1. รู้จักมะเร็งผิวหนัง คืออะไร?
มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer) คือภาวะที่เซลล์ผิวหนังกลายพันธุ์และแบ่งตัวผิดปกติ จนกลายเป็นเนื้องอก ซึ่งอาจอยู่เฉพาะที่หรือแพร่กระจายเข้าสู่เนื้อเยื่ออื่นได้ โดยมะเร็งผิวหนังมี 3 ชนิดหลัก ได้แก่:
-
Basal Cell Carcinoma (BCC) – เริ่มต้นจากเซลล์ฐานผิวหนัง มักเกิดบริเวณที่โดนแดดมาก เช่น หน้า ใบหู คอ
-
Squamous Cell Carcinoma (SCC) – เกิดจากเซลล์ผิวนอก มักพบบริเวณริมฝีปาก หรือผิวหนังที่โดนแดด
-
Malignant Melanoma (เมลาโนมา) – มะเร็งชนิดร้ายแรงที่สุด เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสี พบได้ที่ไฝปรากฎอาการผิดปกติ
มะเร็งผิวหนังเกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่พบมากในคนผิวขาว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแสงแดดจัด หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคผิวหนัง
2. บทบาทของผิวหนังและความเสี่ยงจากแดด
ผิวหนังเป็นอวัยวะปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมและช่วยรักษาอุณหภูมิ โดยเฉพาะเม็ดสีเมลานินช่วยกรองแสง UV แต่หากได้รับแสง UVA/UVB มากเกินจำเป็น จะทำให้เซลล์เสียหายและกลายพันธุ์ จนเกิดมะเร็งได้
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ:
-
โดนแดดจัดนาน (10.00–16.00 น.)
-
ไม่มีผิวสีคล้ำ หรือเป็นคนเชื้อชาติยุโรป
-
มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง
-
เคยมีแผลเรื้อรัง หรือได้รับรังสีชนิดอื่น (X-ray)
-
มีภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
3. สัญญาณเตือนมะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนังระยะแรกอาจไม่มีอาการชัด แต่หากเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:
-
ก้อนเนื้อหรือแผลที่ผิวหนังเปลี่ยนแปลงเรื้อรัง
-
ไฝหรือปานที่มีขอบไม่ชัด สีไม่สม่ำเสมอ โตเร็ว หรือเลือดออก
-
รอยแดงหรือปื้นขรุขระตามที่โดนแดด ติดแผลและหายยาก
-
ต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงโตขึ้นแต่ไม่เจ็บ
ลักษณะน่ากังวลสำหรับเมลาโนมา (ชื่อย่อ ABCDE):
-
Asymmetry: ไม่สมมาตร
-
Border: ขอบไม่ชัดหรือหยัก
-
Color: สีไม่ uniform
-
Diameter: ขนาด > 6 มม.
-
Evolving: มีการเปลี่ยนแปลง
4. การวินิจฉัยและการจัดระยะของโรค
แพทย์จะติดตามอาการ และตรวจเพิ่มเติมดังนี้:
-
ตรวจร่างกาย ซักประวัติ แผลที่ผ่านมา และตรวจเซลล์ผิว
-
ตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) ส่งตรวจพยาธิวิทยา
-
CT / MRI / Ultrasound / PET scan ใช้ในกรณีสงสัยว่าแพร่กระจาย
การแบ่งระยะ (TNM staging):
-
ระยะ 0: หัวเร็ว การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่ผิวชั้นบน
-
ระยะ I–II: ขนาดก้อนเพิ่มขึ้น <2–4 ซม.
-
ระยะ III: เริ่มแพร่เข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง
-
ระยะ IV: แพร่กระจายไปอวัยวะอื่น เช่น ตับ ปอด สมอง
สำหรับเมลาโนมา ใช้เกณฑ์ Breslow Depth และการแพร่กระจายเพื่อประเมินความรุนแรง
5. การรักษามะเร็งผิวหนัง
5.1 ผ่าตัด (Surgery)
-
Excision: ตัดผิวหนังแผลกว้างเพื่อกำจัดเชื้อ
-
Mohs micrographic surgery: เหมาะกับผิวหนังใบหน้า แผลน้อย ฟื้นตัวดี
5.2 การใช้รังสีรักษา (Radiotherapy)
ใช้ในกรณีผ่าตัดไปได้ไม่หมด หรือผู้ป่วยไม่สามารถผ่าตัดได้
5.3 เคมีบำบัด (Chemotherapy)
ใช้หลังก้อนใหญ่ แพร่กระจาย หรือร่วมกับการรักษาอื่น
5.4 ยากลุ่ม Targeted therapy & Immunotherapy
-
เหมาะกับเมลาโนมาที่เป็น mutation specific เช่น BRAF, MEK inhibitors
-
ยากลุ่ม PD-1, CTLA-4 ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
5.5 การรักษาแบบอื่น
-
Cryotherapy และ laser ใช้สำหรับแผลเล็ก early stage
-
Photodynamic therapy เฉพาะแผล Superficial BCC และ SCC
6. การป้องกันมะเร็งผิวหนัง
-
หลีกเลี่ยงแดดจัด (10.00–16.00 น.)
