มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer) – สาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกัน

0
5254
มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนัง เป็นโรคมะเร็งที่พบได้สูงในคนผิวขาวทั้งชายและหญิง พบบริเวณที่ถูกแสงแดดจัดเป็นเวลานาน

1. รู้จักมะเร็งผิวหนัง คืออะไร?

มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer) คือภาวะที่เซลล์ผิวหนังกลายพันธุ์และแบ่งตัวผิดปกติ จนกลายเป็นเนื้องอก ซึ่งอาจอยู่เฉพาะที่หรือแพร่กระจายเข้าสู่เนื้อเยื่ออื่นได้ โดยมะเร็งผิวหนังมี 3 ชนิดหลัก ได้แก่:

  1. Basal Cell Carcinoma (BCC) – เริ่มต้นจากเซลล์ฐานผิวหนัง มักเกิดบริเวณที่โดนแดดมาก เช่น หน้า ใบหู คอ

  2. Squamous Cell Carcinoma (SCC) – เกิดจากเซลล์ผิวนอก มักพบบริเวณริมฝีปาก หรือผิวหนังที่โดนแดด

  3. Malignant Melanoma (เมลาโนมา) – มะเร็งชนิดร้ายแรงที่สุด เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสี พบได้ที่ไฝปรากฎอาการผิดปกติ

มะเร็งผิวหนังเกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่พบมากในคนผิวขาว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแสงแดดจัด หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคผิวหนัง

2. บทบาทของผิวหนังและความเสี่ยงจากแดด

ผิวหนังเป็นอวัยวะปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมและช่วยรักษาอุณหภูมิ โดยเฉพาะเม็ดสีเมลานินช่วยกรองแสง UV แต่หากได้รับแสง UVA/UVB มากเกินจำเป็น จะทำให้เซลล์เสียหายและกลายพันธุ์ จนเกิดมะเร็งได้

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ:

  • โดนแดดจัดนาน (10.00–16.00 น.)

  • ไม่มีผิวสีคล้ำ หรือเป็นคนเชื้อชาติยุโรป

  • มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งผิวหนัง

  • เคยมีแผลเรื้อรัง หรือได้รับรังสีชนิดอื่น (X-ray)

  • มีภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน

3. สัญญาณเตือนมะเร็งผิวหนัง

มะเร็งผิวหนังระยะแรกอาจไม่มีอาการชัด แต่หากเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:

  • ก้อนเนื้อหรือแผลที่ผิวหนังเปลี่ยนแปลงเรื้อรัง

  • ไฝหรือปานที่มีขอบไม่ชัด สีไม่สม่ำเสมอ โตเร็ว หรือเลือดออก

  • รอยแดงหรือปื้นขรุขระตามที่โดนแดด ติดแผลและหายยาก

  • ต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงโตขึ้นแต่ไม่เจ็บ

ลักษณะน่ากังวลสำหรับเมลาโนมา (ชื่อย่อ ABCDE):

  • Asymmetry: ไม่สมมาตร

  • Border: ขอบไม่ชัดหรือหยัก

  • Color: สีไม่ uniform

  • Diameter: ขนาด > 6 มม.

  • Evolving: มีการเปลี่ยนแปลง

4. การวินิจฉัยและการจัดระยะของโรค

แพทย์จะติดตามอาการ และตรวจเพิ่มเติมดังนี้:

  1. ตรวจร่างกาย ซักประวัติ แผลที่ผ่านมา และตรวจเซลล์ผิว

  2. ตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) ส่งตรวจพยาธิวิทยา

  3. CT / MRI / Ultrasound / PET scan ใช้ในกรณีสงสัยว่าแพร่กระจาย

การแบ่งระยะ (TNM staging):

  • ระยะ 0: หัวเร็ว การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่ผิวชั้นบน

  • ระยะ I–II: ขนาดก้อนเพิ่มขึ้น <2–4 ซม.

  • ระยะ III: เริ่มแพร่เข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง

  • ระยะ IV: แพร่กระจายไปอวัยวะอื่น เช่น ตับ ปอด สมอง

สำหรับเมลาโนมา ใช้เกณฑ์ Breslow Depth และการแพร่กระจายเพื่อประเมินความรุนแรง

5. การรักษามะเร็งผิวหนัง

5.1 ผ่าตัด (Surgery)

  • Excision: ตัดผิวหนังแผลกว้างเพื่อกำจัดเชื้อ

  • Mohs micrographic surgery: เหมาะกับผิวหนังใบหน้า แผลน้อย ฟื้นตัวดี

5.2 การใช้รังสีรักษา (Radiotherapy)

ใช้ในกรณีผ่าตัดไปได้ไม่หมด หรือผู้ป่วยไม่สามารถผ่าตัดได้

5.3 เคมีบำบัด (Chemotherapy)

ใช้หลังก้อนใหญ่ แพร่กระจาย หรือร่วมกับการรักษาอื่น

5.4 ยากลุ่ม Targeted therapy & Immunotherapy

  • เหมาะกับเมลาโนมาที่เป็น mutation specific เช่น BRAF, MEK inhibitors

  • ยากลุ่ม PD-1, CTLA-4 ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

5.5 การรักษาแบบอื่น

  • Cryotherapy และ laser ใช้สำหรับแผลเล็ก early stage

  • Photodynamic therapy เฉพาะแผล Superficial BCC และ SCC

6. การป้องกันมะเร็งผิวหนัง

  • หลีกเลี่ยงแดดจัด (10.00–16.00 น.)

