มะเร็งระยะสุดท้ายรักษาหายได้ไหม มีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน

0
46434

มะเร็งระยะสุดท้าย หรือที่เรียกกันว่า มะเร็งระยะแพร่กระจาย (Stage IV) คือภาวะที่เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ปอด กระดูก สมอง หรือระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นการส่งผลให้ระบบสำคัญของร่างกายหยุดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าเป็นแค่ “ก้อนมะเร็ง” ในจุดเดียวเท่านั้น

มะเร็งระยะสุดท้ายคืออะไร?

มะเร็งระยะสุดท้าย หรือ Distant Metastasis (Stage IV) หมายถึงมะเร็งที่ไม่ใช่เฉพาะในท่อน้ำดี ผิวหนัง หรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเพียงแห่งเดียว แต่ลุกลามเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือดหรือเยื่อหุ้มท่อน้ำเหลือง และถูกลำเลียงไปยังอวัยวะอื่นตั้งแต่หนึ่งแห่งขึ้นไป เช่น

  • ปอด

  • ตับ

  • กระดูก

  • สมอง

  • ไขสันหลัง

เมื่อถึงระยะนี้ เนื้อมะเร็งมีนัยสำคัญต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีเดิม เช่น ผ่าตัด หรือการทำรังสีรักษาแบบที่ใช้ในระยะเริ่มต้น การรักษาที่เหมาะสมจึงเปลี่ยนเป็นการ ควบคุมอาการเพื่อคุณภาพชีวิต (Palliative Care)

อาการเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้าย

ระยะที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายแล้ว มักปรากฏความผิดปกติที่หลากหลายตามอวัยวะต่าง ๆ ดังนี้:

ระบาดของมะเร็ง อาการที่พบ
ตับ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านขวา เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
ปอด ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก มีเสมหะหรือเลือดปน
กระดูก ปวดกระดูกรุนแรง เคลื่อนไหวเจ็บ กรณีกระดูกหักจากโรค
สมอง ปวดศีรษะ วิงเวียน พูดลำบาก ร่างกายอ่อนแรง ซึม
ระบบน้ำเหลือง ต่อมน้ำเหลืองบวม เจ็บหรือคลำก้อน
ทั่วร่างกาย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไข้เรื้อรัง เหนื่อยง่าย ซีด

นอกจากนี้อาจพบปัญหาเรื่อง อารมณ์และจิตใจ ได้แก่ เครียด ซึมเศร้า เพิ่มความกังวลเรื่องความเจ็บปวด การแยกจาก และอนาคตข้างหน้า

มะเร็งระยะสุดท้ายรักษาหายได้หรือไม่?

แพทย์มักยืนยันได้ว่า “ไม่สามารถหายขาดได้” โดยเฉพาะกรณีที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปมากกว่า 1 อวัยวะ

อย่างไรก็ตาม!!
มีชนิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งอัณฑะบางประเภท ที่ตอบสนองต่อการรักษาเคมี ยังคงมีอัตรารักษาได้ หากมาถึงการรักษาที่ถูกวิธีและรวดเร็ว

แต่ในภาพรวม สำหรับมะเร็งระยะ IV จะไม่สามารถ “หายขาด” ได้ แต่ ควบคุมโรคให้อยู่ในภาวะสงบ (stable disease) หรือ ควบคุมการแพร่กระจายได้อย่างมีนัยสำคัญ ก็ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษา

ปัจจัยที่มีผลต่อการคาดการณ์อายุขัย

อายุขัยในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแตกต่างกันตามปัจจัยดังนี้:

ปัจจัยสำคัญส่งผลต่ออายุขัยได้แก่:

  1. ชนิดมะเร็ง

    • บางชนิดตอบสนองต่อเคมีและ Targeted Therapy ได้ดี เช่น มะเร็งเต้านมกับ HER2+ หรือมะเร็งต่อมไทรอยด์

  2. อวัยวะที่มีการแพร่กระจาย

    • สมอง, ตับ, ปอด เป็นอวัยวะสำคัญทำงานร่วมกัน เมื่อมีการสูญเสียการทำงานอาจมีผลรุนแรง

  3. จำนวนแห่งที่แพร่กระจาย

    • แพร่กระจายน้อยแห่ง (oligo-metastasis) อาจควบคุมได้ดีขึ้น

  4. การตอบสนองต่อการรักษา

    • หากตอบดีทั้งการผ่าตัด รังสี หรือยาเฉพาะเจาะจง สามารถยืดเวลาควบคุมโรคได้

  5. สภาพร่างกายทั่วไป (ECOG Performance Status)

