บำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น
การรักษาริมฝีปากให้เรียบเนียนและชุ่มชื้นนั้นไม่ยากเลย แค่หมั่นทาลิปบาล์มที่อุดมไปด้วยวิตามินและมอยเจอร์ไรเซอร์จนทุกๆคืนก่อนเข้านอนเป็นนิสัย

บำรุงริมฝีปาก

บำรุงริมฝีปาก ด้วยลิปสติก ลิปสติก ไม่ใช่เป็นแค่เครื่องสำอางธรรมดาๆอย่างที่คิด แต่เป็นสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งหน้า สมัยที่เรายังเป็นเด็กอยู่นั้นเวลาที่ส่องดูโต๊ะเครื่องแป้งของคุณแม่เรามักจะหยิบลิปสติกขึ้นมาเป็นอันดับแรกสุด เพราะสีลิปสติกทำให้ภาพลักษณ์ของคนเปลี่ยนไป สีสันของแต่ละวันนั้นจะแตกต่างกันไปตามสีลิปสติกที่เลือก จากภาพลักษณ์บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็นยั่วยวน จากเซ็กซี่เป็นฉลาดเฉลียว จากเย็นชาเป็นกระตือรือร้น ลิปสติกสามารถบำรุงริมฝีปาก ให้เปลี่ยนภาพลักษณ์ได้จากหน้ามือเป็นหลังมือในเวลาสั้นๆ

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

ไอเท็มสำหรับริมฝีปากนั้นเรียบง่ายแต่การเลือกสีลิปสติกไม่ง่ายเลย

1.ลิปบาล์ม

จุดเริ่มต้นของริมฝีปากชุ่มชื้นและสุขภาพดี ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ต้องใช้ลิปบาล์ม ในขั้นตอนของการบำรุงริมฝีปากควรซื้อลิปบาล์มที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนริมฝีปากและทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไว้ด้วยซักชิ้น

2.ลิปสติกสี

ลิปสติกมีหลายประเภท ทั้งลิปกลอส ลิปทินต์ ลิปไลเนอร์ และชนิดอื่นๆ แนะนำให้เลือกซื้อลิปสติกสีที่ชอบไว้หลายๆชิ้นเพื่อจะได้เข้าชุดต่างๆในแต่ละวัน

3.แปรงทาปาก

แม้แต่ความแตกต่างของขอบริมฝีปากเส้นบางๆก็สามารถกำหนดภาพลักษณ์ของเราได้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่งดงามแล้ว แปรงทาปากคือสิ่งจำเป็น

4.เอกซ์โฟลิเอเตอร์สำหรับริมฝีปาก

เป็นไอเท็มที่ใช้กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนริมฝีปาก

5.คอนซีลเลอร์ชนิดดินสอ

ใช้แต่งขอบริมฝีปาก ข้อดีคือทำให้ลิปสติกดูสวยและไม่เลอะเทอะ

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

การดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื้นดูน่าจูบ

  • มาทาลิปบาล์มทุกวันกันเถอะ
    ถึงแม้ว่าจะเผยผิวสวยสมบูรณ์แบบและทาลิปสติกสีสันชวนลุ่มหลงก็ตาม แต่หากเล็ก 10 บาทดูบวมแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เร็ว 10 บาทเรียบเนียนและชุ่มชื้นไม่เพียงจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการแต่งหน้า แต่ยังทำให้ภาพลักษณ์ดูผ่อนคลายด้วย เคล็ดลับในการรักษาริมฝีปากให้เรียบเนียนและชุ่มชื้นนั้นไม่ยากเลย แค่หมั่นทาลิปบาล์มทุกวันจนเป็นนิสัย ทุกๆคืนก่อนเข้านอนให้ทาลิปบาล์มที่อุดมไปด้วยวิตามินและมอยเจอร์ไรเซอร์ บางครั้งการใช้มาสก์สำหรับริมฝีปากชนิดแผ่นก็ยิ่งดี
  • ใส่ใจกับการกำจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพบนริมฝีปาก
    เวลาที่ไม่มีเอกซ์โฟลิเอเตอร์สำหรับกำจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพบนริมฝีปาก ให้ป้ายวาสลีนบนแปรงสีฟันสำหรับเด็กแล้วขัดริมฝีปากอย่างเบามือ จุ่มผ้านุ่มนุ่มๆในน้ำอุ่นแล้วแตะเบาๆลงบนริมฝีปาก ก่อนจะหาน้ำผึ้งซึ่งอุดมไปด้วยความชุ่มชื้น ห้ามดึงขุยที่ปากออกมาเด็ดขาด และห้ามเลียริมฝีปากด้วย
  • ป้องกันริ้วรอยที่ปากกันดีกว่า
    สิ่งที่ผู้หญิงทั้งหลายกว่ากันมากที่สุดเมื่ออายุมากคงหนีไม่พ้นริ้วรอยที่ปากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งเวลาที่ทาลิปสติกจะยิ่งทำให้เห็นริ้วรอยง่ายขึ้นไปอีก ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันริ้วรอยไว้แต่เนิ่นๆ หลังจากล้างหน้า ควรบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นและมันนวดริมฝีปากอยู่เสมอ เวลาทาอายครีมก็ให้ใช้อายครีมทาบริเวณรอบรอบริมฝีปากและคอยนวดไปด้วยจะช่วยป้องกันริ้วรอยรอบริมฝีปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดริมฝีปาก
    ในวันที่ดื่มเครื่องดื่มจำพวกวายหรือเครื่องดื่มที่มีสี ตอนล้างหน้าเราอาจจะไม่ได้สนใจอะไรนัก แต่วันต่อมาอาจพบว่าสีของเครื่องดื่มที่ดื่มไปนั้นยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก หากทาลิปบาล์มหรือลิปกลอสก่อนดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้จะทำให้สีของเครื่องดื่มติดที่ริมฝีปากน้อยลง นอกจากนั้นในวันที่ทาลิปสติกสีเข้มมากๆควรใช้คลีนซิ่งล้างทำความสะอาดริมฝีปากให้หมดจดด้วย หากใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์หรืออายรีมูฟเวอร์ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออกอย่างเบามือ

