โรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่กำลังระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรเมืองและประเทศที่มีการบริโภคแบบตะวันตกเป็นหลัก โรคนี้ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และแม้แต่มะเร็งบางชนิด ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจลึกถึง สาเหตุของโรคอ้วน ปัจจัยเสี่ยง อาการที่ต้องระวัง รวมไปถึงแนวทางการป้องกันก่อนที่สุขภาพจะพังแบบไม่รู้ตัว
โรคอ้วนคืออะไร?
โรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันมากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว วัดจากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) หากมีค่ามากกว่า 25 ถือว่าอยู่ในระดับน้ำหนักเกิน และถ้าเกิน 30 จะจัดเป็นโรคอ้วนทันที
การคำนวณค่า BMI:
BMI = น้ำหนักตัว (กก.) ÷ ส่วนสูง (เมตร)^2
ตัวอย่าง: น้ำหนัก 70 กก. / ส่วนสูง 1.65 เมตร → BMI = 25.7 (อ้วนระดับ 1)
สาเหตุของโรคอ้วน
ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
กรรมพันธุ์
หากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเป็นโรคอ้วน โอกาสที่ลูกจะอ้วนก็สูงถึง 80%
เพศ
ผู้หญิงมีแนวโน้มอ้วนง่ายกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีมวลกล้ามเนื้อน้อยกว่าทำให้ใช้พลังงานน้อย
อายุ
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญช้าลง กล้ามเนื้อลดลง ทำให้ไขมันสะสมง่ายขึ้น
ฮอร์โมน
ฮอร์โมนเกรลิน และเลปติน มีบทบาทสำคัญต่อการหิว-อิ่ม หากทำงานผิดปกติ จะนำไปสู่ความอยากอาหารเกินปกติ
อัตราการเผาผลาญพลังงาน
บางคนเผาผลาญช้าโดยธรรมชาติ หรือมีภาวะไทรอยด์ทำงานน้อย
ปัจจัยที่ควบคุมได้
พฤติกรรมการกิน
การบริโภคอาหารแคลอรีสูง ไขมันอิ่มตัว น้ำตาล และอาหารแปรรูปมากเกินไป
การไม่ออกกำลังกาย
ใช้ชีวิตแบบนั่งทำงาน ไม่เคลื่อนไหว ส่งผลให้พลังงานไม่ได้ถูกใช้ และสะสมเป็นไขมัน
ความเครียด
เมื่อเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะหลั่งออกมา กระตุ้นให้ร่างกายอยากกินของหวานหรือแป้ง
การนอนไม่พอ
นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง/วัน จะทำให้ฮอร์โมนหิวเพิ่ม และอัตราการเผาผลาญลดลง
การเลี้ยงดูตั้งแต่วัยเด็ก
ครอบครัวที่เลี้ยงลูกตามใจเรื่องอาหาร มักส่งผลให้เด็กเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีภาวะอ้วน
รูปแบบของโรคอ้วน: ไขมันสะสมในตำแหน่งต่าง ๆ บอกอะไร?
ตำแหน่งอ้วน | สาเหตุ |
---|---|
อ้วนช่วงบน | บริโภคน้ำตาล-เครื่องดื่มหวานมากเกินไป |
อ้วนกลางลำตัว | ฮอร์โมนความเครียดสูง เช่น คอร์ติซอล |
อ้วนด้านหลัง | ขาดการเคลื่อนไหว ไม่ออกกำลังกาย |
อ้วนช่วงล่าง | พันธุกรรม-ตั้งครรภ์-กลูเตน |
พุงบวม | ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย |
อ้วนขา | ทานเค็ม โซเดียมสูง |
อาการเตือนภัยของโรคอ้วน
-
เหนื่อยง่าย แม้เคลื่อนไหวน้อย
-
ปวดเข่า-ข้อเสื่อมจากน้ำหนักกดทับ
-
หายใจไม่สะดวก หอบง่าย
-
ผิวหนังอับชื้นตามข้อพับ
-
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
-
รอบเอวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โรคแทรกซ้อนที่มากับโรคอ้วน
โรคหัวใจและหลอดเลือด
เนื่องจากภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวานชนิดที่ 2
เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินในร่างกาย
โรคมะเร็ง
มะเร็งเต้านม, ลำไส้ใหญ่, ต่อมลูกหมาก และรังไข่สัมพันธ์กับโรคอ้วน
โรคหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจจากไขมันบริเวณลำคอ
โรคข้อเสื่อม
โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อสะโพกเนื่องจากน้ำหนักกดทับ
โรคเกาต์ และนิ่วในถุงน้ำดี
เกิดจากการเผาผลาญผิดปกติ และลดน้ำหนักเร็วเกินไป
ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับกับโรคอ้วน
ปัจจัย | ผลกระทบ |
---|---|
นอนน้อย | เพิ่มฮอร์โมนหิว → กินมากขึ้น |
นอนดึก | ความไวของอินซูลินลดลง → เสี่ยงเบาหวาน |
นอนไม่เป็นเวลา | การเผาผลาญแปรปรวน ไขมันสะสมง่าย |
คำแนะนำ:
ควรนอนอย่างน้อยวันละ 7–8 ชั่วโมง และเข้านอนก่อน 22.00 น.
