ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือดและขับถ่ายออกทางปัสสาวะ หากไตทำงานผิดปกติจะนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า “ไตวายเรื้อรัง” ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจตั้งแต่ตำแหน่งของไต หน้าที่ของไต อาการของโรคไตวาย ไปจนถึงแนวทางการดูแลรักษาทั้งเชิงป้องกันและบำบัด
ตำแหน่งของไตและหน้าที่สำคัญในร่างกาย
ตำแหน่งของไต: ไตทั้งสองข้างตั้งอยู่บริเวณหลังช่องท้อง ส่วนบนของไตจะอยู่ระดับเดียวกับกระดูกซี่โครงที่ 11–12 โดยไตขวาจะอยู่ต่ำกว่าไตซ้ายเล็กน้อยเนื่องจากการวางตำแหน่งของตับ
หน้าที่ของไตหลักๆ ได้แก่:
-
กรองของเสียออกจากเลือด
-
ควบคุมระดับน้ำและเกลือแร่
-
ผลิตฮอร์โมนควบคุมความดันโลหิตและกระตุ้นไขกระดูก
-
รักษาสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย
หากไตเสื่อมหรือทำงานผิดปกติ ร่างกายจะคั่งของเสีย ส่งผลต่อหลายระบบ อาการต่างๆ จึงเริ่มแสดงชัดเจน
อาการและระยะของไตวายเรื้อรัง
ไตวายเรื้อรังมีการแบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยวัดจากค่าการกรองของไต (GFR)
ระยะโรค | GFR (มล./นาที) | ลักษณะโรค |
---|---|---|
ระยะที่ 1 | > 90 | ไตเริ่มผิดปกติ ไม่มีอาการ |
ระยะที่ 2 | 60–89 | อาจเริ่มมีโปรตีนในปัสสาวะ |
ระยะที่ 3 | 30–59 | มีของเสียคั่ง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร |
ระยะที่ 4 | 15–29 | ต้องเตรียมเข้าสู่การบำบัดไต |
ระยะที่ 5 | <15 | ไตล้มเหลว ต้องล้างไตหรือปลูกถ่าย |
สาเหตุของไตวายเรื้อรัง
-
โรคเรื้อรัง: เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกาต์
-
การติดเชื้อเรื้อรัง: ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
-
นิ่วในไต: อุดตันทางเดินปัสสาวะนานๆ
-
การใช้ยาบางชนิด: NSAIDs, ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม, สมุนไพรเข้มข้น
-
พันธุกรรม: เช่น โรคถุงน้ำในไต (Polycystic Kidney Disease)
การวินิจฉัยโรคไตวาย
-
ตรวจเลือดหาค่า BUN, Creatinine
-
ตรวจ GFR (อัตราการกรองของไต)
-
ตรวจโปรตีนในปัสสาวะ (Urine Albumin-Creatinine Ratio)
-
อัลตราซาวด์หรือ CT Scan ดูขนาดและรูปร่างไต
แนวทางการรักษาไตวายเรื้อรัง
1. การรักษาแบบประคับประคอง (Conservative)
-
ควบคุมความดันและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์
-
ปรับอาหาร ลดโซเดียม โพแทสเซียม ฟอสเฟต โปรตีน
-
หลีกเลี่ยงยาและสารที่มีพิษต่อไต
-
ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก
-
ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 3–6 เดือน
2. การบำบัดทดแทนไต (Renal Replacement Therapy)
หากผู้ป่วยเข้าสู่ระยะที่ 4–5 และการรักษาประคับประคองไม่สามารถควบคุมอาการได้ แพทย์จะพิจารณาวิธีใดวิธีหนึ่งจาก 3 วิธี:
▪ การฟอกเลือด (Hemodialysis)
ใช้เครื่องกรองเลือดเพื่อลดของเสีย ปกติทำสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
▪ การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis)
ล้างของเสียผ่านเยื่อบุช่องท้อง ผู้ป่วยสามารถทำเองที่บ้านได้
▪ การปลูกถ่ายไต (Kidney Transplant)
เป็นการเปลี่ยนไตใหม่เพื่อให้ไตทำงานปกติ แต่ต้องใช้ยากดภูมิต้านทานตลอดชีวิต
การดูแลตัวเองเพื่อชะลอไตวาย
-
เลือกกินอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง แต่ไม่มากเกินไป
-
ลดการกินเค็ม งดอาหารหมักดอง ไขมันสูง ของทอด
-
เลี่ยงสมุนไพรที่ไม่มีการรับรองความปลอดภัย
-
ดื่มน้ำให้พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป
-
หมั่นตรวจสุขภาพไตทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
วัคซีนที่ควรฉีดในผู้ป่วยไตวาย
-
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี (3 เข็ม)
-
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (ปีละครั้ง)
-
วัคซีนป้องกันปอดบวมในบางรายที่มีความเสี่ยง
การติดตามอาการโรคไตเรื้อรัง
ระยะโรค | ความถี่ในการตรวจ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ระยะ 1–2 | ทุก 6–12 เดือน | ตรวจ GFR, ความดัน |
ระยะ 3 | ทุก 6 เดือน | ตรวจโปรตีนในปัสสาวะ, ไขมัน |
ระยะ 4 | ทุก 3 เดือน | เตรียมการล้างไต |
ระยะ 5 | ทุกเดือน | พบแพทย์เฉพาะทางไต (Nephrologist) |
ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสามารถใช้สิทธิบัตรทอง ประกันสังคม หรือสวัสดิการข้าราชการในการรักษาได้ โดยมีสิทธิเบิกค่ายา ค่าล้างไต และค่าปลูกถ่ายไตตามเกณฑ์ที่แต่ละระบบประกันกำหนดไว้ ผู้ป่วยควรศึกษาสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อวางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: ไตวายเรื้อรังเกิดจากอะไรเป็นหลัก?
A: สาเหตุหลักมาจากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน โรคเกาต์ รวมถึงการใช้ยาที่มีพิษต่อไตและอาหารที่มีสารตกค้าง
Q2: ไตวายต้องล้างไตตลอดชีวิตหรือไม่?
A: ถ้าเข้าสู่ระยะที่ 5 แล้วต้องล้างไตต่อเนื่อง หรือเลือกปลูกถ่ายไตเพื่อให้ไม่ต้องล้างไตอีก
Q3: อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยไตมีอะไรบ้าง?
A: อาหารเค็มจัด โปแตสเซียมสูง เช่น กล้วย มะเขือเทศ น้ำมะพร้าว อาหารแปรรูป และของทอด
Q4: การล้างไตกับการปลูกถ่ายไต แบบไหนดีกว่า?
A: การปลูกถ่ายไตถือว่าดีกว่าในระยะยาว แต่ต้องใช้ยากดภูมิตลอดชีวิต มีค่าใช้จ่ายสูง ส่วนการล้างไตเป็นทางเลือกที่สามารถเริ่มได้ทันทีและเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
Q5: ผู้ป่วยไตวายสามารถออกกำลังกายได้ไหม?
A: ออกกำลังกายแบบแอโรบิคเบาๆ และการฝึกกล้ามเนื้อเป็นประจำจะช่วยเสริมสุขภาพและลดความเครียด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง [/vc_column_text]
เอกสารอ้างอิง
Deerfield, Illinois: Baxter International Inc. 2002-08-07
National Kidney and Urologic Diseases Information Clearinghouse (2011).