สำหรับคนที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อเติมเต็มหรือปรับรูปหน้าให้สวยงามขึ้น อาจมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ คืออะไร ? อันตรายไหม ? ฟิลเลอร์แท้ดูอย่างไร ? ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทย 2023 มียี่ห้อไหนบ้าง ? ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนได้บ้าง ? แต่ละจุด ใช้กี่ CC ? จุดฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่แนะนำ รวมถึงเทคนิคการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA ที่ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบสารที่อยู่ในร่างกาย นำมาใช้ในการฉีดเพื่อทดแทนหรือเติมเต็มผิว บริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า รวมถึงผิวหนังส่วนอื่นของร่างกาย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่เป็นร่องลึก หรือเสริมส่วนบกพร่อง ปรับรูปหน้า ปรับโหงวเฮ้ง ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความชุ่มชื้นขึ้น
ฟิลเลอร์ อันตรายไหม ?
ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อ.ย ไทย ไม่อันตราย หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง รู้วิธีการฉีดไม่ให้เข้าเส้นเลือด สามารถออกแบบ ปรับรูปหน้าให้กับคนไข้ในแต่ละเคสได้อย่างเหมาะสม จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัย หลังทำเห็นผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ
วิธีดูฟิลเลอร์แท้
สำหรับฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ในเบื้องต้น ดังนี้
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Juvederm
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Restylane
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Belotero
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Definisse
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ Flore
ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความโปร่งใสในการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้คนไข้ดูต่อหน้า และอนุญาตให้ถ่ายรูปตัวยาหรือนำกล่องตัวยากลับบ้านได้ เพื่อให้เราสามารถนำไปตรวจสอบแล้วมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของแท้ค่ะ
ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทย 2023
นอกจากตรวจสอบฟิลเลอร์ให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้แล้ว อีกอย่างที่ควรตรวจสอบคือฟิลเลอร์แท้ที่ใช้นั้น ผ่านอย.ไทย ในปีนั้น ๆ หรือไม่ด้วย ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อ.ย ในปี 2023 มีอยู่ 10 รุ่น ดังนี้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากประเทศอเมริกา
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากประเทศสวีเดน
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neobelle จากประเทศเกาหลี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse จากประเทศอิตาลี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Revanesse จากประเทศแคนาดา
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis จากประเทศเกาหลี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Yvoire จากประเทศเกาหลี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ e.p.t.q จากประเทศเกาหลี
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore จากประเทศเกาหลี
ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ปลอม คือ ฟิลเลอร์ที่ผลิตออกมาเพื่อเลียนแบบฟิลเลอร์แท้ ด้วยการใช้สารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมาเป็นส่วนประกอบในการผลิตฟิลเลอร์ เช่น พาราฟิน ไบโอพลาสติก ซิลิโคนเหลว ซึ่งสารเหล่านี้ไม่ผ่าน อย.ไทย เนื่องจากฉีดแล้วไม่สามารถสลายได้เอง เกิดเป็นสารตกค้างอยู่ในผิว ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดการอักเสบ หากต้องการแก้ไขต้องผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น
หากพลาดไปฉีดฟิลเลอร์ปลอม มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ?
- อาจเกิดอาการฟิลเลอร์เน่า
- ฟิลเลอร์ไหลย้อยผิดทิศทาง
- ฟิลเลอร์อักเสบ ติดเชื้อ
- ฟิลเลอร์บวมเป็นก้อน ทำให้ใบหน้าผิดรูป
- ฟิลเลอร์ไม่สลายตามธรมชาติ
- เส้นประสาทถูกทำลาย
- เนื้อตาย หรือ ตาบอด
ดังนั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาข้อมูลคลินิกที่สนใจเข้ารับบริการอย่างละเอียดทุกครั้ง ว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid เพื่อความปลอดภัย ไม่พลาดไปฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายดังที่ระบุไว้ในข้างต้นค่ะ
ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใคร ?