ทำไมต้องลดความอ้วน?
การมีน้ำหนักตัวเกิน ไม่ได้หมายความว่าแค่รูปร่างไม่สวย แต่เป็นการเปิดประตูให้กับโรคร้ายหลายชนิด
-
ลดภาระการทำงานของหัวใจ
-
ลดความเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2
-
เพิ่มคุณภาพชีวิตโดยรวม
-
หายใจโล่งขึ้น หลับสนิทขึ้น
-
เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วมากขึ้น
วิธีป้องกันโรคอ้วน
-
ควบคุมอาหารให้เหมาะสม
-
ลดน้ำตาล ไขมันทรานส์ และอาหารแปรรูป
-
เพิ่มผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี
-
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-
เดินวันละ 30 นาที
-
ยืดเหยียด สควอท หรือว่ายน้ำอย่างน้อย 3 วัน/สัปดาห์
-
-
นอนหลับให้พอ
-
ควบคุมนาฬิกาชีวิตให้สมดุล
-
-
ตรวจสุขภาพประจำปี
-
วัด BMI, รอบเอว, ความดัน, น้ำตาล และไขมันในเลือด
-
-
ลดความเครียด
-
ฝึกสมาธิ ทำกิจกรรมผ่อนคลาย
-
สรุป
โรคอ้วนไม่ใช่เรื่องของรูปร่างเพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาด้านสุขภาพระดับโลกที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอีกหลายชนิด สาเหตุของโรคอ้วนมีทั้งจากพันธุกรรมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เราควบคุมได้ การรับประทานอาหารที่เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันโรคอ้วน หากคุณเริ่มรู้สึกว่าควบคุมน้ำหนักไม่ได้ อย่ารอให้เกิดโรคแทรกซ้อน รีบหันมาดูแลสุขภาพวันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ดัชนีมวลกาย (BMI) เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอ้วน?
A: หาก BMI ≥ 25 ถือว่าเริ่มมีภาวะน้ำหนักเกิน และหาก BMI ≥ 30 จะจัดเป็นโรคอ้วน
Q: โรคอ้วนมีผลต่อการมีบุตรหรือไม่?
A: ใช่ครับ โรคอ้วนส่งผลต่อฮอร์โมนเพศ ทำให้มีบุตรยากในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
Q: การอดอาหารช่วยลดอ้วนได้ไหม?
A: ไม่แนะนำ เพราะจะทำให้ระบบเผาผลาญพัง และอาจเกิดโยโย่เอฟเฟกต์
Q: อ้วนแต่สุขภาพดีมีอยู่จริงหรือไม่?
A: มีอยู่ในบางกรณีที่ร่างกายไม่มีโรคแทรกซ้อน แต่ระยะยาวมีโอกาสเกิดโรคได้มากขึ้น
Q: ออกกำลังกายแต่ไม่ลดน้ำหนัก เกิดจากอะไร?
A: อาจเป็นเพราะอาหารยังเกินความต้องการ หรือร่างกายเริ่มสร้างกล้ามเนื้อซึ่งหนักกว่าไขมัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม[/vc_column_text]
เอกสารอ้างอิง
Body mass index. http://en.wikipedia.org/wiki/Body_mass_index [2014,March6].
Jitnarin, N.et al. (2009). Risk factors for overweight and obesity among Thai adults:
results of the National Thai Food Consumption Survey. Nutrients. 2, 60-74.
ดัชนีมวลกาย http://th.wikipedia.org/wiki/ดัชนีมวลกาย.
ขอบคุณคลิปดี ๆ มีสาระจาก หมอปุ้ม พญ. สิรนาถ.