Free PSA คืออะไร? ค่าที่ช่วยประเมินมะเร็งต่อมลูกหมากแม่นยำขึ้น

0
8464
Free PSA สารวัดค่าโรคมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดใหม่
Free PSA เป็นสารที่ได้มาจากสารชีวเคมีแปลกปลอมจากต่อมลูกหมาก สารตัวนี้จะลอยอยู่ในกระแสเลือดอย่างอิสระ

Free PSA คืออะไร?

Free PSA หรือ Free Prostate-Specific Antigen คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ผลิตโดยเซลล์ต่อมลูกหมากและพบได้ในเลือดในรูปแบบ “อิสระ” หรือไม่ได้จับกับโปรตีนอื่น การตรวจวัดระดับ Free PSA นี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อช่วยวินิจฉัยแยกแยะภาวะที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมาก เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก, ต่อมลูกหมากโต (BPH) หรือ การอักเสบของต่อมลูกหมาก (Prostatitis) ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ความสำคัญของ Free PSA ต่อการคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก

Free PSA มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการคัดกรองโรค โดยเฉพาะเมื่อระดับ [Total PSA] อยู่ในช่วง “เทา” คือระหว่าง 4.0 – 10.0 ng/mL ซึ่งไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งหรือไม่ การตรวจอัตราส่วนระหว่าง Free PSA ต่อ Total PSA ช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงได้ดีกว่า ลดโอกาสในการตัดชิ้นเนื้อ (biopsy) โดยไม่จำเป็น

Free PSA แตกต่างจาก Total PSA อย่างไร?

ประเภท รายละเอียด
Total PSA รวมทั้ง Free PSA และ PSA ที่จับกับโปรตีนอื่น
Free PSA เฉพาะส่วนที่ลอยอยู่ในเลือดแบบอิสระ
ค่าที่มีความหมาย สัดส่วน Free PSA/Total PSA มีบทบาทมากเมื่อ Total PSA อยู่ในช่วง 4–10 ng/mL

หากสัดส่วน Free PSA ต่ำ (<10%) อาจหมายถึงความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากสูง ในขณะที่ Free PSA สูงกว่า 25% บ่งชี้ว่าความเสี่ยงต่ำ

ขั้นตอนการตรวจ Free PSA

  1. เจาะเลือดจากเส้นเลือดดำที่แขน
  2. ส่งเลือดไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวัดค่าทั้ง Total และ Free PSA
  3. คำนวณอัตราส่วน Free PSA/Total PSA เพื่อประเมินความเสี่ยง

การเตรียมตัวก่อนตรวจ

  • งดการขี่จักรยาน การมีเพศสัมพันธ์ และกิจกรรมที่กดทับต่อมลูกหมากภายใน 48 ชั่วโมง
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาและโรคประจำตัว

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าผลตรวจ Free PSA

ปัจจัย ผลกระทบต่อค่า
การอักเสบของต่อมลูกหมาก อาจทำให้ค่า Free และ Total PSA สูงขึ้นชั่วคราว
การออกกำลังกายหนัก โดยเฉพาะกิจกรรมกดทับ เช่น ปั่นจักรยาน
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เพิ่มระดับ PSA โดยไม่เกี่ยวกับมะเร็ง
การมีเพศสัมพันธ์ อาจเพิ่มค่า PSA ชั่วคราว

การแปลผลค่า Free PSA อย่างแม่นยำ

  • Free PSA >25% → ความเสี่ยงต่ำ
  • Free PSA 10–25% → ความเสี่ยงปานกลาง
  • Free PSA <10% → ความเสี่ยงสูง ควรพิจารณา biopsy เพิ่มเติม

หมายเหตุ: การแปลผลควรพิจารณาร่วมกับอาการ เช่น ปัสสาวะผิดปกติ, ปวดในอุ้งเชิงกราน, ประวัติครอบครัว