สนุกกับริมฝีปากด้วยประเภทของลิปสติกต่างๆ

ลิปสติกสีที่เข้ากับคนและค้นทาแล้วรู้สึกดีนั่นแหละคือลิปสติกที่คนต้องการ ลองเปลี่ยนสีรถสติไปตามอารมณ์และสไตล์ในแต่ละวันของคุณ    [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

ลิปสติกเนื้อเชียร์
เป็นลิปสติกที่มีคุณสมบัติระหว่างลิปสติกธรรมดากับลิปกลอส มีเม็ดสีผสมอยู่ในลิปสติกประเภทนี้ไม่มาก เมื่ออยู่ในแท่งอาจดูมีสีเข้ม แต่ทาบนริมฝีปากแล้วจะได้สีอ่อนกว่าที่เห็น เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ชอบลิปสติกสีจัด และอยากให้ริมฝีปากดูเนียนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ลิปชิมเมอร์
เป็นลิปสติกที่ผสมมุก ทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ดูฉ่ำ และแวววาว ข้อดีคือให้สีที่นุ่มนวลและเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก

ลิปสติกชนิดครีม
เป็นลิปสติกที่มีความชุ่มชื้นและให้สีที่เด่นชัด จะมีเม็ดสีที่บางเบามากกว่า และไม่มันวาวมากจนเกินไป ไม่ทำให้ปากแห้ง หากคุณชอบลิปสติกที่ให้สีสดใสหรือชอบลิปสติกที่มีความแวววาว ลิปสติกประเภทนี้เหมาะกับคุณที่สุด

ฟรอสตี้ลิปสติก
เป็นลิปสติกที่มีเนื้อสีเข้มข้น มีประกายมุกและมีส่วนผสมของกริตเตอร์ ทาแล้วริมฝีปากจะดูเปล่งปลั่งสดใสและมีประกาย แต่ไม่มันวาวจนเกินไป

ลิปกลอส
เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ทาบนปากให้ความชุ่มชื้นและมีความแวววาวแต่ติดไม่ทน สีอ่อนๆ เจือจาง มีทั้งเป็นแบบเหลวหรือแบบก้อนในตลับจึงอาจทำให้ต้องทาซ้ำหลายรอบ

ลิปสเตน ลิปทินต์
ลิปสเตนมีจุดกำเนิดมาจากผลิตภัณฑ์แบบลิควิดและเจล มีเม็ดสีผสมอยู่ จึงให้สีที่เป็นธรรมชาติเหมือนกับสีที่ติดริมฝีปากเด็กเวลากินขนมหวาน ลิปสติกประเภทนี้จะไม่เหมือนกับลิปสติกทั่วไปหรือลิปกลอสที่มีเนื้อลื่นลื่นๆ ในกรณีที่ริมฝีปากซีดหรือไม่รู้ทน สีของริมฝีปากตนเอง ให้ทาลิปสเตนเป็นเบสรองไว้ก่อน ทาลิปกลอสหรือลิปสติก เพราะจะช่วยให้สีดูสดขึ้น

ลิปสติกเนื้อแมตต์
ลิปสติกประเภทนี้มีความเข้มข้นของเนื้อสีชัดมากที่สุด เป็นลิปสติกเนื้อด้านที่ไม่มีความมันวาว ทาแล้วจะแห้ง ติดทนนานและอยู่ได้ทั้งวัน สำหรับสาวๆที่มีปัญหาปากแห้งอาจจะไม่เหมาะ เพราะจะทำให้ตกร่อง และเป็นคราบ แนะนำให้ทาลิปบาล์มที่ริมฝีปากให้หนาและชุ่มชื้นก่อนทาลิปสติก  [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

ลิปไลเนอร์
ลิปไลเนอร์ หรือดินสอเขียนขอบปาก ใช้สำหรับเน้นขอบและเรียวปากให้ชัดขึ้น มักจะใช้เป็นสีที่ใกล้เคียงกับลิปสติก โดยใช้วาดขอบก่อนลงลิปสติก จะช่วยให้ริมฝีปากสวยและคมชัดมากขึ้น

สีของลิปสติกช่วยปรับสีผิว

หากผิวมีรอยแดง
ควรหลีกเลี่ยงโทนสีแดง และเลือกใช้โทนสีชมพูอ่อน พีชอ่อน หรือโทนสีกลางกลางประเภทสีนู้ดหรือสีเบจ จะช่วยกลบเกลื่อนไม่ให้เห็นรอยแดงได้

หากผิวซีดเหมือนคนป่วย
ควรเลือกใช้โทนสีอุ่นอุ่นที่ให้ใบหน้าดูมีสีสัน เช่น สีน้ำตาลแดง สีชมพูแดง หรือสีชมพูพีช เป็นต้น

