ความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปี
การตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นรากฐานของการดูแลสุขภาพเชิงรุก (Preventive Health) เพราะการรู้จักร่างกายของตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนชีวิต การตรวจสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือค้นหาโรค แต่ยังช่วยประเมินแนวโน้มสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคที่ร้ายแรงอย่างมะเร็ง การตรวจสุขภาพช่วยให้เรารู้ทันโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งมักไม่มีอาการ จึงสามารถป้องกันหรือรักษาได้ทันท่วงที
ตรวจเลือดคืออะไร และมีความหมายอย่างไร
ในบรรดาการตรวจสุขภาพที่ใช้กันทั่วไป การตรวจเลือดเป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และให้ข้อมูลที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ภาวะโลหิตจาง การอักเสบ การติดเชื้อ ภาวะขาดสารอาหาร ไปจนถึงโรคมะเร็งและโรคเกี่ยวกับฮอร์โมน ผลตรวจเลือดสามารถเปรียบได้กับ “กระจกสะท้อนสุขภาพภายในร่างกาย” ที่แพทย์ใช้วิเคราะห์ภาวะผิดปกติได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC)
การตรวจ Complete Blood Count (CBC) เป็นการประเมินเซลล์หลักในเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด เป็นการตรวจเบื้องต้นที่มักใช้ในทุกโปรแกรมตรวจสุขภาพ
เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cell: RBC)
RBC ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ หากค่า RBC ต่ำกว่าปกติอาจแสดงถึงภาวะโลหิตจาง (Anemia) ที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก วิตามิน B12 หรือโรคเรื้อรังบางชนิด หากสูงเกินไปอาจบ่งถึงภาวะขาดน้ำหรือโรคไขกระดูก
เม็ดเลือดขาว (White Blood Cell: WBC)
WBC มีบทบาทหลักในระบบภูมิคุ้มกัน ค่า WBC ที่สูงผิดปกติอาจแสดงถึงการติดเชื้อ หรือมะเร็งเม็ดเลือด เช่น ลิวคีเมีย ในทางกลับกัน หากต่ำเกินไปอาจบ่งถึงการกดภูมิคุ้มกันจากการใช้ยา หรือโรคไวรัสเรื้อรัง
เกล็ดเลือด (Platelet)
เกล็ดเลือดช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อเกิดบาดแผล หากมีค่าต่ำ อาจเสี่ยงต่อการเลือดออกผิดปกติ หากสูงผิดปกติอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือด
การตรวจหาสารชีวเคมีในเลือด (Biochemical Tests)
นอกจากการประเมินเซลล์ในเลือด การตรวจค่าชีวเคมีในเลือดก็เป็นอีกส่วนสำคัญ เพราะแสดงค่าการทำงานของอวัยวะหลักในร่างกาย
ค่าน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar, HbA1c)
การวัดระดับน้ำตาลขณะอดอาหารช่วยคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน หากค่าระหว่าง 100–125 mg/dL จัดเป็นภาวะ “เสี่ยงเบาหวาน” ส่วน HbA1c แสดงระดับน้ำตาลเฉลี่ยในช่วง 2–3 เดือน หากมากกว่า 6.5% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เบาหวาน
ไขมันในเลือด (Lipid Profile)
ประกอบด้วย LDL, HDL, Triglyceride และ Total Cholesterol ค่าที่ผิดปกติสัมพันธ์โดยตรงกับโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง การควบคุมระดับไขมันในเลือดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในผู้มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน และผู้สูบบุหรี่
การทำงานของตับ (Liver Function Test)
ค่าที่ใช้ประเมิน ได้แก่ SGOT (AST), SGPT (ALT), ALP และ Bilirubin หากค่าสูงเกินปกติ อาจเป็นสัญญาณของไขมันพอกตับ ตับอักเสบ หรือโรคตับอื่นๆ การตรวจนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย หรือมีน้ำหนักเกิน
การทำงานของไต (Kidney Function Test)
ดูได้จากค่า BUN, Creatinine และอัตราการกรองของไต (eGFR) ค่าที่ผิดปกติอาจแสดงถึงภาวะไตเสื่อมในระยะต้น ซึ่งหากไม่ปรับพฤติกรรม อาจพัฒนาเป็นไตวายเรื้อรังในอนาคต
การตรวจฮอร์โมนและสารชีวเคมีเฉพาะทาง
ฮอร์โมนไทรอยด์
เช่น TSH, Free T3 และ Free T4 ใช้ประเมินภาวะไทรอยด์ต่ำหรือไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งพบมากในผู้หญิงวัยทำงาน
ฮอร์โมนเพศชาย-หญิง
เช่น Testosterone, Estrogen, Progesterone ใช้ในการประเมินภาวะมีบุตรยาก วัยทอง หรือปัญหาทางเพศ
สารแร่ธาตุในเลือด
เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม ช่วยในการวิเคราะห์ภาวะขาดสมดุลของระบบไฟฟ้าในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ หัวใจ และสมอง
การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor Markers)
แม้ว่าการเจาะเลือดไม่สามารถวินิจฉัยมะเร็งได้ 100% แต่สารบางชนิดในเลือดจะสูงขึ้นในผู้ป่วยมะเร็งบางชนิด ซึ่งเรียกว่า Tumor Marker
ตัวอย่างสารบ่งชี้มะเร็งที่พบบ่อย
-
CEA: มะเร็งลำไส้ใหญ่
-
AFP: มะเร็งตับ
-
CA-125: มะเร็งรังไข่
-
PSA: มะเร็งต่อมลูกหมาก
-
CA 19-9: มะเร็งตับอ่อนหรือท่อน้ำดี
แพทย์จะสั่งตรวจสารเหล่านี้ในผู้ที่มีอาการผิดปกติ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง เพื่อใช้ประกอบกับการตรวจวินิจฉัยอื่น เช่น CT Scan หรือ MRI
ค่าผลตรวจเลือดและช่วงค่าปกติ
รายการตรวจ | ช่วงค่าปกติ (ผู้ใหญ่) |
---|---|
RBC | 4.2 – 5.9 ล้านเซลล์/µL |
WBC | 4,000 – 11,000 เซลล์/µL |
Platelet | 150,000 – 450,000 เซลล์/µL |
FBS | < 100 mg/dL |
HbA1c | < 5.7% |
LDL | < 100 mg/dL (หากมีโรคประจำตัว) |
HDL | > 40 mg/dL (ชาย), > 50 mg/dL (หญิง) |
Triglyceride | < 150 mg/dL |
Creatinine | 0.6 – 1.2 mg/dL |
ตรวจสุขภาพตามช่วงวัย ควรเริ่มเมื่อไร?
-
อายุ 20–30 ปี: ตรวจพื้นฐาน เช่น CBC, น้ำตาล, ไขมัน, ตับ, ไต
-
อายุ 30–40 ปี: เพิ่มการตรวจมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก
-
อายุ 40–50 ปี: ตรวจ PSA, สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ ตับ
-
อายุ 50 ปีขึ้นไป: ตรวจความหนาแน่นของกระดูก, ตรวจสมรรถภาพหัวใจเพิ่มเติม
สรุป: ตรวจสุขภาพ = ดูแลอนาคตของคุณ
การตรวจสุขภาพไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน การรู้เท่าทันร่างกายของตนเองตั้งแต่วันนี้ คือกุญแจสำคัญสู่การป้องกันโรคร้ายที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้ตลอดกาล
หากคุณไม่แน่ใจว่าควรตรวจอะไร หรืออ่านผลเลือดไม่เข้าใจ อย่าลังเลที่จะขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะสุขภาพของคุณมีค่าเกินกว่าการมองข้าม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ควรเริ่มตรวจสุขภาพประจำปีเมื่ออายุเท่าไร?
A: คนทั่วไปควรเริ่มตรวจสุขภาพประจำปีตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยเน้นการตรวจพื้นฐาน เช่น ความดัน น้ำตาล ไขมัน และเม็ดเลือด หากอายุมากขึ้นหรือมีปัจจัยเสี่ยง แพทย์จะพิจารณาเพิ่มการตรวจเฉพาะทาง เช่น ตรวจตับ ไต ฮอร์โมน หรือสารบ่งชี้มะเร็ง
Q: การตรวจเลือดสามารถบอกโรคได้ทั้งหมดหรือไม่?
A: การตรวจเลือดให้ข้อมูลได้หลายระบบในร่างกาย เช่น ภาวะโลหิตจาง ตับอักเสบ เบาหวาน และบางชนิดของมะเร็ง แต่ไม่สามารถวินิจฉัยโรคทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะโรคที่ซับซ้อนยังต้องตรวจด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ภาพถ่ายรังสี หรือการส่องกล้อง
Q: Tumor Marker ตรวจมะเร็งได้ทุกชนิดหรือไม่?
A: ไม่สามารถตรวจมะเร็งได้ทุกชนิด Tumor Marker เป็นเพียง “ตัวบ่งชี้” ที่อาจเพิ่มขึ้นในบางชนิดของมะเร็ง เช่น CEA, AFP, PSA, CA-125 เป็นต้น ทั้งนี้ การตรวจต้องร่วมกับวิธีอื่น เช่น CT Scan, MRI หรือการตรวจชิ้นเนื้อ จึงจะยืนยันได้แน่ชัด
Q: การตรวจ CBC ใช้บอกอะไรได้บ้าง?
A: การตรวจ CBC ใช้วิเคราะห์จำนวนและลักษณะของเซลล์ในเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ช่วยบอกภาวะโลหิตจาง ติดเชื้อ ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือโรคเกี่ยวกับไขกระดูกได้ในเบื้องต้น
Q: ต้องงดน้ำงดอาหารก่อนตรวจสุขภาพหรือไม่?
A: ใช่ โดยเฉพาะการตรวจน้ำตาลในเลือดและไขมัน ควรงดอาหารอย่างน้อย 8–12 ชั่วโมงก่อนตรวจ เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ หากมีรายการตรวจเฉพาะอื่น ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า
ร่วมตอบคำถามกับเรา
[/vc_column_text]
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
Health Check approval misleading consumers, Canadian doctor alleges”. Global News. Corus Entertainment. Retrieved 18 November 2016.