  • ใส่เสื้อผ้าคลุมแขน, ใส่หมวก ใช้ร่ม และใส่แว่นกันแดด

  • ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอกัน UVA/UVB SP Factor ≥ 30 ทุก 2–3 ชั่วโมง

  • หลีกเลี่ยงเตาหรือหลอด UV พลังสูง

  • ตรวจผิวตนเองเดือนละ 1 ครั้ง และตรวจสุขภาพทุกปี

7. แนวโน้มการเกิดโรคและอัตราการรอดชีวิต

มะเร็งชนิด BCC และ SCC หากตรวจพบระยะแรกมีอัตราหายขาดสูง (มากกว่า 90%) แต่ชนิดเมลาโนมา หากรักษาระยะล่าช้า อัตรา 5‑ปีจะลดลงเหลือประมาณ 20–60% ขึ้นกับระดับความลึกและการแพร่กระจาย

8. ตัวอย่างกรณีศึกษา

  • ผู้ชายวัย 70, สีผิว fair, พบก้อนเล็กไม่เจ็บหน้าแก้ม ตรวจพบ SCC ระยะ II ได้รับการผ่าตัดขนาดกว้าง + รังสี หลังดูแลครบ 5 ปี ไม่พบการลุกลาม

  • ผู้หญิงวัย 45, สังเกตไฝข้างลำตัวที่โตเร็ว จึงตัดชิ้นตรวจพบเมลาโนมา Breslow 1.8 มม. ระยะ II รักษาด้วยผ่าตัด + Immunotherapy ยังได้รับการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

9. สรุป – มะเร็งผิวหนัง รู้ทัน ป้องกันง่าย

ข้อควรระวัง ข้อมูลสำคัญ
ประเภทหลัก BCC, SCC, Melanoma
ปัจจัยเสี่ยง แดดจัด, สีผิว, พันธุกรรม
สัญญาณเตือน แผลเรื้อรัง, ไฝเปลี่ยน
ตรวจวินิจฉัย Biopsy, CT, MRI
ระยะ 0–IV (ขึ้นกับขนาด แพร่กระจาย)
การรักษา ผ่าตัด, รังสี, เคมี, Immuno/Targeted
การป้องกัน เสื้อผ้า, ครีมกันแดด, ตรวจผิว
อัตรารอดชีวิต สูงใน early stage (BCC/SCC), ต่ำกว่าเมื่อแพร่ (เมลาโนมา)

FAQ – คำถามพบบ่อย

Q1: มะเร็งผิวหนังเกิดบริเวณไหนได้บ้าง?

– สามารถเกิดได้ทุกส่วนที่มีผิวหนัง เช่น ใบหน้า, หัว, ลำตัว, มือ, เท้า หรือแม้แต่อวัยวะที่ไม่คาดคิด เช่น ส่วนหนังสุรางค์

Q2: ใครบ้างที่มีความเสี่ยงสูง?

– คนผิวขาว, ผู้ที่ผิวแพ้ง่าย, มีประวัติครอบครัว, ผู้ที่เคยไหม้แดดรุนแรง หรือทำงานกลางแดดจัด

Q3: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าไฝหรือหูด normal หรือผิด?

– ให้ใช้ ABCDE (Asymmetry, Border, Color, Diameter, Evolving). หากมีลักษณะใดเข้าข่าย ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง

Q4: ครีมกันแดดช่วยป้องกันมะเร็งได้จริงไหม?

– ใช้ป้องกันความเสียหายจาก UV ได้ดี แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ควรใช้ร่วมกับการหลีกเลี่ยงแดดจัด

Q5: ถ้ามีแผลที่ผิวหนัง ควรทำอย่างไร?

– หากเป็นแผลเรื้อรัง หายช้า เลือดออกง่าย หรืออาการไม่ดีขึ้นใน 2–3 สัปดาห์ ควรพบแพทย์ทันที

Q6: เมลาโนมาอันตรายแค่ไหน?

– เป็นมะเร็งผิวหนังที่รุนแรงที่สุด และระบบแพร่กระจายเร็ว หากจับได้ตั้งแต่ระยะแรกมีโอกาสรอดสูง แต่หากกระจายแล้วอาการมักแย่และรักษายาก

ร่วมตอบคำถามกับเรา

[/vc_column_text]

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เอกสารอ้างอิง

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.

WHO (October 2010). Cancer. World Health Organization. Retrieved 5 January 2011.

[/vc_column][/vc_row]