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป พอจะใช้ก็แค่บรรจุน้ำเกลือลงในกระบอกฉีดประมาณ 150 มิลลิลิตร แล้วฉีดเข้าไปในช่องจมูก น้ำเกลือจะไปวนในโพรงจมูกและช่องปาก แล้วกลับออกมาที่จมูกอีกข้างกับทางปากนั่นเอง

8. นอนไม่พอ ต้องหาเวลางีบหลับ : ถึงแม้ว่าเราจะบำรุงร่างกายดีอย่างไร แต่หากพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันหลายวันเข้า สมองก็ย่อมเบลอและพยายามจะจัดระบบร่างกายให้ไปอยู่ในโหมดของการพักผ่อนอยู่เรื่อยๆ บางคนจึงมีอาการหลับใน มึนงง คิดอะไรไม่ออกนั่นเอง แล้วจะทำยังไงได้ในเมื่อบอลมาดึกๆ ทุกคืน จะลาหยุดงานเพื่อดูบอลหรือนอนชดเชยก็ไม่ได้ ไม่ต้องกังวลไป เพราะความลับของการนอนไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่นอน แต่ขึ้นกับประสิทธิภาพของการนอน และการงีบหลับช่วงสั้นๆ สัก 20-30 นาทีในระหว่างวัน จะสามารถชดเชยการนอนในช่วงกลางคืนได้มากถึง 4 ชั่วโมงทีเดียว ดังนั้นก็อย่าลืมหาเวลางีบหลับกันดูบ้าง นอกจากร่างกายจะกลับมากระปรี้กระเปร่าแล้ว หน้าตาก็ยังกลับมาสวยสดใสได้อีกด้วย

9. ทานผักผลไม้ให้มาก : เคยได้ยินบ้างไหมว่า “หากอยากมีอายุยืนยาว ให้ทานเฉพาะอาหารที่อายุสั้นเท่านั้น” อาหารอายุสั้นในที่นี้ก็หมายถึงอาหารที่สดใหม่ ไม่ผ่านการแปรรูปหรือปรุงสุกด้วยเวลานานไปนั่นเอง ของพวกนี้มีพลังงานชีวิตมากจึงส่งต่อพลังงานนั้นให้ร่างกายเราได้มาก สังเกตได้ง่ายๆ เมื่อไรที่รู้สึกหมดเรี่ยวแรง เพียงแค่ทานผลไม้ก็สดชื่นขึ้นมาได้ นอกจากนี้ช่วงที่เราอดตาหลับขับตานอนเพื่อรอเชียร์บอลโลกนี้ จะมีสารอนุมูลอิสระจำนวนมากเกิดขึ้นในร่างกาย การทานผักผลไม้ก็คือการเติมสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้มีพอสำหรับการจัดการกับสารอนุมูลอิสระนั่นเอง ยิ่งทานมากก็ยิ่งโทรมน้อยลง แต่สิ่งสำคัญที่มากไปกว่านั้น พยายามเลือกผลไม้ที่มีความหวานน้อยและเนื้อผลไม้ไม่ได้อ่อนนิ่มมากไปเป็นชนิดหลักที่ทาน เช่น ฝรั่ง มังคุด มะม่วงดิบ เป็นต้น เพราะน้ำตาลในผลไม้นั้นนอกจากจะไม่ช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความเสียหายต่อผิวพรรณและระบบร่างกายได้ไม่น้อยเลย

10. ใช้เครื่องสำอางเข้าช่วย : ก่อนหน้านี้เป็นการดูแลตัวเองจากภายในเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องจำเป็นและสมควรทำอย่างยิ่ง หากอยากคงความสวยและสุขภาพดีเอาไว้ได้ตลอดฤดูกาลบอลโลกนี้ แต่คงไม่ใช่แค่เร่ง ความสวยจากภายในเท่านั้น ใช้เครื่องสำอางมาช่วยภายนอกไปด้วยอีกแรงคงดีกว่า เริ่มจากเลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่เหมาะกับสีผิวเพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ตา โดยเลือกให้มีเฉดสีที่อ่อนกว่าสีผิวประมาณ 1-2 เบอร์ เพราะเราต้องการให้ผิวส่วนนี้ดูสว่างขึ้น และแต่งหน้าให้ดูสวยสดใสอยู่เสมอ อาจใช้ชิมเมอร์ช่วยกระจายแสงบนผิวหน้าก็ได้ แต่อย่าโหมโบกหน้าจนหนักหนาเกินไป อย่าลืมว่าช่วงนี้ผิวหน้าก็รับภาระพอสมควรแล้ว เอาเป็นว่าแต่งให้สวยพอประมาณและล้างให้สะอาดเสมอก็พอ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เอกสารอ้างอิง

expressvpn.com/stream-sports/world-cup/

Lee, Doctor. “Dry Skin Prevention”. Retrieved 18 August 2011.
Zirwas MJ, Stechschulte SA (2008). “Moisturizer allergy: diagnosis and management”.

The Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology. 1 (4): 38–44. PMC 3016930 Freely accessible. PMID 21212847.