หลาย ๆ คนที่อยากฟื้นฟูผิวให้มีความแข็งแรง หรืออยากได้งานผิวแบบผิวกระจก ที่ดูฉ่ำวาว เนียนเด้ง และสุขภาพดี คงจะนึกถึงการฉีดรีจูรันกัน ซึ่งเป็นอีกนวัตกรรมปรับสภาพผิว ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ครับ
บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับรีจูรันให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รีจูรันคืออะไร ? ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ? ฉีดตรงไหนได้บ้าง ? เจ็บไหม ? รีจูรันแบบฉีด vs แบบทา ควรเลือกวิธีไหนดี ? พร้อมเปรียบเทียบหัตถการงานผิวแต่ละตัวว่า เหมือนหรือต่างกับรีจูรันอย่างไร ?
รีจูรัน คืออะไร ?
รีจูรัน (Rejuran) คือ นวัตกรรมชะลอและฟื้นฟูผิว ซึ่งตัวสารมีส่วนประกอบหลักเป็น Polynucleotide (PN) บริสุทธิ์ ความเข้มข้น 2% ที่สกัดได้จากชิ้นส่วนของ DNA Salmon ในทะเลธรรมชาติ ซึ่งถือว่ามีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์มากถึง 98% ครับ
การฉีดรีจูรันเข้าสู่ผิวชั้นหนังแท้โดยตรง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ และฟื้นฟูเซลล์ผิวเดิมที่ถูกทำลายครับ จึงนิยมใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแผลจากสิว เสริมความแข็งแรงให้ผิว และปรับสภาพผิวให้มีความฉ่ำวาว ตามเทรนด์ผิวกระจก (Glass Skin)
Polynucleotide (PN) ในรีจูรัน มีข้อดีอะไรบ้าง ?
- Polynucleotide (PN) ในรีจูรันเป็นสารสกัดธรรมชาติ ที่ได้มาจากเซลล์อสุจิของปลาแซลมอนในทะเลธรรมชาติ โดยใช้เทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะ เรียกว่า DOT™
- PN ในรีจูรันเป็นสารที่ผ่านการพิสูจน์ว่าเข้ากันได้ดีกับผิวหนังของมนุษย์ครับ เพราะมีลำดับเบสใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ มีน้ำหนักโมเลกุล และความหนืดที่เหมาะสม
- PN บริสุทธิ์ในรีจูรัน ผ่านการกำจัดแอนติเจนและโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้ตัวสารมีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน หรืออาการแพ้
- PN ในรีจูรันเป็นสารละลายลักษณะใส และไม่มีสี หลังฉีดสารจะเข้าสู่ผิว และค่อย ๆ กลืนไปกับร่างกาย และช่วยซ่อมแซมผิวหนัง
รีจูรัน ช่วยอะไรบ้าง ?
- ฟื้นฟูผิว รีจูรันจะเข้าไปแทนที่เซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ซึ่งสามารถเกิดจากทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือการถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระ และรีจูรันจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยแผลเป็นจากสิว หรือริ้วรอยบริเวณใบหน้าและลำคอดูจางลง รวมถึงช่วยแก้ปัญหารอยแดง รอยคล้ำ และรูขุมขนกว้างอีกด้วย
- เพิ่มความยืดหยุ่น รีจูรันกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และเซลล์ไฟโบรบลาสต์ใหม่ จึงช่วยซ่อมแซมผิว และเติมความชุ่มชื้น ปรับให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว และยืดหยุ่น เมื่อผิวมีความกระชับเพิ่มขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ปรากฏบนผิวจึงดูจางลงครับ
- ปรับสีผิว รีจูรันมีส่วนช่วยในการลดเม็ดสีเมลานินในเซลล์ผิว ทำให้รอยดำจากฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือรอยแผลจากสิวดูจางลง สีผิวจึงดูสม่ำเสมอ และดูกระจ่างใสขึ้น การฉีดรีจูรันจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวใส เรียบเนียน และฉ่ำเหมือนผิวกระจก ทำให้แต่งหน้าง่าย เครื่องสำอางติดทนครับ
- ปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดดหรือสารเคมี รีจูรันทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ครับ ผิวจึงมีความแน่นหนามากขึ้น และเซลล์ผิวใหม่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการถูกทำลายจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น แสงแดด หรือสารเคมี ได้ดีขึ้น การฉีดรีจูรันจึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หรือออกแดดบ่อย ๆ เป็นอย่างมาก
- เติมหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น รีจูรันช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อได้ดีและรวดเร็วครับ จุดที่เป็นหลุมสิวจึงดูเต็มขึ้น และผิวจะดูเรียบเนียน รวมถึงรูขุมขนจะมีขนาดเล็กลง
- ลดความเหี่ยวย่นของลำคอและหลังมือ นอกจากช่วยเรื่องริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว การฉีดรีจูรันยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเต่งตึงให้กับผิวในจุดที่ฉีด สามารถทำให้ผิวหนังบริเวณลำคอ และหลังมือดูเรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ลง
รีจูรันควรใช้แบบไหน ? ฉีดมือ vs เครื่องฉีด vs ทา
หลาย ๆ คนที่กำลังสนใจรีจูรัน คงจะเคยเห็นบริการในคลินิกความงามที่แตกต่างกัน ทั้งรูปแบบการฉีดรีจูรันด้วยมือกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ หรือการใช้เครื่องฉีดอัตโนมัติ (MESO Gun) นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์รีจูรันรูปแบบทาให้เลือกอีกด้วย ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้จะเปรียบเทียบความแตกต่างของการใช้งานรีจูรันในรูปแบบต่าง ๆ ครับ
- รีจูรันแบบฉีดมือ แพทย์จะใช้เข็มฉีดรีจูรันลงลึกถึงผิวชั้นหนังแท้ โดยจะฉีดเป็นจุด ๆ ทั่วใบหน้า ห่างกัน 0.5 cm ครับ เพื่อให้ยากระจายตัวได้ดี ข้อดีคือแพทย์จะสามารถลงรายละเอียด หรือออกแบบให้ยาออกฤทธิ์ไปยังเซลล์เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยรักษาและแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
- รีจูรันแบบฉีดด้วยเครื่อง แพทย์จะใช้เครื่องฉีดอัตโนมัติ (MESO Gun) ครับ อาจทำให้ตัวยาที่ฉีดไม่เข้าสู่ชั้นผิวที่ต้องการ และตัวยาติดอยู่ปลายเข็ม ทำให้คนไข้ได้รับรีจูรันไม่เต็มโดสได้ นอกจากนี้อาจจะเกิดรอยแผล หรือรู้สึกเจ็บได้มากกว่าการทำด้วยมือครับ เพราะแรงดันเครื่อง
- รีจูรันแบบทา แม้จะมีส่วนผสมที่คล้ายคลึงกัน แต่รีจูรันรูปแบบทาจะเหมือนกับการใช้สกินแคร์ทั่วไปครับ จำเป็นต้องทาตัวครีมอย่างต่อเนื่อง ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็มมาก ๆ และมีงบประมาณจำกัดครับ
จะเห็นได้ว่า การฉีดรีจูรันด้วยมือจะถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดครับ เพราะแพทย์สามารถออกแบบให้เหมาะสม และมีความเฉพาะกับแต่ละบุคคลได้ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี รวมถึงยังได้ยาครบโดส โดยไม่ติดค้างอยู่ที่ปลายเข็มเหมือนการใช้เครื่องฉีดอีกด้วย
ฉีดรีจูรันกี่ครั้ง เห็นผลเร็วแค่ไหน ?
การฉีดรีจูรันให้ได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องอย่างน้อย 4 ครั้งครับ โดยให้เว้นห่างกันทุก 2-3 สัปดาห์ในการฉีด 4 ครั้งแรก หลังจากนั้นเมื่อผิวฟื้นฟูอย่างเต็มที่แล้ว สามารถเว้น 3-6 เดือน ในการฉีดครั้งที่ 5 และครั้งต่อ ๆ ไป ซึ่งจะช่วยคงผลลัพธ์การฉีดรีจูรันได้ครับ
- หลังฉีดครั้งที่ 1 ในช่วง 3-5 วันแรก เป็นช่วงที่ผิวหนังเริ่มฟื้นฟู เวลาสัมผัสผิวจะเรียบเนียน และนุ่มขึ้นครับ
- หลังฉีดครั้งที่ 2 ในช่วง 2-4 สัปดาห์ ผิวจะแน่นและกระชับขึ้น ทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง และรูขุมขนกระชับขึ้น
- หลังฉีดครั้งที่ 3 ในช่วง 4-6 วัน ผิวดูเต่งตึง และยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ผิวยังดูมีความชุ่มชื้นมากขึ้น และความมันของผิวลดลง
- หลังฉีดครั้งที่ 4 ในช่วง 6-8 วัน จะสามารถเห็นผลลัพธ์โดยรวมชัดเจน และผิวดูสุขภาพดีขึ้น คือ ผิวมีความกระชับ และเรียบเนียน สีผิวดูสม่ำเสมอ รูขุมขนมีขนาดเล็กลง ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลง
รีจูรัน ผ่านอย.ไทยไหม ?