หากสีผิวหมองคล้ำ
ควรเลือกใช้ลิปสติกแบบเนื้อแมตต์สีฮ็อตพิ้งค์ สีพีช สีส้ม หรือโทนสีแดงสด จากนั้นควรทาลิปกลอสทับด้วย

ปกปิดจุดบกพร่องด้วยลิปสติก

หากคนมีริมฝีปากใหญ่และหนา
หากเลือกทาลิปสติกเนื้อแมทโทนสีธรรมชาติ คุณเองก็จะมีริมฝีปากที่น่าหลงใหลเหมือนแองเจลิน่า โจลี ได้เช่นกันสีที่ควรหลีกเลี่ยงคือสีแดงๆที่ดึงดูดสายตาผู้คน

หากคุณมีเส้นขอบปากเลือนรางไม่ชัดเจน
ใช้ลิปอายไลเนอร์แบบดินสอหรือลิปคอนซีลเลอร์วาดรูปปากให้สวยงามก่อนจะทาลิปสติกผสมมอยส์เจอไรเซอร์และลิปกลอสทับ จะช่วยให้ลิปสติกติดทนนานและเพิ่มความอวบอิ่มได้ในเวลาเดียวกัน

หากคุณมีริมฝีปากบางเล็ก
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ผสมมุกหรือแบบกลอส ลิปสติกเนื้อเชียร์จะช่วยให้ริมฝีปากเล็กๆดูสวยน่ารักขึ้น    [adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

หากคนมีขนาดริมฝีปากบนและล่างไม่เท่ากัน
ใช้ลิปสติก 2 สีที่มีโทนสีใกล้เคียงกัน สีสว่างให้ใช้กับริมฝีปากที่บาง และทาสีเข้มบริเวณริมฝีปากที่หนา การใช้ลิปสติก 2 โทนนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูสวยขึ้นมาทันที

ลิปสติก 3 ชนิดที่ต้องมีไว้

1.ลิปกลอสแบบเอกซ์ตรีม หากมีริ้วรอยบริเวณริมฝีปากหรือริมฝีปากบาง ลิปประเภทนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น

2.ลิปสติกโทนกลางๆ การทาลิปสติกโทนสีธรรมชาติที่มีประกายมุกเล็กน้อยนั้นทำให้คุณดูเจิดจรัสได้

3.ลิปทินต์และลิปบาล์ม ใช้ได้ทุกวันอย่างหายห่วง ควรพกลิปสติกโทนสีเดียวกับสีริมฝีปากธรรมชาติของตนเองไว้ด้วย

เคล็ดลับ 5 ประการในการทาลิปสติกให้ออกมาดูดี

1. หากใช้ดินสอเขียนขอบปากเขียนออกไปด้านนอกให้หนากว่าเส้นขอบปากเดิมเพียง 1 มิลลิเมตร ก็ทำให้ริมฝีปากมีวอลลุ่มและดูอวบอิ่มได้
2. ถ้าลิปสติกสีสดใสบางๆบริเวณด้านในของขอบริมฝีปากเท่านั้น จากนั้นให้ใช้นิ้วเบลนด์ลิปสติกเพื่อให้ดูน่ารักและเป็นธรรมชาติ
3. เวลาทาลิปสติกสีแมตต์ ให้ทารองพื้นสีอ่อนๆทับริมฝีปากก่อน จากนั้นค่อยทาลิปสติกเพิ่มความคมชัด เวลาทาลิปสติกสีสันฉูดฉาดอย่างสีชมพูสดหรือสีนีออน ก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้
4. ถ้าอยากคงความแวววาวเหมือนลิปกลอสเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูคม ให้ทาลิปทินต์ ก่อนทาลิปสติกเนื้อบางเบาหรือนุ่มลื่น
5. ถึงแม้จะเป็นลิปสติกสีแดงเหมือนกัน แต่คนผิวคล้ำให้ทาสีม่วงแดง คนผิวขาวทาสีแดงสด สีม่วงแดงให้ความรู้สึกเซ็กซี่ ส่วนสีแดงสดนั้นให้ความรู้สึกคลาสสิก

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

เบสเมคอัพสำหรับริมฝีปาก 3 ขั้นตอน

1.ทาลิปบาล์ม หากไม่ชอบความเหนอะหนะให้ใช้ลิปสติกแบบแท่ง หากต้องการความชุ่มชื้นให้ใช้แบบครีมหรือแบบบางเนื้อนุ่ม

2.ตกแต่งรอบริมฝีปาก ใช้คอนซิลเลอร์จัดการกับบริเวณรอบริมฝีปาก ขอบปากที่ไม่ชัดเจน และริ้วรอยรอบริมฝีปาก

3. ใช้แป้งหยุดยึดเมคอัพเบส ใช้แป้งฝุ่นกดแป้งปกปิดบางๆ และทำให้สีลิปสติกติดทนนาน

การแต่งขอบปากให้สวยได้รูปด้วยลิสติก

โดยปกติแล้ว เส้นขอบปากที่อยากเป็นรูปหัวใจ เส้นขอบปากด้านในที่เป็นเส้นตรง เวลาหุบปาก ริมฝีปากที่หนากำลังดี มุมปากที่ยกสูงเล็กน้อย ลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นริมฝีปากที่สวยงาม แต่สำหรับคนที่ริมฝีปากบาง หนา ขอบริมฝีปากไม่ชัด หรือให้อยากเป็นรูปหัวใจ