-
ใส่เสื้อผ้าคลุมแขน, ใส่หมวก ใช้ร่ม และใส่แว่นกันแดด
-
ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอกัน UVA/UVB SP Factor ≥ 30 ทุก 2–3 ชั่วโมง
-
หลีกเลี่ยงเตาหรือหลอด UV พลังสูง
-
ตรวจผิวตนเองเดือนละ 1 ครั้ง และตรวจสุขภาพทุกปี
7. แนวโน้มการเกิดโรคและอัตราการรอดชีวิต
มะเร็งชนิด BCC และ SCC หากตรวจพบระยะแรกมีอัตราหายขาดสูง (มากกว่า 90%) แต่ชนิดเมลาโนมา หากรักษาระยะล่าช้า อัตรา 5‑ปีจะลดลงเหลือประมาณ 20–60% ขึ้นกับระดับความลึกและการแพร่กระจาย
8. ตัวอย่างกรณีศึกษา
-
ผู้ชายวัย 70, สีผิว fair, พบก้อนเล็กไม่เจ็บหน้าแก้ม ตรวจพบ SCC ระยะ II ได้รับการผ่าตัดขนาดกว้าง + รังสี หลังดูแลครบ 5 ปี ไม่พบการลุกลาม
-
ผู้หญิงวัย 45, สังเกตไฝข้างลำตัวที่โตเร็ว จึงตัดชิ้นตรวจพบเมลาโนมา Breslow 1.8 มม. ระยะ II รักษาด้วยผ่าตัด + Immunotherapy ยังได้รับการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
9. สรุป – มะเร็งผิวหนัง รู้ทัน ป้องกันง่าย
ข้อควรระวัง | ข้อมูลสำคัญ |
---|---|
ประเภทหลัก | BCC, SCC, Melanoma |
ปัจจัยเสี่ยง | แดดจัด, สีผิว, พันธุกรรม |
สัญญาณเตือน | แผลเรื้อรัง, ไฝเปลี่ยน |
ตรวจวินิจฉัย | Biopsy, CT, MRI |
ระยะ | 0–IV (ขึ้นกับขนาด แพร่กระจาย) |
การรักษา | ผ่าตัด, รังสี, เคมี, Immuno/Targeted |
การป้องกัน | เสื้อผ้า, ครีมกันแดด, ตรวจผิว |
อัตรารอดชีวิต | สูงใน early stage (BCC/SCC), ต่ำกว่าเมื่อแพร่ (เมลาโนมา) |
FAQ – คำถามพบบ่อย
Q1: มะเร็งผิวหนังเกิดบริเวณไหนได้บ้าง?
– สามารถเกิดได้ทุกส่วนที่มีผิวหนัง เช่น ใบหน้า, หัว, ลำตัว, มือ, เท้า หรือแม้แต่อวัยวะที่ไม่คาดคิด เช่น ส่วนหนังสุรางค์
Q2: ใครบ้างที่มีความเสี่ยงสูง?
– คนผิวขาว, ผู้ที่ผิวแพ้ง่าย, มีประวัติครอบครัว, ผู้ที่เคยไหม้แดดรุนแรง หรือทำงานกลางแดดจัด
Q3: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าไฝหรือหูด normal หรือผิด?
– ให้ใช้ ABCDE (Asymmetry, Border, Color, Diameter, Evolving). หากมีลักษณะใดเข้าข่าย ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง
Q4: ครีมกันแดดช่วยป้องกันมะเร็งได้จริงไหม?
– ใช้ป้องกันความเสียหายจาก UV ได้ดี แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ควรใช้ร่วมกับการหลีกเลี่ยงแดดจัด
Q5: ถ้ามีแผลที่ผิวหนัง ควรทำอย่างไร?
– หากเป็นแผลเรื้อรัง หายช้า เลือดออกง่าย หรืออาการไม่ดีขึ้นใน 2–3 สัปดาห์ ควรพบแพทย์ทันที
Q6: เมลาโนมาอันตรายแค่ไหน?
– เป็นมะเร็งผิวหนังที่รุนแรงที่สุด และระบบแพร่กระจายเร็ว หากจับได้ตั้งแต่ระยะแรกมีโอกาสรอดสูง แต่หากกระจายแล้วอาการมักแย่และรักษายาก
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.
WHO (October 2010). Cancer. World Health Organization. Retrieved 5 January 2011.