มะปราง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย

0
1376
มะปราง
มะปราง ผลดิบสีเขียวอ่อนถึงเข้ม ผลสุกสีเหลืองถึงเหลืองอมส้ม เปลือกจะนิ่ม เนื้อด้านในสีเหลืองแดงส้มออกแดง มีรสหวานหรือหวานอมเปรี้ยว หรือเปรี้ยวจัด
มะปราง
ผลดิบสีเขียวอ่อนถึงเข้ม ผลสุกสีเหลืองถึงเหลืองอมส้ม เปลือกจะนิ่ม เนื้อด้านในสีเหลืองแดงส้มออกแดง มีรสหวานหรือหวานอมเปรี้ยว หรือเปรี้ยวจัด

มะปราง

มะปราง (Plum mango) มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ไทย ลาว พม่า มาเลเซีย ซึ่งจะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Bouea macrophylla Griff. อยู่ในวงศ์มะม่วง ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น มะผาง ปราง บักปราง ต้นมีลักษณะค่อนข้างแหลมถึงทรงกระบอก จะมีรากแก้วแข็งแรง กิ่งก้านสาขาจะค่อนข้างทึบ ลำต้นสูง 15-30 เมตร

ลักษณะของ

  • ต้น ลักษณะทรงพุ่มค่อนข้างเป็นทรงกระบอก เนื่องจากแตกกิ่งในระดับต่ำ จำนวนกิ่งมาก โดยเฉพาะกิ่งแขนงที่แตกออกจากกิ่งหลัก และกิ่งมีใบติดตลอดจนถึงเรือนยอด ลำต้นมีความสูงในช่วง 15-30 เมตร เนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง ออกสีเหลืองส้มหรือเหลืองแดง เปลือกลำต้นมียาง
  • ใบ คล้ายกับใบมะม่วงแต่เล็กกว่า ใบเรียวยาว สีเขียว ที่ขอบใบจะเรียบ ส่วนที่แผ่นใบจะเหนียว สามารถเห็นเส้นใบได้ชัด ใบอ่อนจะเป็นสีม่วงแดง มีความยาวประมาณ 14 เซนติเมตร กว้างประมาณ 3.5 เซนติเมตร
  • ดอกออกเป็นช่อ ออกดอกที่บริเวณปลายกิ่งแขนง เมื่อดอกบานจะเป็นสีเหลือง เป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ ช่อดอกยาว 8-15 เซนติเมตร
  • ผล คล้ายรูปไข่และกลม ที่ปลายจะเรียวแหลม 1 ช่อ จะมีผลประมาณ 1-15 ผล ผลดิบจะเป็นสีเขียวอ่อนถึงเข้ม ผลสุกจะเป็นสีเหลืองถึงเหลืองอมส้ม เปลือกจะนิ่ม เนื้อด้านในจะเป็นสีเหลืองแดงส้มออกแดงจะขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ มีรสชาติหวานหรือหวานอมเปรี้ยว หรือเปรี้ยวจัด ภายในผลจะมีเมล็ด 1 เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดของมะม่วง

พืชตระกูลมะปราง

  • มะยงห่าง ภายนอกจะคล้ายมะยงชิด ที่ต่างกันคือรสชาติ มะยงห่างรสจะเปรี้ยวมากมีรสหวานเล็กน้อย มะยงห่างไม่ค่อยนิยมปลูกเพื่อการค้า
  • มะปรางเปรี้ยว มีรสเปรี้ยวทั้งผลดิบและผลสุก เหมาะกับการนำไปแปรรูปมากกว่าการนำมาทานสด อย่างเช่น ดอง แช่อิ่ม น้ำผลไม้ เป็นต้น
  • กาวาง ภายนอกคล้ายกับมะยงชิดกับมะยงห่าง ที่ต่างคือมีกาวางมีรสเปรี้ยวใกล้เคียงกับมะดัน ที่มาของชื่อกาวาง มีเรื่องเล่าว่า มีนกกาหิวโซบินมาเห็นผลไม้ชนิดนี้สีเหลืองสวย เมื่อลองจิกเพื่อลิ้มรสชาติก็ต้องวางแล้วบินหนีไปทันที เป็นที่มาของชื่อ “กาวาง”
  • มะปรางหวาน ผลดิบกับผลสุกมีรสชาติหวานสนิท ความหวานจะแตกต่างกัน หวานมากหรือหวานน้อย เมื่อทานอาจทำให้ไอระคายคอ คันคอ ถ้ามีรสชาติหวานสนิท
  • มะยงชิด มีรสหวานอมเปรี้ยวหรือหวานและเปรี้ยวอยู่ในผลเดียว ขนาดมีทั้งผลเล็กและผลใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร ยาว 5-7 เซนติเมตร มะยงชิดมีรสชาติหวานมากกว่าเปรี้ยว ผลดิบมีรสมัน ผลสุกจะมีรสออกหวาน เนื้อจะค่อนข้างแข็ง เปลือกหนา (ถ้ารสเปรี้ยวมากกว่าหวาน จะเรียกว่า “มะยงห่าง”)