ริมฝีปากบาง

ทำริมฝีปากบางให้ดูอวบอิ่ม
ใช้ลิปสติกชนิดดินสอเขียนขอบริมฝีปากด้านนอกแล้วไล่เข้ามาในด้านในอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นทาคอนซีลเลอร์รอบรอบเส้นลิปสติกให้ดูสะอาดตา แล้วใช้ลิปกลอสหรือลิปสติกเนื้อมันวาวทาริมฝีปากให้เต็ม จะช่วยให้ริมฝีปากดูมีวอลลุ่ม
ทำริมฝีปากใหญ่หนาให้ดูคม
ขณะที่ใช้คอนซีลเลอร์ชนิดดินสอแต่งขอบปาก ให้จำไว้ว่าต้องลดขนาดริมฝีปากลงมาเพียง 1 มิลลิเมตร ใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์โทนสีธรรมชาติตกแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติ จะทำให้ริมฝีปากที่น่าหนักใจนั้นดูดีขึ้น
ทำริมฝีปากที่หมองคล้ำให้ดูสะอาดตา
ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ สีริมฝีปากก็ดูไม่สว่างสดใสและริมฝีปากดูบ้านออกด้านข้าง ให้ใช้ดินสอคอนซีลเลอร์แต่งบริเวณรอบริมฝีปากที่หมองคล้ำ จากนั้นทาลิปสติกโทนสีธรรมชาติตามแต่บรรยากาศ

ริมฝีปากรูปหัวใจ

ทำริมฝีปากรอยหยักแหลมให้ดูกลม ใช้คอนซีลเลอร์ชนิดดินสอเขียนขอบปากบริเวณรอยหยักด้านบนทั้งสองด้านให้โค้งเป็นวงกลมต่ำๆ

หากริมฝีปากไม่มีรอยหยัก ให้ใช้คอนซีลเลอร์ชนิดดินสอเขียนริมฝีปากด้านบนให้เหมือนรอยหยักด้านบนของรูปหัวใจ

แต่งริมฝีปากให้ดูแนบเนียน

เวลาที่จัดแต่งรูปริมฝีปาก ให้ใช้คอนซีลเลอร์ชนิดดินสอโทนสีเดียวกับสีผิว เพื่อให้ลิปสติกทั้งติดแน่นและทนทาน หากใช้ดินสอเขียนขอบปาก ต้องเลือกลิปสติกสีเดียวกันจึงจะดูเป็นธรรมชาติ

ลิปสติกสีชมพูเผยความน่ารักของหญิงสาว

สีชมพูก็เป็นสียอดฮิต ที่ไม่เคยตกเทรนด์แม้แต่ครั้งเดียว แถมยังเป็นสีที่ดูน่ารักอยู่เสมอ และเป็นสีที่เลือกใช้ได้โดยไม่รู้สึกหนักใจ มีลิปสติกสีชมพูเพียงแท่งเดียวก็เปลี่ยนลุคได้อย่างสิ้นเชิง โดยขึ้นอยู่กับวิธีการทา สี และเนื้อลิปสติก

ริมฝีปากสีชมพูน่ารักส่องแสงแวววาว

  • แต่งเมคอัพเบสแบบเปลือยผิวหน้าชุ่มชื้น
  • ใช้คอนซีลเลอร์ชนิดลิควิดสีสว่างทาขอบปากและปกปิดริ้วรอยโดยรอบ แล้วแต่งริมฝีปากให้ดูเป็นรูปหัวใจ
  • ใช้ลิปกลอสแต้มๆริมฝีปาก นอกจากจะทำให้ดูเด็กแล้วยังทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
    หากใช้อายไลน์เนอร์ชนิดดินสอสีขาวเขียนขอบตาด้านล่างจะให้ความรู้สึกของสาวน้อยไร้เดียงสาและดูสะอาดตา

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

ริมฝีปากชมพูสีชิคติดเทรนด์

  • แต่งเมคอัพเบสแบบผิวแกลมบรอนซ์
  • ทาแป้งฝุ่นบนริมฝีปากบางๆ เพื่อให้สีลิปสติกติดทนทาน
  • ทาลิปสติกฮ็อตพิ้งค์เนื้อแมตต์ด้วยแปรงทาลิปสติกเพื่อให้ริมฝีปากดูชัดสะอาดตา และให้ความรู้สึกละเอียดอ่อน
    ถ้าเขียนขอบตาล่างด้วยอายไลเนอร์ชนิดดินสอสีทองจะให้ลุคสวยคม

ลิปสติกแดงคลาสสิคตลอดกาล

ลิปสติกสีแดงเป็นที่ต้องการของสาวๆทุกยุคทุกสมัยทุกแห่งหน การทาลิปสติกสีแดงในชีวิตประจำวันนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ลิปสติกสีนี้ยังเป็นไอเทมคลาสสิคตลอดกาลที่ขาดไม่ได้ เป็นเพราะว่าเพียงทาลิปสติกสีแดงก็เปลี่ยนลุคคุณให้อยู่ในลุคงานปาร์ตี้ที่แสนยอดเยี่ยม ลูกสาวสีแดงสง่างามหรือลูกสาวโลลิต้าเซ็กซี่ที่ดูเย็นชาได้

ริมฝีปากแดงน่ารักอ่อนเยาว์

  • ลงเมคอัพเบสแบบผิวสะอาดใสไร้จุดด่างดำ
  • ทาลิปสติกสีแดงยั่วยวนเนื้อชุ่มชื้นโดยการแต้มเป็นจุดจุดให้ทั่วริมฝีปาก
  • ใช้นิ้วแตะเกลียดลิปสติกจนกระทั่งสีลิปสติกซึมซาบทั่วริมฝีปากอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ถ้าลิปกลอสให้ริมฝีปากดูแวววาว
    เวลาลงเมคอัพเบสให้ใช้ทินต์ที่ผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือรองพื้นแบบน้ำเพื่อให้ผิวดูกระจ่างใส และควรใช้แป้งให้น้อยที่สุด

