Total PSA คืออะไร?
Total PSA (Prostate-Specific Antigen) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างโดย ต่อมลูกหมาก ซึ่งพบได้ในเลือดของเพศชายในระดับต่ำตามปกติ การตรวจวัดระดับ Total PSA ในเลือดจึงเป็นวิธีการสำคัญที่ใช้คัดกรอง วินิจฉัย และติดตามอาการของ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาวะต่อมลูกหมากโต และการอักเสบของต่อมลูกหมาก
การเปลี่ยนแปลงของระดับ PSA อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในต่อมลูกหมาก แม้ไม่ได้เป็นมะเร็งก็ตาม จึงมีความสำคัญในการเฝ้าระวังและประเมินสุขภาพผู้ชายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
บทบาทของ Total PSA ในการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
PSA ตรวจหาอะไรได้บ้าง?
-
มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer)
-
ภาวะต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH)
-
ต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis)
อย่างไรก็ตาม ค่า PSA เพียงอย่างเดียวไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ จำเป็นต้องใช้ร่วมกับข้อมูลจากประวัติสุขภาพ การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น การตรวจ Free PSA, MRI หรือ การตัดชิ้นเนื้อ (biopsy) เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัย
วิธีการตรวจ Total PSA และการเตรียมตัว
ขั้นตอนการตรวจ PSA
-
เจาะเลือดจากเส้นเลือดดำ ที่แขนของผู้ป่วย
-
ส่งตัวอย่างเลือดไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
-
ผลลัพธ์จะแสดงระดับ PSA ในหน่วย นาโนกรัม/มิลลิลิตร (ng/mL)
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
-
หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ 24-48 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
-
หลีกเลี่ยงการขี่จักรยานหรือกิจกรรมที่กระทบกระเทือนต่อมลูกหมาก
-
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยา เช่น ยาขับปัสสาวะหรือยาฮอร์โมน
การแปลผล Total PSA
ค่าปกติของ Total PSA
ช่วงอายุ | ค่า PSA โดยประมาณ |
---|---|
< 50 ปี | < 2.5 ng/mL |
50-59 ปี | < 3.5 ng/mL |
60-69 ปี | < 4.5 ng/mL |
≥ 70 ปี | < 6.5 ng/mL |
ค่าที่สูงกว่าเกณฑ์อาจเป็นสัญญาณของ:
-
มะเร็งต่อมลูกหมาก
-
การติดเชื้อหรืออักเสบของต่อมลูกหมาก
-
ภาวะต่อมลูกหมากโต
ค่าผิดปกติหมายถึงอะไร?
-
PSA > 4.0 ng/mL: ต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น Free PSA หรือ MRI
-
PSA > 10.0 ng/mL: เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ
-
PSA Velocity: ถ้าเพิ่มเร็วกว่า 0.75 ng/mL ต่อปี ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
Total PSA vs. Free PSA
Free PSA หมายถึงค่า PSA ที่ไม่จับกับโปรตีนในเลือด การเปรียบเทียบสัดส่วนของ Free PSA ต่อ Total PSA สามารถช่วยแยกระหว่างมะเร็งกับภาวะอื่น ๆ ได้:
สัดส่วน Free PSA (%) | ความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก |
---|---|
> 25% | ต่ำ |
10–25% | ปานกลาง |
< 10% | สูง |
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า PSA
ปัจจัยที่ทำให้ PSA สูงชั่วคราว
-
มีเพศสัมพันธ์ใกล้วันตรวจ
-
ขี่จักรยานหรือเล่นกีฬาที่กระทบอุ้งเชิงกราน
-
การอักเสบของต่อมลูกหมาก
-
การตรวจทางทวารหนัก (DRE)
ปัจจัยที่ทำให้ PSA ต่ำผิดปกติ
-
ยาบางชนิด เช่น finasteride หรือ dutasteride
-
น้ำหนักตัวมาก (ค่า BMI สูง)
แนวทางดูแลสุขภาพต่อมลูกหมาก
อาหารที่ช่วยลดความเสี่ยง
-
มะเขือเทศ (มีไลโคปีน)
-
ผักใบเขียว
-
ถั่วเหลือง
-
ปลาทะเลน้ำลึก (มีกรดไขมันโอเมก้า 3)
พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
-
สูบบุหรี่
-
ดื่มแอลกอฮอล์จัด
-
อาหารแปรรูป ไขมันสูง
ควรตรวจ Total PSA เมื่อไร?
-
ทุกปีตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป
-
อายุน้อยกว่า 50 ปี หากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
-
มีอาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่สุด
-
เจ็บหรืออึดอัดในบริเวณอุ้งเชิงกราน
สรุป
Total PSA เป็นการตรวจเลือดที่มีบทบาทสำคัญในการประเมินสุขภาพต่อมลูกหมาก และคัดกรองความเสี่ยงต่อมะเร็ง แต่ไม่สามารถใช้เป็นเกณฑ์การวินิจฉัยโรคเพียงลำพัง การพิจารณาค่าที่ได้ต้องดูร่วมกับอาการ ประวัติครอบครัว และผลการตรวจอื่นๆ เช่น Free PSA, MRI, และ Biopsy
การตรวจ Total PSA อย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จะช่วยให้ผู้ชายมีโอกาสรับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและเพิ่มโอกาสการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Total PSA
Q1: Total PSA ตรวจเพื่อวินิจฉัยมะเร็งได้หรือไม่?
A: ไม่ได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับการตรวจอื่น เช่น Free PSA, MRI หรือ Biopsy
Q2: ค่า PSA ปกติแต่ยังมีความเสี่ยงมะเร็งได้หรือไม่?
A: ได้ ผู้ป่วยบางรายที่เป็นมะเร็ง PSA ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงควรใช้การตรวจอื่นร่วมด้วยเสมอ
Q3: ควรตรวจ PSA บ่อยแค่ไหน?
A: ทุก 1 ปี สำหรับผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
Q4: ค่า PSA สูงแน่นอนว่าเป็นมะเร็งใช่หรือไม่?
A: ไม่จำเป็นเสมอ ค่า PSA อาจสูงจากการติดเชื้อหรืออักเสบได้ ควรให้แพทย์วินิจฉัยเพิ่มเติม
Q5: วิธีป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากที่ดีที่สุดคืออะไร?
A: ปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์ และตรวจสุขภาพประจำปี
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง
เอกสารอ้างอิง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์. รู้ก่อนเข้าใจการตรวจรักษามะเร็ง. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557.
Catalona WJ, Richie JP, Ahmann FR, Hudson MA, Scardino PT, Flanigan RC, deKernion JB, Ratliff TL, Kavoussi LR, Dalkin BL (May 1994). “Comparison of digital rectal examination and serum prostate specific antigen in the early detection of prostate cancer: results of a multicenter clinical trial of 6,630 men”. The Journal of Urology. 151 (5): 1283–90. PMID 7512659.
Velonas VM, Woo HH, dos Remedios CG, Assinder SJ (2013). “Current status of biomarkers for prostate cancer”. International Journal of Molecular Sciences. 14 (6): 11034–60. doi:10.3390/ijms140611034. PMC 3709717 Freely accessible. PMID 23708103.
“Prostate cancer – PSA testing – NHS Choices”. NHS Choices. 3 January 2015.
“Talking With Your Patients About Screening for Prostate Cancer” (PDF). Retrieved 2012-07-02.