Free PSA ในบริบทของโรคต่างๆ

  • มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer): ค่า Free PSA มักต่ำกว่าปกติ
  • ต่อมลูกหมากโต (BPH): Free PSA และ Total PSA อาจสูง แต่สัดส่วนปกติ
  • การอักเสบของต่อมลูกหมาก: PSA อาจสูงทั้งคู่ แต่ไม่ใช่จากมะเร็ง

Free PSA กับการวินิจฉัยร่วมกับเครื่องมืออื่น

  • MRI ต่อมลูกหมาก: ใช้เมื่อต้องการภาพแม่นยำก่อน biopsy
  • PHI (Prostate Health Index): ค่าที่รวม Total PSA, Free PSA และ [-2]proPSA
  • Biopsy: พิจารณาทำเมื่อค่าบ่งชี้ถึงความเสี่ยงสูง

คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีค่า Free PSA ต่ำกว่าปกติ

  • ไม่ควรวิตกเกินไป
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตรวจเพิ่มเติม เช่น MRI หรือ Biopsy
  • ควรตรวจติดตามซ้ำทุก 6-12 เดือนตามคำแนะนำ

การดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมาก

อาหารที่ช่วยลดความเสี่ยง

  • ผักใบเขียว, แครอท, มะเขือเทศ (ไลโคปีนสูง)
  • ปลาไขมันดี เช่น แซลมอน, ซาร์ดีน
  • ลดเนื้อแดงและไขมันอิ่มตัว

พฤติกรรมที่ควรปฏิบัติ

  • ออกกำลังกาย 150 นาที/สัปดาห์
  • เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์
  • ดื่มน้ำมากพอและปัสสาวะสม่ำเสมอ

เมื่อไรควรตรวจ Free PSA?

  • ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • มีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะติดขัด
  • มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ตรวจพบค่า Free PSA ต่ำ

  • อย่าด่วนสรุปว่าตนเองเป็นมะเร็ง
  • พิจารณาการตรวจ MRI ร่วมด้วย
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ

Free PSA กับการพยากรณ์โรคและการติดตามผล

  • ใช้ติดตามผลการรักษาหลังผ่าตัดหรือฉายแสง
  • ค่าที่ลดลงหลังการรักษาหมายถึงผลตอบสนองที่ดี
  • หากค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินการกลับเป็นซ้ำ

สรุป: Free PSA คือกุญแจสำคัญสู่การวินิจฉัยอย่างแม่นยำ

  • Free PSA เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่แม่นยำและลดความจำเป็นในการตัดชิ้นเนื้อโดยไม่จำเป็น
  • ใช้ร่วมกับ Total PSA, MRI และ PHI เพื่อประเมินแบบองค์รวม
  • ผู้ชายควรเข้ารับการตรวจสุขภาพต่อมลูกหมากสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง

FAQ: คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ Free PSA

Q: ตรวจ Free PSA เมื่อไหร่จึงเหมาะสม?

A: เมื่อค่า Total PSA อยู่ในช่วง 4–10 ng/mL หรือมีอาการผิดปกติ

Q: ค่า Free PSA ต่ำ = เป็นมะเร็งแน่นอนหรือไม่?

A: ไม่แน่นอน ต้องพิจารณาร่วมกับค่า Total PSA และ MRI

Q: การมีเพศสัมพันธ์ก่อนตรวจมีผลต่อผลตรวจหรือไม่?

A: มี ควรงดก่อนตรวจอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

Q: Free PSA ต้องตรวจทุกปีหรือไม่?

A: ถ้ามีความเสี่ยงต่ำ อาจตรวจทุก 1–2 ปี แต่ถ้ามีความเสี่ยงสูง ควรตรวจถี่ขึ้นตามคำแนะนำแพทย์

Q: ค่า Free PSA ปกติ = ไม่มีมะเร็งแน่นอนหรือไม่?

A: ไม่ใช่ ค่าปกติช่วยลดความเสี่ยงแต่ไม่ได้การันตี 100%

ร่วมตอบคำถามกับเรา

[/vc_column_text]

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม 

เอกสารอ้างอิง

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.

[/vc_column][/vc_row]