ริมฝีปากสีแดงเข้มสไตล์สาวยุคใหม่

  • ลงเมคอัพเบสแบบผิวเนียนนุ่มที่มีความแวววาว
  • ใช้คอนซีลเลอร์แต่งรอบริมฝีปาก
  • ขีดเส้นแบ่งบริเวณกลางริมฝีปาก จากนั้นขึ้นโครงลิปสติกโดยเริ่มจากมุมปากมายังตรงกลาง
  • ค่อยๆใช้แปรงเติมลิปสติกให้ทั่วริมฝีปาก
    ผิวที่แต่งจนสวยสมบูรณ์ได้รองพื้นและแป้ง เมื่อทาลิปสติกสีแดง ถึงแม้จะดูเซ็กซี่ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเรียบร้อยด้วย

การรักษาริมฝีปากให้เรียบเนียนและชุ่มชื้นนั้นไม่ยากเลย แค่หมั่นทาลิปบาล์มที่อุดมไปด้วยวิตามินและมอยเจอร์ไรเซอร์จนทุกๆคืนก่อนเข้านอนเป็นนิสัย

การทำความสะอาดใบหน้าสำคัญตั้งแต่ต้นจนจบ

เตรียมผิวยามเช้าให้ชุ่มชื่นและสดชื่น
ถ้าไม่ใช้กลางฤดูร้อนที่หน้ามันอย่างรุนแรงหรือมีผิวธรรมชาติที่ค่อนข้างมัน ในตอนเช้าให้ลดการใช้โฟมล้างหน้าหรือสบู่แล้วล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเท่านั้น เพราะน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาตามธรรมชาติและดองกันคืนถือเป็นปราการธรรมชาติที่ช่วยรักษาผิวให้ชุ่มชื้น หัวใจสำคัญของการล้างหน้าในตอนเช้าคือ การกำจัดฝุ่นและน้ำมันส่วนเกินออกเพื่อให้แต่งหน้าได้สวย ถ้าผิวในยามเช้าที่เซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกมาจนไม่เนียนเรียบ ให้ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยนไร้สารกระตุ้น หรือเอกซ์โฟลิเอเตอร์ หลังจากใช้เอกซ์โฟลิเอเตอร์แล้ว อย่าลืมดูแลเรื่องความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นด้วย

ล้างให้สะอาดเอี่ยมถึงร่องรูขุมขน
การล้างหน้าในยามกลางคืนเป็นการปลดปล่อยผิวที่ทนทุกข์ทรมานกับเครื่องสำอางและสารตกค้างจากมลพิษหลากหลายชนิดมาตลอดทั้งวัน และนอกจากนั้นเรายังต้องทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวเป็นประจำทุกวัน ซึ่งยิ่งทำให้เราต้องทำความสะอาดรูขุมขนให้สะอาดมากขึ้นเป็นพิเศษ อันดับแรกกำจัดเครื่องสำอางออกให้หมดจดด้วยคลีนซิ่งมิลค์ เจล หรือออยล์ และต้องปิดท้ายด้วยการใช้โฟมหรือสบู่ ทำความสะอาดหน้าซ้ำสอง หลังจากกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในผิวออกหมดจดแล้ว ต้องแทนที่สิ่งนั้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และสารบำรุงผิว ใช้ปลายนิ้วกดนวดให้ทั่วเพื่อให้ครีมบำรุงซึมซาบสู่ชั้นผิวจนกว่าผิวจะซึมซับความชุ่มชื้นจากสกินแคร์ได้ ผิวที่ซึมซับสารอาหารนั้นจะได้รับการฟื้นฟูอย่างยอดเยี่ยมในช่วงกลางคืน

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

ทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตาอย่างหมดจด
ถ้าไม่ลบสโมคกี้อายหรืออายไลเนอร์สีเข้มออกให้ถูกวิธี สีผิวบริเวณรอบดวงตาจะค่อยๆเปลี่ยนไป ทำความสะอาดรอบดวงตานั้นจึงต้องพิถีพิถันและอ่อนโยน ห้ามขยี้ตาแรงๆ การทำความสะอาดมาสคาราชนิดกันน้ำให้สะอาดหมดจดนั้น ให้ใช้อายรีมูฟเวอร์ซึ่งเป็นน้ำยาทำความสะอาดรอบดวงตาโดยเฉพาะ เทใส่สำลีสำหรับลบเครื่องสำอางให้ชุ่ม แล้ววางไว้บนเปลือกตาลาว 10 วินาทีจากนั้นค่อยๆเสร็จลงมาด้านล่างอย่างอ่อนโยน แล้วก็เช็ดขึ้นไปตามแนวขนตาหลายๆครั้ง สำหรับบริเวณแนวขนตาด้านในนั้นให้ใช้สำลีก้านจุ่มอายรีมูฟเวอร์แล้วเช็ดบริเวณเส้นขนตาจะลบออกได้ง่ายขึ้น

แนะนำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวต่างๆ

1. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ไร้สารกระตุ้นและช่วยปลุกผิวให้ตื่นขึ้นอย่างสดชื่น

