มะเร็งเต้านมคืออะไร?
มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) คือโรคที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ในเนื้อเยื่อเต้านม โดยเฉพาะบริเวณท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างผิดปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง หากไม่ได้รับการรักษา เซลล์เหล่านี้จะลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่น เช่น ปอด กระดูก สมอง และตับ
แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะพบได้ในผู้ชาย แต่สถิติโดยรวมพบในผู้หญิงมากกว่าอย่างชัดเจน โดยในประเทศไทย มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งอันดับ 1 ในเพศหญิง
กระบวนการเกิดมะเร็งเต้านม
การเกิดมะเร็งเต้านมเริ่มต้นจากเซลล์ปกติที่เต้านมมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้:
-
เซลล์ปกติ (Normal) – ทำหน้าที่ตามปกติ ยังไม่มีความผิดปกติใด
-
Hyperplasia – เซลล์เริ่มแบ่งตัวมากขึ้นกว่าปกติ
-
Atypical Hyperplasia – เซลล์เริ่มมีลักษณะผิดปกติ บางส่วนเริ่มกลายพันธุ์
-
Non-Invasive Cancer – เป็นมะเร็งระยะเริ่มต้นที่ยังไม่ลุกลาม (in situ)
-
Invasive Cancer – มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง และอาจแพร่กระจายไกล
อาการของมะเร็งเต้านม
อาการที่ควรระวัง ได้แก่:
-
คลำเจอก้อนเนื้อแข็งที่เต้านมหรือรักแร้
-
หัวนมบอดหรือเปลี่ยนรูป
-
มีของเหลวหรือเลือดซึมจากหัวนม
-
ผิวหนังเต้านมหนาหรือมีรอยบุ๋ม
-
รู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณเต้านม
-
เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนไป
หากพบอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านม
-
พันธุกรรม (BRCA1/BRCA2): มีความผิดปกติทางยีน
-
อายุ: พบมากในหญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
-
ประวัติครอบครัว: มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม
-
ประจำเดือนมาเร็ว/หมดช้า: ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในร่างกายนาน
-
ไม่เคยมีบุตร หรือมีลูกช้า
-
ฮอร์โมนเอสโตรเจนต่อเนื่องโดยไม่มีแพทย์ควบคุม
-
การสัมผัสรังสีในวัยเด็ก
-
พฤติกรรมเสี่ยง: ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ รับประทานอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย
ชนิดของมะเร็งเต้านม
-
มะเร็งไม่ลุกลาม (Non-Invasive)
-
พบในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม ยังไม่ลุกลาม
-
-
มะเร็งลุกลาม
-
Ductal Carcinoma: พบมากที่สุด (~80–90%)
-
Lobular Carcinoma: พบประมาณ 10%
-
Inflammatory Breast Cancer: เต้านมบวมแดง หนาผิวคล้ายเปลือกส้ม
-
Paget’s Disease: มะเร็งบริเวณหัวนมและลานนม
-
มะเร็งชนิดมีมูก / เซลล์พิเศษ: พบได้น้อย แต่มีพยากรณ์โรคดีกว่า
-
ระยะของมะเร็งเต้านม
ระยะ | ลักษณะ | โอกาสรอด 5 ปี |
---|---|---|
ระยะ 0 | พบเซลล์ผิดปกติ แต่ยังไม่ลุกลาม | ≈ 100% |
ระยะ 1 | ก้อนขนาด ≤ 2 ซม. ยังไม่กระจาย | ≈ 100% |
ระยะ 2 | แบ่งเป็น 2A/2B ขนาดก้อนเพิ่มขึ้น หรือลามต่อมน้ำเหลือง | 81–92% |
ระยะ 3 | เริ่มทะลุผิวหนังหรือลามต่อมน้ำเหลืองมากขึ้น | 54–67% |
ระยะ 4 | แพร่กระจายไปอวัยวะอื่น (ตับ ปอด สมอง) | ≈ 20% |
ยิ่งตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาหายขาดยิ่งสูง
การป้องกันมะเร็งเต้านม
-
ตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุกเดือน
-
ตรวจแมมโมแกรมเมื่ออายุ ≥ 40 ปี ทุก 1–2 ปี
-
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ≥ 6 เดือน
-
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อาหารไขมันสูง และความเครียด
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-
หลีกเลี่ยงการรับฮอร์โมนโดยไม่จำเป็น
-
ปรึกษาแพทย์หากมียีน BRCA1/2 ในครอบครัว
-
เข้านอนตรงเวลาในที่มืดสนิท เพื่อกระตุ้นฮอร์โมนเมลาโทนิน
การรักษามะเร็งเต้านม
1. การผ่าตัด (Surgery)
-
ผ่าตัดเต้านมบางส่วน: สำหรับผู้ป่วยที่พบเร็ว
-
ตัดเต้านมทั้งหมด: เมื่อมะเร็งแพร่กระจาย
2. รังสีรักษา (Radiation Therapy)
-
มักใช้หลังผ่าตัด เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่
3. เคมีบำบัด (Chemotherapy)
-
ใช้ในกรณีลุกลาม หรือมีความเสี่ยงสูงในการกลับมาเป็นซ้ำ
4. ฮอร์โมนบำบัด (Hormone Therapy)
-
ใช้ในกรณีที่มะเร็งตอบสนองต่อฮอร์โมน เช่น Tamoxifen
-
ผู้มีตัวรับฮอร์โมนมีโอกาสรักษาหายสูงกว่า
5. ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
-
ใช้ในกรณีที่มียีนผิดปกติ หรือไม่ตอบสนองต่อคีโม
การติดตามผลหลังรักษา
-
ปีที่ 1: พบแพทย์ทุก 3 เดือน
-
ปีที่ 2–3: ทุก 4–6 เดือน
-
ปีที่ 4–5: ทุก 6 เดือน
-
ปีที่ 6 เป็นต้นไป: ปีละ 1 ครั้ง
การตรวจติดตาม อาจรวมถึงการแมมโมแกรม ตรวจเลือด ตรวจตับ ตรวจกระดูก และการสังเกตอาการผิดปกติใหม่ๆ
สรุป: มะเร็งเต้านมตรวจพบเร็ว รักษาหายได้
มะเร็งเต้านมอาจเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย แต่ด้วยความรู้ที่ถูกต้อง การตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ และการปรับพฤติกรรมสุขภาพ ผู้หญิงสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายขาดได้อย่างมาก
ให้เต้านมของคุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุด เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของความงาม แต่คือเรื่องของชีวิต
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านมได้ไหม?
A: ได้ แม้พบได้น้อยมาก (<1%) แต่หากพบก้อนที่เต้านมในผู้ชาย ควรตรวจทันที
Q: มะเร็งเต้านมเกิดกับเต้านมข้างใดมากกว่ากัน?
A: พบในเต้านมซ้ายมากกว่าขวาเล็กน้อย
Q: การให้นมบุตรช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมไหม?
A: ใช่ โดยเฉพาะหากให้นานกว่า 6 เดือน
Q: ถ้าไม่มีอาการ ยังต้องตรวจแมมโมแกรมหรือไม่?
A: ควรตรวจแม้ไม่มีอาการ โดยเฉพาะหญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
ขอบคุณคลิปความรู้จาก : หมอปุ้ม พญ. สิรนาถ สุขภาพดี คุณมีได้
Cowell, Sakr, R.A., et al. (2013). Progression from ductal carcinoma in situ to invasive breast cancer: revisited. Molecular Oncology.