มะยงชิดและมะปรางกันอย่างไร

  • ผลดิบจะมีรสมัน ส่วนมะยงชิดผลดิบจะมีรสเปรี้ยวจัด
  • ผลดิบเป็นสีเขียวออกซีด ส่วนมะยงชิดผลดิบจะเป็นสีเขียวจัดกว่า
  • ผลมีขนาดเล็กกว่ามะยงชิด
  • ผลสุกจะมีรสชาติหวานมาก ส่วนมะยงชิดผลสุกจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
  • ผลสุกจะเป็นสีเหลืองอ่อน ส่วนมะยงชิดจะเป็นสีเหลืองแกมส้ม
  • บางสายพันธุ์เมื่อทานอาจจะทำให้คันหรือระคายคอ ส่วนมะยงชิดเมื่อทานจะไม่มีอาการคันหรือระคายคอ

ประโยชน์ของมะปราง

  • ผลสุกสามารถทานเป็นผลไม้ หรือใช้ทำน้ำผลไม้ ทำแยม นำไปกวน ทานผลดิบกับน้ำปลาหวาน กะปิหวาน หรือนำไปดอง แช่อิ่ม
  • สามารถใช้ใบทำเป็นยาพอกแก้อาการปวดศีรษะได้
  • สามารถแก้น้ำลายเหนียวได้
  • สามารถช่วยฟอกโลหิตได้
  • มีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส สามารถช่วยบำรุงกระดูกกับฟันได้
  • สามารถช่วยป้องกันและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดัน
  • มีวิตามินซีกับเบตาแคโรทีนสูง
  • เหมาะกับคนธาตุดิน หรือผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ราศีกันย์ ราศีมังกร ผู้เกิดธาตุนี้มักเสี่ยงโรคความอ้วน ความดัน เบาหวาน โรคทางเดินหายใจ
  • สามารถใช้น้ำจากต้นเป็นยาอมกลั้วคอได้
  • ราก มีสรรพคุณที่เป็นยาแก้อาการไข้กลับและถอนพิษสำแดงได้
  • สามารถแก้เสลดหางวัวได้
  • สามารถป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้
  • มีวิตามินสูง สามารถช่วยบำรุงและช่วยรักษาสายตาได้
  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายได้

คุณค่าทางโภชนาการ

คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัมให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี

สารอาหาร ปริมาณที่ได้รับ
วิตามินบี 1 0.11 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.05 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 0.5 มิลลิกรัม
วิตามินซี 100 มิลลิกรัม
โปรตีน 0.4 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 11.3 กรัม
เส้นใย 1.5 กรัม
เบตาแคโรทีน 230 ไมโครกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 4 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
ธาตุแคลเซียม 9 มิลลิกรัม

ข้อมูลจาก หนังสือคัมภีร์แพทย์สมุนไพร ผลไม้สมุนไพรและพืชผักสวนครัว

สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth

แหล่งอ้างอิง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, หนังสือเภสัชกรรมไทยฯ (วุฒิ วุฒิธรรมเวช), หนังสือคัมภีร์แพทย์สมุนไพร ผลไม้สมุนไพรและพืชผักสวนครัว