  • Herbal Soap สบู่สมุนไพรจากธรรมชาติที่ผลิตจากกลีเซอรีนบริสุทธิ์ ปราศจากน้ำหอมและสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวซึ่งจะไม่เป็นอันตรายต่อผิวพรรณ สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและช่วยบำรุงผิวในตัว ใช้ได้กับทุกสภาพผิวหรือผิวบอบบางแพ้ง่าย
  • Clarins Water Comfort One-Step Cleanser น้ำที่สกัดจากลูกพีช ทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน และช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง
  • Fresh Cucumber Cleansing Foam Foam cleanser โฟมคลีนเซอร์กลิ่นแตงกวาอ่อนๆ ทั้งอ่อนโยนและสดชื่น เหมาะสำหรับผิวมัน
  • Kiehl’s Foaming Non-Detergent Washable Cleanser Cleanser ที่อ่อนโยนและสดชื่น เหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมัน

2. เมคอัพรีมูฟเวอร์สำหรับดวงตาที่ระคายเคืองได้ง่าย

  • Lancôme Bi-Facil ผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติปริมาณมาก เนื้อผลิตภัณฑ์นุ่มและอ่อนโยน
  • VIDIVCI Professional Lip & Eye Remover ลบเครื่องสำอางหนักหนักได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อีกครั้งยังคงความชุ่มชื้นไว้
  • Kiss Me Active Girl Mascara Remover ใช้แปรงจุ่มรีมูฟเวอร์แล้วปัดไปตามขนตา จะช่วยลบเรือนเครื่องสำอางได้ง่ายขึ้น

3. ทำความสะอาดให้มีประสิทธิภาพสูงและช่วยให้ผิวผ่อนคลาย

  • VIDIVICI Creamy Soft Cleanser คลีนเซอร์ชนิดแป้ง ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก กระชับรูขุมขน และจัดการกับเซลล์ผิวเสื่อมสภาพทั้งหมดในขั้นตอนเดียว
  • Shu Uemura White Recovery EX+ Brightening Cleansing Oil คลีนเซอร์ชนิดออยล์ ทำความสะอาดผิวได้อย่างยอดเยี่ยม และทำให้ผิวขาวกระจ่างใส
  • Kanebo Moist up Wash ผลิตภัณฑ์ชนิดน้ำนมที่มีฟองนุ่ม ช่วยขจัดสารตกค้างในผิวและเซลล์ที่เสื่อมสภาพ

การแต่งหน้าให้ผู้ชาย

Tip1

ผู้ชายมักให้ความสำคัญกับการดูแลสภาพผิว สิ่งสำคัญคือการแต่งผิวให้เป็นธรรมชาติ ถึงแม้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่สว่างกว่าโทนผิวตัวเองเล็กน้อยก็ทำให้มองเห็นความแตกต่างได้ จึงต้องพยายามพูดพูดให้ผู้ชายเลือกหารองพื้นมาทาใบหน้าบ้าง ผู้ชายที่กังวลเกี่ยวกับรอยสิวหรือตำหนิบนใบหน้า และคิดว่าการใช้รองพื้นปกปิดรอยต่างๆ เป็นเรื่องอันตรายนั้น เราต้องทำให้เข้าใจว่านั่นเป็นเรื่องที่ทำได้และเห็นผลจริง การทารองพื้นอย่างบางเบาให้ทั่วและใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดจุดด่างดำนั้นจะดูเป็นธรรมชาติ

แนะนำรองพื้น

• VIDIVICI I Platinum White Dewy Glow Liquid Compact
หลังจากทาแล้วทำให้รู้สึกผิวนุ่มสบายเหมือนฝ้าย จึงไม่ต้องทาแป้งเพิ่ม เนื่องจากเป็นรองพื้นชนิดอัดแข็งใช้มือทาก็ได้ จึงค่อนข้างสะดวก เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นโปรดของสไตลิสท์ของยุนกีที่บอกว่า ถ้าไม่มีชิ้นนี้ก็จะไม่ออกจากบ้านเลยทีเดียว

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

Tip2

ผู้ชายก็อยากมีผิวสะอาดสุขภาพดี สิ่งสำคัญที่สุดที่สุดคือครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื้น เพราะผู้ชายต้องโกนหนวด ผิวจึงหยาบกร้านและแห้งง่าย ต้องทาโลชั่นหรือครีมผสมมอยเจอร์ไรเซอร์หลังล้างหน้า นอกจากนี้พวกผู้ชายมักทำกิจกรรมกลางแจ้ง จึงต้องรู้ถึงอันตรายของรังสียูวีไว รังสีที่ว่านี้คือผู้ร้ายที่ทำให้ผิวแก่กว่าวัยและเกิดจุดด่างดำต่างๆ ดังนั้นต้องเตรียมครีมกันแดดเอาไว้จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง

แนะนำเครื่องสำอางพื้นฐาน

  • Laneige Homme I Aqua Active Sleeping Pack
    มาร์คมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ชนิดเจลบางเบาที่คือความชุ่มชื้นและความมีชีวิตชีวาให้ผิวที่เหนื่อยล้าจากความเครียดในขณะหลับ
  • L’Oréal Paris Men Expert I White Activ Oil Control Moisturizer
    Moisturizer บำรุงผิวมันและปรับสีผิวที่หมองคล้ำลงเพราะไขมันบนผิวหนังมีมากเกินให้ดูเนียนนุ่มและกระจ่างใส เป็นโลชั่นที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้รู้สึกสดชื่นตลอดทั้งวัน
  • Mise en scéne I Men Sebum Control BB Cream SPF 12 PA++
    โลชั่นสีเนื้อบางเบาและไม่มันวาว ทำหน้าที่เป็นโลชั่นกันแดดไปพร้อมพร้อมกับช่วยปกปิด

Tip3

ผู้ชายจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญกับการแต่งคิ้ว คิ้วทำหน้าที่เหมือนหลังคาของใบหน้า แนะนำให้แต่งคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่อย่าแต่งมากจนเกินไป ควรแต่งให้ดูสะอาดตาด้วยการเล็มขนด้านล่างที่ดูรกรุงรังก็พอ หลังจากนั้นใช้ดินสอเขียนคิ้วเติมบริเวณที่ไม่มีขนคิ้วหรือไม่ก็ปัดมาสคาร่าสำหรับคิ้วให้คิ้วดูหนาขึ้น เพียงเท่านี้ก็แจ้งเกิดหนุ่มหล่อที่ดูสะอาดและมาดแมนได้แล้ว

แนะนำผลิตภัณฑ์สำหรับคิ้ว
ถ้าใช้ดินสอเขียนคิ้วจนเข้มอาจจะทำให้ดูตลกและแปลกได้ มาสคาร่านั้นจะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ขนคิ้วทีละเส้นอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับคิ้วตัวเองจริงๆ และยังทำให้ดูมีคิ้วเยอะและเข้มอีกด้วย เธอเป็นไอเท็มที่ควรมีไว้
– VIDIVICI I Perfect Eyebrow Mascara
ชนิดเจลใสที่มีสีน้ำตาลอ่อนเจืออยู่ ใช้แปรงจุ่มเนื้อเจลแล้วปัดไปตามทิศทางของขนคิ้ว

Tip4
ริมฝีปากมีบทบาทสำคัญต่อภาพลักษณ์ภายนอก ผู้ชายที่มีหรือฝีปากคล้ำหรือแห้งแตกจะดูอ่อนพญาและอาจดูไม่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแฟนหนุ่มทำงานที่ต้องพบปะผู้คนใหม่ๆแล้วล่ะก็ ควรจะให้ลิปบาล์มเป็นของขวัญ แล้วแนะนำให้ทาบ่อยๆ แทนที่จะเลือกลิปบาล์มแบบครีม ก็เลือกแบบแท่งที่บางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วงกลางวันก็ใช้ได้โดยไม่รู้สึกลำบากใจ

การทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า

ถ้าอยู่ๆสิวขึ้นโดยไม่มีสาเหตุจนแต่งหน้าไม่สวยแล้วเรา ก่อนที่จะโทษเครื่องสำอางหรือผิวให้ลองตรวจสอบสภาพอุปกรณ์แต่งหน้าก่อน เพราะเป็นสิ่งที่สัมผัสกับเครื่องสำอางโดยตรง หากสกปรกหรือหมักหมมมากก็จะเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย ถ้าไม่ได้จัดการและทำความสะอาดอย่างถูกต้องเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์ อุปกรณ์เหล่านั้นจะกลายเป็นยาพิษสำหรับผิวได้

ฟองน้ำสำหรับรองพื้น
เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรองพื้นชนิดลิควิด เหมาะกับใช้ในเวลาเร่งรีบ เนื้อรองพื้นจึงซึมเข้าไปข้างใน จึงทำความสะอาดให้หมดจดได้ยาก โดยเฉพาะรองพื้นด้วยแล้ว ถือเป็นเครื่องสำอางที่ทำให้เชื้อโรคสะสมได้ง่ายที่สุดในบรรดาเครื่องสำอางทั้งหมด ( ฟองน้ำสำหรับรองพื้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ถ้าทำความสะอาดจะทำให้แข็งหรือลุ่ยได้ แทนที่จะทำความสะอาดแล้วนำมาใช้ได้อีกครั้ง แนะนำให้ใช้กรรไกรตัดบริเวณที่ใช้แล้วทิ้ง แล้วเก็บส่วนที่เหลือที่สะอาดไว้ใช้ครั้งต่อไป )

แปรงทาแป้งและแปรงทาบลัชออน
เพราะเป็นแปรงที่ต้องสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ชนิดแป้งจึงไม่ค่อยสะสมเชื้อโรค แต่ก็ไม่ควรเก็บในที่ที่มีความชื้นสูง ควรทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง ( ผสมน้ำยาทำความสะอาดที่มีค่าเป็นกลางหรือน้ำยาทำความสะอาดแปรงโดยเฉพาะลงในน้ำอุ่นแล้วทำความสะอาดแปรง หรือล้างด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน หากต้องการรักษาความนุ่มของแปรงไว้ให้ล้างแปรงในน้ำผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกจากแปรงจนหมด แล้วตากให้แห้งในที่ร่มซึ่งมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก )

[adinserter name=”ความงามและผิวพรรณ”]

แปรงทาอายไลเนอร์และแปรงทาปาก
แปลงเหล่านี้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ง่ายที่สุด ใช้แค่เพียงครั้งเดียว เครื่องสำอางก็จับติดเป็นก้อนแข็งได้ โดยเฉพาะแปรงทาปากต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเวลาใช้เติมลิปสติกอาจมีเศษอาหารติดไปด้วย แปรงทาอายไลเนอร์ก็เหมือนกัน อาจทำให้ตาติดเชื้อได้ จึงต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ ( ทุกวันก่อนใช้แปรง ให้ใช้กระดาษทิชชูหรือสำลีที่ใช้กับเครื่องสำอางจมน้ำยาทำความสะอาดแปรงในปริมาณที่พอเหมาะแล้วเช็ดทำความสะอาดแปรงเบาเบา จากนั้นใช้กระดาษทิชชูแผ่นใหม่จัดแต่งทรงแปลงแล้วเช็ดน้ำยาออก รอให้แห้งแล้วจึงนำไปใช้ หรือจะใช้ อายรีมูฟเวอร์ก็ได้ ควรใช้แชมพูหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีค่าเป็นกลางทำความสะอาดแปลงเหล่านี้ แล้วใช้น้ำอุ่นล้างออกสัปดาห์ละครั้ง )