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวอักเสบติดเชื้อ หรือเป็นสิว บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
- ไม่เหมาะกับผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding Disorders)
- ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ กำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ข้อต่อ หรือเส้นเอ็น ในกรณีฉีดฟิลเลอร์มือ
H2 : ฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอ ดูอวบอิ่ม ไม่เป็นร่องลึก
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีมิติ เพิ่มความสมดุลของใบหน้า
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องการพักฟื้นนาน
ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
เนื่องจากฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็ม จึงสามารถใช้ในการฉีดได้หลายตำแหน่ง ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการฉีดเพื่อลดร่องลึก ปรับรูปหน้า รวมถึงเติมความชุ่มชื้นให้ผิวตามบริเวณต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ช่วยลดร่องลึกบริเวณใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา ทำให้ผิวเรียบเนียน ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใสขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ช่วยลดร่องแก้มลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน ดูสดใส ไม่เหนื่อยโทรม
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ช่วยให้ปากอิ่มน้ำ ไม่แห้ง รวมถึงสามารถปรับทรงปากได้หลายทรง เช่น ปากกระจับ ปากทรงเกาหลี ปากสายฝอ เป็นต้น เพื่อเพิ่มเสน่ห์ เปลี่ยนลุคให้กับใบหน้า
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ช่วยเติมแก้มตอบ แก้มตก แก้มแบน ยกกระชับใบหน้าให้ดูอิ่ม มีมิติ หน้าดูเด็กลง
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ช่วยเติมขมับตอบ ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน มีโหงวเฮ้งที่ดีมากยิ่งขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ช่วยเติมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ บุ๋ม เสริมโหงวเฮ้งให้ดูดีขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์คาง
ช่วยเสริมคางได้โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางเบี้ยว ปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูเรียว วีเชฟขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ช่วยยกกระชับผิวข้างแก้ม เก็บกรอบหน้า ให้กรอบหน้าชัดขึ้น ดูเด็กลง
- ฉีดฟิลเลอร์มือ
ช่วยแก้ปัญหามือเหี่ยวย่น มือแห้งกร้าน ทำให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง
H2 : ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานกี่เดือน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 70-80% จากนั้นภายใน 2 สัปดาห์ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เข้าที่ เรียบเนียนไปกับผิว เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ทั้งนี้ ในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังทำ อาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ คือ รอยแดงและอาการบวมจากเข็มเพียงเล็กน้อย สามารถยุบหายไปได้เอง เป็นอาการทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ
ส่วนระยะเวลาคงผลลัพธ์ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นาน 6-24 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นาน 6-18 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฟิลเลอร์กรอบหน้า อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- ฟิลเลอร์มือ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น ฉีด Botox ลดริ้วรอย , ร้อยไหมยกหน้าเรียว , ยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Hifu , Ulthera , Thermage เป็นต้น
ตัวอย่างรีวิวก่อน-หลังทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุด ใช้กี่ CC ?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก คาง แก้มส้ม มือ : ใช้ประมาณ 1 – 2 CC
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ใช้ประมาณ 1 – 3 CC
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ขมับ กรอบหน้า : ใช้ประมาณ 2 – 4 CC
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก : ใช้ประมาณ 3 – 5 CC
จุดฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่แนะนำ
สำหรับจุดฉีดฟิลเลอร์ที่ควรระวัง เนื่องจากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดอยู่มาก หากศึกษาข้อมูลและดูรีวิวไม่ละเอียดมากพอ อาจมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงสูง ทำมาแล้วไม่คุ้มค่า ซึ่ง 2 จุดหลัก ๆ ที่แพทย์ไม่ค่อยแนะนำ ได้แก่
- ฟิลเลอร์หน้าอก
ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์หน้าอก เป็นหนึ่งในทางเลือกของคนที่ต้องการเสริมหน้าอกซึ่งกลัวการผ่าตัดและไม่ต้องการพักฟื้นนาน แต่ความเป็นจริงแล้ว การฉีดฟิลเลอร์หน้าอกนั้นอันตรายมาก ทำแล้วอาจมีความเสี่ยงทำให้หน้าอกเกิดการอักเสบ กลายเป็นก้อนเข็ง ๆ และเกิดพังผืด ทำให้หน้าอกเสียทรงได้ ดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการมีหน้าอกอิ่มสวย จะแนะนำให้ทำศัลยกรรมหน้าอกดีกว่าค่ะ
- ฟิลเลอร์อวัยวะเพศ
ฟิลเลอร์อวัยวะเพศ มีจุดประสงค์ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดและเพิ่มความอวบอิ่มให้กับอวัยวะเพศ แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากอันตรายมาก เพราะบริเวณนั้นเต็มไปด้วยเส้นประสาทและใกล้กับท่อปัสสาวะรวมถึงอวัยวะส่วนอื่น ๆ หากฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดลึกเกินไป จะเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ ทำให้อวัยวะเน่าเปื่อยได้เลยค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดยาและวิตามินบางชนิดก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
- งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน
- งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- แพทย์พิจารณาให้ทานยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวม (ในบางเคส) เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
- หากต้องการแปะยาชา หรือ ฉีดยาชา สามารถแจ้งหมอก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ?
✔ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากสธ. และมีใบอนุญาตเลข 11 หลัก
✔ เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ เป็นแพทย์จริง ผ่านการฉีดฟิลเลอร์มาหลายเคส
✔ เลือกฉีดฟิลเลอร์แท้ ตรวจสอบได้ มีราคาสมเหตุสมผล
✔ เลือกฉีดกับคลินิกที่มีรีวิว ก่อน-หลังทำให้ดู โดยรีวิวต้องไม่ผ่านการแต่งภาพ
✔ เลือกคลินิกที่เข้าถึงง่าย เดินทางสะดวก จองคิวล่วงหน้าได้
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
- เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อประเมินใบหน้าจุดที่ต้องการแก้ไข จากนั้นแพทย์จึงค่อยแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณ CC ที่เหมาะสมให้
- เจ้าหน้าที่ประจำคลินิกทำความสะอาดใบหน้าให้ด้วยการเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนฉีด
- แพทย์แกะกล่องตัวยาฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อให้คนไข้ตรวจสอบและมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ประคบน้ำแข็งให้กับคนไข้ เพื่อลดความเจ็บ
- หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว หมอจะแนะนำวิธีดูแลตัวเอง จากนั้นสามารถกลับบ้านได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไร ?