มะเร็ง (Cancer) เป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกทุกปี แต่หากสามารถตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็มีมากขึ้น การรู้จักสังเกต อาการมะเร็งเบื้องต้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งอาการเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่รุนแรง แต่หากมีความผิดปกติเรื้อรังและต่อเนื่อง ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยเร็ว
ทำไมต้องรู้จักอาการมะเร็งเบื้องต้น?
เพราะการตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกสามารถเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้สูงขึ้นมากถึง 70–90% ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง การรักษาในระยะเริ่มต้นยังส่งผลข้างเคียงน้อย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในระยะลุกลาม
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งเบื้องต้น
การตรวจหาโรคมะเร็งสามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโดยตรง และที่ผู้ป่วยสามารถสังเกตได้ด้วยตนเอง ได้แก่:
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระ
- การตรวจทางพยาธิวิทยา เช่น การขูดเซลล์จากปากมดลูก ตรวจชิ้นเนื้อ
- การตรวจด้วยภาพถ่ายรังสี เช่น X-ray, อัลตร้าซาวด์, แมมโมแกรม
- การส่องกล้อง เช่น ตรวจลำไส้ใหญ่, กระเพาะอาหาร, ช่องคลอด
- การใช้เครื่องมือขั้นสูง เช่น CT scan, MRI, PET scan
10 อาการเตือนภัยมะเร็งที่ควรใส่ใจ
แม้บางอาการอาจเป็นเพียงความผิดปกติเล็กน้อย แต่หากเกิดขึ้นต่อเนื่องหรือผิดปกติกว่าปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เช่น:
- แผลเรื้อรังไม่หาย โดยเฉพาะในช่องปาก ลิ้น หรือผิวหนัง
- ก้อนเนื้อผิดปกติ บริเวณเต้านม รักแร้ หรือท้องน้อย
- ไฝเปลี่ยนลักษณะ ขนาด สี หรือขอบไม่เรียบ
- ไอเรื้อรังหรือเสียงแหบ โดยเฉพาะในผู้ที่สูบบุหรี่
- น้ำหนักลดรวดเร็วโดยไม่ตั้งใจ มากกว่า 5 กก. ในเวลาอันสั้น
- ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง หรือมีเลือดปนในอุจจาระ
- เลือดออกผิดปกติจากร่างกาย เช่น ปัสสาวะ หรือช่องคลอด
- กลืนอาหารลำบาก เสียดท้องเรื้อรัง
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย โดยไม่ทราบสาเหตุ
- ต่อมน้ำเหลืองโตแบบไม่เจ็บ โดยเฉพาะที่คอ รักแร้ หรือขาหนีบ
อาการมะเร็งตามอวัยวะ: สังเกตอย่างไร?
มะเร็งเต้านม
- ก้อนเนื้อบริเวณเต้านมหรือรักแร้
- หัวนมบอดหรือมีเลือดไหล
มะเร็งปากมดลูก
- เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
- ตกขาวมีกลิ่นแรง สีคล้ำ
มะเร็งรังไข่
- ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
- คลำเจอก้อนบริเวณท้องน้อย
มะเร็งตับ
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- ปวดชายโครงขวา น้ำหนักลด
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- ถ่ายมีเลือดปน
- ปวดท้องเรื้อรัง รู้สึกถ่ายไม่สุด
มะเร็งกระเพาะอาหาร
- ท้องอืด แน่นท้อง เบื่ออาหาร
- อาเจียนหรือถ่ายดำ
มะเร็งปอด
- ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก
- หายใจมีเสียงดังหรือเหนื่อยง่าย
มะเร็งผิวหนัง
- แผลเรื้อรัง แผลไหม้ที่ไม่หาย
- ไฝเปลี่ยนสี ขนาด รูปร่าง
มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
- ซีด ฟกช้ำง่าย
- ไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- มีก้อนที่คอหรือรักแร้ ไม่เจ็บ แต่โตขึ้นเรื่อย ๆ
- ไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของโรคมะเร็ง
การเกิดมะเร็งมีทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ได้แก่:
ปัจจัยเสี่ยงภายนอก
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- อาหารปิ้งย่าง หมักดอง หรือมีสารกันบูดไนไตรท์
- การสัมผัสสารเคมีหรือรังสี
- การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น HPV, HCV
ปัจจัยภายใน
- พันธุกรรม (เช่น มะเร็งเต้านมในครอบครัว)
- ฮอร์โมนหรือภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ
- อายุที่เพิ่มขึ้น
การป้องกันโรคมะเร็ง: เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
- รับประทานอาหารที่ดี: ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ลดเนื้อแดง
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 150 นาทีขึ้นไป
- พักผ่อนเพียงพอ ลดความเครียด
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำปี และคัดกรองตามอายุ เช่น
- ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป: ตรวจมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป: ตรวจแมมโมแกรม
- ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป: ตรวจ PSA มะเร็งต่อมลูกหมาก
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: อาการเบื้องต้นของมะเร็งคืออะไร?
A: เช่น น้ำหนักลดแบบไม่ตั้งใจ ไอเรื้อรัง มีแผลไม่หาย หรือก้อนเนื้อผิดปกติ
Q: มะเร็งสามารถรักษาหายได้หรือไม่?
A: หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก หลายชนิดสามารถรักษาหายขาดได้
Q: มะเร็งเกิดจากกรรมพันธุ์ทั้งหมดหรือไม่?
A: ไม่ใช่ทั้งหมด เพียงบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เช่น มะเร็งเต้านม
Q: ต้องตรวจสุขภาพบ่อยแค่ไหน?
A: ควรตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง หรือบ่อยขึ้นตามความเสี่ยงส่วนบุคคล
Q: ไฝแบบไหนเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง?
A: ไฝที่เปลี่ยนขนาด สี ขอบไม่เรียบ หรือมีเลือดซึมควรพบแพทย์ทันที
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง
เอกสารอ้างอิง
Cancer mortality and morbidity patterns in the U. S. population: an interdisciplinary approach. Berlin: Springer. ISBN 0-387-78192-7.
“Breast cancer”. Am D Health Syst Pharm (15): 2472–9.