พัฟฟ์ทาแป้ง
พัฟฟ์ทาแป้งเป็นอุปกรณ์ที่ทำจากผ้าที่มีขนอ่อนนุ่ม ใช้ทาแป้งฝุ่นหรือป้งอัดแข็ง จึงมีโอกาสสัมผัสกับอากาศอยู่บ่อยๆ ฝุ่นขนาดเล็กจึงเข้าไปติดอยู่ข้างในได้ง่าย แป้งกับพัฟฟ์ต้องเก็บแยกกัน และถ้าซื้อพัฟฟ์หลายๆชิ้นมาใช้ควรจะเก็บไว้ในกระเป๋าที่มีซิป ( แช่พัฟฟ์ในน้ำที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดพัฟฟ์โดยเฉพาะ หรือน้ำอุ่น ประมาณ 5-10 นาที นาทีแล้วบีบทำความสะอาดเบาๆ จากนั้นใช้น้ำล้างทำความสะอาด แล้วตากให้แห้งในที่ร่ม ซึ่งมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ถ้าไม่มีน้ำยาทำความสะอาดพัฟฟ์โดยเฉพาะก็ใช้โฟมล้างหน้าแทน )

ที่ดัดขนตา
ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบางจึงติดเชื้อโรคได้ง่าย ควรใช้อายรีฟมูฟเวอร์เช็ดทำความสะอาดบริเวณครีมที่ใช้หนีบอย่างสม่ำเสมอ และก่อนใช้ให้ตรวจสอบจนแน่ใจว่ายางด้านในไม่แต่เป็นรอย เพื่อให้ได้เกิดอุบัติเหตุในการดัดขนตา และเปลี่ยนยางรองทุก 2-3 เดือน

การเก็บรักษาเครื่องสำอางตามฤดูกาล

ถ้าหากอยากใช้เครื่องสำอางประเภทที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่ใช้ในฤดูร้อน หรือรองพื้นชนิดครีมที่ใช้ในฤดูหนาวในปีต่อไปด้วยแล้วเราก็ เพียงเก็บรักษาเครื่องสำอางเหล่านั้นให้ดีๆ เพราะฤดูกาลเวียนมาใหม่ก็นำออกมาใช้อีกครั้ง ก้อนเก็บรักษาให้ทำความสะอาดบริเวณฝา ปากขวด หรือขอบกระปุกเครื่องสำอาง จากนั้นปิดฝาให้สนิท ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วเก็บในกระเป๋าซิป หากนำกระเป๋าซิปนี้ไปเก็บไว้ในตู้เย็นสำหรับเก็บเครื่องสำอาง หรือวางไว้ในตู้เย็นธรรมดาในช่องใส่ผลไม้ ปีต่อไปก็นำออกมาใช้ได้อย่างสบายใจ

[adinserter name=”navtra”]

วันหมดอายุของเครื่องสำอาง

  • ประเภทสกินแคร์พื้นฐาน
    3 ปีหากยังไม่เปิดใช้หรือ 1 ปีหลังเปิดใช้แล้ว
  • รองพื้นและเมคอัพเบส
    2-3 ปีหากยังไม่เปิดใช้ หรือ1½ ปีหลังเปิดใช้แล้ว ห่างเนื้อเครื่องสำอางตกตะกอนแยกชั้น จับตัวเป็นก้อนหรือเปลี่ยนสี ต้องทิ้งสถานเดียว
  • ลิปสติกและลิฟกลอส
    2 ปีหลังเปิดใช้แล้ว ลิปสติกตอบสนองต่ออุณหภูมิได้ไว จึงควรเก็บรักษาในที่เย็น ใช้ลิปกลอสให้หมดภายใน 6 เดือน และใช้กระดาษทิชชูเช็ดบริเวณปลายปลอกทุกครั้ง
  • มาสคารา
    2-3 ปีหากยังไม่เปิดใช้ หรือ 6 เดือนหลังเปิดใช้แล้ว เป็นเครื่องสำอางที่มีอายุการใช้งานสั้นที่สุด ถ้าจุ่มมาสคาราน้อยครั้ง แปรงมาสคาราก็จะแข็งน้อยลงด้วย
  • อายแชโดว์
    5 ปีหลังเปิดใช้แล้ว ถ้าเป็นชนิดครีมควรใช้ให้หมดภายใน1½ ปี
  • แชมพูสระผมและครีมนวดผม
    3 ถึง 5 ปีหากยังไม่เปิดใช้หรือ 1 ปีหลังเปิดใช้แล้ว เพราะวางไว้ในที่ที่ความชื้นสูง หลังจากใช้เสร็จต้องปิดฝาให้สนิทและทำความสะอาดฝาจนเป็นนิสัย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เอกสารอ้างอิง

ลีคยองมิน : เขียน; ชนามาศ เพ็งสมบูรณ์: อยากสวยต้องกล้าแต่ง : แปล จาก My sweet makeup recipes อยากสวยต้องกล้าแต่ง : กรุงเทพฯ : Steps อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2558.