
Free PSA คืออะไร?
Free PSA หรือ Free Prostate-Specific Antigen คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ผลิตโดยเซลล์ต่อมลูกหมากและพบได้ในเลือดในรูปแบบ “อิสระ” หรือไม่ได้จับกับโปรตีนอื่น การตรวจวัดระดับ Free PSA นี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อช่วยวินิจฉัยแยกแยะภาวะที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมาก เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก, ต่อมลูกหมากโต (BPH) หรือ การอักเสบของต่อมลูกหมาก (Prostatitis) ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ความสำคัญของ Free PSA ต่อการคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
Free PSA มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการคัดกรองโรค โดยเฉพาะเมื่อระดับ [Total PSA] อยู่ในช่วง “เทา” คือระหว่าง 4.0 – 10.0 ng/mL ซึ่งไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งหรือไม่ การตรวจอัตราส่วนระหว่าง Free PSA ต่อ Total PSA ช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงได้ดีกว่า ลดโอกาสในการตัดชิ้นเนื้อ (biopsy) โดยไม่จำเป็น
Free PSA แตกต่างจาก Total PSA อย่างไร?
ประเภท | รายละเอียด |
Total PSA | รวมทั้ง Free PSA และ PSA ที่จับกับโปรตีนอื่น |
Free PSA | เฉพาะส่วนที่ลอยอยู่ในเลือดแบบอิสระ |
ค่าที่มีความหมาย | สัดส่วน Free PSA/Total PSA มีบทบาทมากเมื่อ Total PSA อยู่ในช่วง 4–10 ng/mL |
หากสัดส่วน Free PSA ต่ำ (<10%) อาจหมายถึงความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากสูง ในขณะที่ Free PSA สูงกว่า 25% บ่งชี้ว่าความเสี่ยงต่ำ
ขั้นตอนการตรวจ Free PSA
- เจาะเลือดจากเส้นเลือดดำที่แขน
- ส่งเลือดไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวัดค่าทั้ง Total และ Free PSA
- คำนวณอัตราส่วน Free PSA/Total PSA เพื่อประเมินความเสี่ยง
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
- งดการขี่จักรยาน การมีเพศสัมพันธ์ และกิจกรรมที่กดทับต่อมลูกหมากภายใน 48 ชั่วโมง
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและโรคประจำตัว
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าผลตรวจ Free PSA
ปัจจัย | ผลกระทบต่อค่า |
การอักเสบของต่อมลูกหมาก | อาจทำให้ค่า Free และ Total PSA สูงขึ้นชั่วคราว |
การออกกำลังกายหนัก | โดยเฉพาะกิจกรรมกดทับ เช่น ปั่นจักรยาน |
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ | เพิ่มระดับ PSA โดยไม่เกี่ยวกับมะเร็ง |
การมีเพศสัมพันธ์ | อาจเพิ่มค่า PSA ชั่วคราว |
การแปลผลค่า Free PSA อย่างแม่นยำ
- Free PSA >25% → ความเสี่ยงต่ำ
- Free PSA 10–25% → ความเสี่ยงปานกลาง
- Free PSA <10% → ความเสี่ยงสูง ควรพิจารณา biopsy เพิ่มเติม
หมายเหตุ: การแปลผลควรพิจารณาร่วมกับอาการ เช่น ปัสสาวะผิดปกติ, ปวดในอุ้งเชิงกราน, ประวัติครอบครัว
Free PSA ในบริบทของโรคต่างๆ
- มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer): ค่า Free PSA มักต่ำกว่าปกติ
- ต่อมลูกหมากโต (BPH): Free PSA และ Total PSA อาจสูง แต่สัดส่วนปกติ
- การอักเสบของต่อมลูกหมาก: PSA อาจสูงทั้งคู่ แต่ไม่ใช่จากมะเร็ง
Free PSA กับการวินิจฉัยร่วมกับเครื่องมืออื่น
- MRI ต่อมลูกหมาก: ใช้เมื่อต้องการภาพแม่นยำก่อน biopsy
- PHI (Prostate Health Index): ค่าที่รวม Total PSA, Free PSA และ [-2]proPSA
- Biopsy: พิจารณาทำเมื่อค่าบ่งชี้ถึงความเสี่ยงสูง
คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีค่า Free PSA ต่ำกว่าปกติ
- ไม่ควรวิตกเกินไป
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตรวจเพิ่มเติม เช่น MRI หรือ Biopsy
- ควรตรวจติดตามซ้ำทุก 6-12 เดือนตามคำแนะนำ
การดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมาก
อาหารที่ช่วยลดความเสี่ยง
- ผักใบเขียว, แครอท, มะเขือเทศ (ไลโคปีนสูง)
- ปลาไขมันดี เช่น แซลมอน, ซาร์ดีน
- ลดเนื้อแดงและไขมันอิ่มตัว
พฤติกรรมที่ควรปฏิบัติ
- ออกกำลังกาย 150 นาที/สัปดาห์
- เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำมากพอและปัสสาวะสม่ำเสมอ
เมื่อไรควรตรวจ Free PSA?
- ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป
- มีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะติดขัด
- มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ตรวจพบค่า Free PSA ต่ำ
- อย่าด่วนสรุปว่าตนเองเป็นมะเร็ง
- พิจารณาการตรวจ MRI ร่วมด้วย
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ
Free PSA กับการพยากรณ์โรคและการติดตามผล
- ใช้ติดตามผลการรักษาหลังผ่าตัดหรือฉายแสง
- ค่าที่ลดลงหลังการรักษาหมายถึงผลตอบสนองที่ดี
- หากค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินการกลับเป็นซ้ำ
สรุป: Free PSA คือกุญแจสำคัญสู่การวินิจฉัยอย่างแม่นยำ
- Free PSA เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่แม่นยำและลดความจำเป็นในการตัดชิ้นเนื้อโดยไม่จำเป็น
- ใช้ร่วมกับ Total PSA, MRI และ PHI เพื่อประเมินแบบองค์รวม
- ผู้ชายควรเข้ารับการตรวจสุขภาพต่อมลูกหมากสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
FAQ: คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ Free PSA
Q: ตรวจ Free PSA เมื่อไหร่จึงเหมาะสม?
A: เมื่อค่า Total PSA อยู่ในช่วง 4–10 ng/mL หรือมีอาการผิดปกติ
Q: ค่า Free PSA ต่ำ = เป็นมะเร็งแน่นอนหรือไม่?
A: ไม่แน่นอน ต้องพิจารณาร่วมกับค่า Total PSA และ MRI
Q: การมีเพศสัมพันธ์ก่อนตรวจมีผลต่อผลตรวจหรือไม่?
A: มี ควรงดก่อนตรวจอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
Q: Free PSA ต้องตรวจทุกปีหรือไม่?
A: ถ้ามีความเสี่ยงต่ำ อาจตรวจทุก 1–2 ปี แต่ถ้ามีความเสี่ยงสูง ควรตรวจถี่ขึ้นตามคำแนะนำแพทย์
Q: ค่า Free PSA ปกติ = ไม่มีมะเร็งแน่นอนหรือไม่?
A: ไม่ใช่ ค่าปกติช่วยลดความเสี่ยงแต่ไม่ได้การันตี 100%
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.