    • สุขภาพแข็งแรง ยิ่งส่งผลให้การรักษามีประสิทธิภาพ

  6. ความร่วมมือกับทีมรักษา

    • การดูแลเรื่องอาหาร ระดับน้ำตาล ความเครียด การออกกำลังกาย เป็นส่วนสำคัญในการยืดอายุ

ตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ

จากงานวิจัยและสถิติทั่วโลก พบว่า:

  • ผู้ใหญ่ สุขภาพดี → มีชีวิตได้อีก 1–2 ปี

  • ผู้สูงอายุ หรือสุขภาพไม่ดี → มีชีวิตได้ประมาณ 3–9 เดือน

ข้อแม้สำคัญ:
ตัวเลขเฉลี่ยขึ้นกับสถานการณ์จริงของผู้ป่วยแต่ละคน และเน้นว่าเป็น “ค่าเฉลี่ย” ไม่ใช่คาดการณ์เฉพาะ

แนวทางการรักษาและควบคุมอาการ

เมื่อไม่สามารถรักษาให้หายขาด แพทย์จะใช้แนวทาง “ประคับประคองอาการ” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

กลยุทธ์ที่ใช้บ่อย:

  1. เคมีบำบัด (Chemotherapy)

    • ลดก้อนมะเร็ง ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์

    • เลือกใช้ยาที่เหมาะกับชนิดมะเร็งและสุขภาพผู้ป่วย

  2. รังสีรักษา (Radiotherapy)

    • ใช้เพื่อบรรเทาอาการ เช่น ปวดกระดูก หรือสมอง

    • สามารถใช้แบบรักษาเฉพาะจุดไม่ใช่ทั้งร่างกาย

  3. ผ่าตัด (Surgery)

    • ใช้เฉพาะในบางกรณี เช่น ผู้ป่วยมีแหล่งแพร่กระจายน้อย และสุขภาพพร้อม

  4. Targeted Therapy & Immunotherapy

    • รักษาแบบเจาะจงเซลล์มะเร็งเฉพาะชนิด ตามโปรตีนหรือยีน

    • ช่วยลดผลกระทบต่อเซลล์ปกติ และเพิ่มโอกาสควบคุมโรคได้นานขึ้น

  5. ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy)

    • ใช้กับมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่น เต้านม ต่อมลูกหมาก

  6. ยาเพื่อลดอาการ (Symptom Management)

    • บรรเทาอาการปวด คลื่นไส้ซึมเศร้า เบื่ออาหาร ฯลฯ เพื่อคุณภาพชีวิต

  7. ดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care)

    • ทีมนักรพิสัชพยาบาล แพทย์นักจิตนักสังคม ร่วมดูแลความเจ็บปวดและจิตใจ

ตัวอย่างชีวิตกับมะเร็งระยะสุดท้าย

กรณีศึกษา (อ้างอิงจริง):

  • ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแพร่กระจายไปกระดูก ตับ และปอด

    • รับเคมี+Targeted Therapy แล้วมีชีวิตยืดออกไปเกิน 2 ปี

  • บางรายสุขภาพอ่อน พบน้อย อาจได้รับชีวิตเพิ่ม 4–6 เดือน

  • เช่นผู้ป่วยมะเร็งปอด Stage IV เอาตับออก+ใช้ยารักษาเฉพาะ

    • มีชีวิตได้ 1–2 ปีขึ้นกับการตอบสนองต่อยา

คุณภาพชีวิตควบคู่ความยาวของชีวิต

ในมะเร็งระยะนี้ ไม่ได้วัดแค่อายุ แต่ต้องใส่ใจเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นสำคัญ:

  • ควบคุม อาการปวด เช่น ยาพารา โคดีน หรือวิธีการไม่ใช้ยาเช่น TENS

  • แก้ คลื่นไส้และเบื่ออาหาร ด้วยยาและอาหารบำรุง

  • พิจารณา โภชนาการพิเศษ เสริมโปรตีน/วิตามิน

  • ดูแล จิตใจ ผ่านนักจิตวิทยา/จิตแพทย์

  • ส่งเสริม ครอบครัวมีส่วนร่วม รับมือสภาพจิตใจทั้งผู้ป่วยและญาติ

การป้องกันให้มะเร็งไม่ลุกลาม

เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลามถึงระยะ IV ดังนี้:

  1. ตรวจค้นหามะเร็งในระยะเริ่มต้น: มะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก

  2. สังเกตอาการผิดปกติ: เช่น ไอเรื้อรัง ระคายคอเรื้อรัง ซีด คลำก้อน

  3. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง: บุหรี่ เหล้า มลภาวะ

  4. ตรวจสุขภาพประจำปี: ตามแนวทางแพทย์

  5. รักษาสุขภาพโดยรวม: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่

ข้อคิดในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ตอนนี้ไม่ใช่ปัจฉิมถิ่น แต่เป็นบทส่งท้ายที่ได้คุณภาพ:

  • ให้เกียรติความรู้สึกของผู้ป่วย ร่วมวางแผนการรักษาทุกขั้นตอน

  • พ่อแม่หรือผู้ดูแลควรได้รับการดูแลจิตใจไม่แพ้กัน

  • ใช้เวลาที่เหลือคุณค่ากับคนที่รัก

  • สุขภาพจิตดี ช่วยให้การดูแลร่างกายมีประสิทธิภาพขึ้น

  • ร่วมกันสร้างเครือข่ายสนับสนุนระหว่างครอบครัว แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญ

สรุปสาระสำคัญ

  • มะเร็ง Stage IV คือโรคในระยะร้ายที่สุด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตสิ้นสุดทันที

  • ไม่หายขาด แต่สามารถ ยืดอายุชีวิตได้หลายเดือนถึงปี ขึ้นกับชนิดมะเร็งและการตอบสนอง

  • การรักษาในระยะนี้เน้นที่ คุณภาพชีวิต มากกว่าการรักษาให้หาย

  • การตรวจโรคตั้งแต่ต้น และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง คือวิธีป้องกันระยะแพร่กระจาย

FAQ: คำถามที่พบบ่อย

Q1: มะเร็งระยะสุดท้าย สามารถหายขาดได้ไหม?
A: ตอบตรง ๆ ไม่ได้หายขาด แต่มีกรณีพิเศษบางชนิดหากตอบยาดีอาจควบคุมได้ยาวนานจนดูเหมือนหายขาด (ยกเว้นเช่นเยื่อหุ้มมะเร็งอัณฑะบางชนิด)

Q2: หากเป็นระยะ IV แล้ว ยังต้องรักษาต่อหรือไม่?
A: ใช่ แม้ไม่สามารถหายขาด แพทย์จะให้ การรักษาแบบบรรเทาอาการ (Palliative) เพื่อยืดอายุและเพิ่มคุณภาพชีวิต ทั้งเคมี รังสี ยาเฉพาะ

Q3: มะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ทั่วไปอายุขัยเฉลี่ยคือ:

  • สุขภาพแข็งแรง: 1–2 ปี

  • สุขภาพอ่อน: 3–9 เดือน
    ตัวเลขเป็นเพียงเฉลี่ยเท่านั้น

Q4: ควรดูแลจิตใจอย่างไรสำหรับผู้ป่วยระยะนี้?
A: สำคัญมาก! ควร:

  • สร้างพื้นที่ปลอดภัย เปิดใจพูดคุยความรู้สึก

  • ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจ

  • ช่วยผู้ป่วยไม่ให้รู้สึกโดดเดี่ยว

Q5: วิธีคุ้มครองผู้ป่วยระยะสุดท้ายเพื่อคุณภาพชีวิต?
A: เน้นที่:

  • ดูแลโภชนาการดี

  • ควบคุมอาการทุกชนิดให้ต่ำสุด

  • ออกกำลังระดับเบาและพักผ่อนให้เพียงพอ

  • เปิดพื้นที่ในครอบครัวให้เต็มไปด้วยความเข้าใจและความรัก

ร่วมตอบคำถามกับเรา

[/vc_column_text]

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.

อิ่มใจ ชิตาพนารักษ์. ผลกระทบจากการรักษาโรคมะเร็ง. เชียงใหม่: ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2557

Thun MJ, Hannan LM, Jemal A (September 2006). “Interpreting cancer trends”. Annals of the New York Academy of Sciences.

Prasad AR, Bernstein H (March 2013). “Epigenetic field defects in progression to cancer”. World Journal of Gastrointestinal Oncology.

[/vc_column][/vc_row]