รีจูรันที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย (อย.ไทย) และจำหน่ายภายในประเทศ จะมีด้วยกัน 3 รุ่น คือ
- Rejuran Healer หรือ Rejuran Rejuvenation (pn) คือ รีจูรันกล่องสีดำ หรือรุ่นคลาสสิก เหมาะกับการบำรุงผิวทั่วทั้งใบหน้า มีคุณสมบัติช่วยปรับให้ผิวเนียนใส และดูฉ่ำวาว
- REJURAN s คือ รีจูรันกล่องสีน้ำเงิน เป็นสูตรที่เหมาะกับการรักษาหลุมสิว หรือรอยแผลเป็น
- REJURAN i คือ รีจูรันกล่องสีขาว เป็นสูตรบางเบา นิยมใช้เพื่อฟื้นฟูผิวรอบดวงตา
ฉีดรีจูรันตำแหน่งไหน ใช้กี่ CC ?
รีจูรันสามารถฉีดได้หลายจุดของร่างกายครับ ซึ่งแต่ละตำแหน่งจะใช้ปริมาณแตกต่างกัน โดยทั่วไปปริมาณของ Rejuran Healer จะมีหน่วยเป็น ml. ซึ่ง 1 หลอดมี 2 ml. ใน 1 กล่องจะบรรจุ 2 หลอด รวมเป็น 4 ml. ฉีดแต่ละครั้งจะใช้รีจูรันประมาณ 2-4 ml.
- รีจูรันใบหน้า ทั่วทั้งใบหน้าจะใช้ 4 ml. ครับ นิยมฉีดเพื่อปรับสภาพผิวให้มีความเต่งตึง คืนความอ่อนเยาว์ และเติมเต็มริ้วรอยต่าง ๆ ให้ดูตื้นขึ้น เช่น ริ้วรอยหางตา ร่องแก้ม หน้าผาก หรือใต้ตา นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการงานผิวกระจก ปรับให้ผิวดูฉ่ำวาว และเนียนเด้ง
- รีจูรันคอ ใช้ 2 ml. สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย และปรับให้ผิวบริเวณลำคอดูอิ่มน้ำมากขึ้นครับ โดยทั่วไปจะได้รับความนิยมมากในกลุ่มที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
- รีจูรันมือ ใช้ 2 ml. จะฉีดบริเวณหลังมือ ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี และหลังมือดูไม่แห้งกร้านครับ
ฉีดรีจูรัน เจ็บไหม ?
การฉีดรีจูรันจะคล้ายกับการฉีดเมโสหน้าใสครับ ในระหว่างการฉีดจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย หรือรู้สึกแสบผิวในตอนที่เดินยา โดยสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการประคบเย็นขณะทำหัตถการ หรือหากใครที่กังวลเรื่องเจ็บมาก ๆ ก็สามารถแจ้งให้ทางคลินิกความงามแปะยาชาก่อนเริ่มฉีดได้ครับ
นอกจากนี้ในการฉีดรีจูรัน จะใช้เข็มขนาดเล็ก ที่มีลักษณะบางเฉียบและคม ช่วยให้ปล่อยตัวยาผ่านเข็มได้ง่าย และสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงได้ครับ รวมถึงยังไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังการฉีดอีกด้วย
รีจูรันกับหัตถการอื่นต่างกันอย่างไร ? รีจูรัน vs เมโสหน้าใส vs Skin Booster vs Sculptra
สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเร่งด่วน อาจจะสงสัยว่า รีจูรันกับหัตถการอื่น ๆ เช่น เมโสหน้าใส, Sculptra, หรือ Skin Booster นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร ? เนื้อหาในส่วนนี้จะเปรียบเทียบตัวช่วยบำรุงแต่ละตัวครับ
รีจูรัน vs เมโสหน้าใส
รีจูรันจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับเมโสหน้าใส ซึ่งจะช่วยในเรื่องการบำรุงผิวพรรณเช่นเดียวกัน แต่ทั้ง 2 หัตถการจะแตกต่างกันที่ส่วนผสม และกลไกการทำงานครับ คือ
- รีจูรัน เป็นการฉีดสาร PN เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และซ่อมแซมเซลล์ผิวเดิมที่ถูกทำลาย รวมถึงยังมีจุดเด่นในเรื่องการปรับสภาพผิวให้มีความฉ่ำวาว และอิ่มน้ำ
- เมโสหน้าใส เป็นการฉีดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณเข้าสู่ผิวโดยตรง ซึ่งจะเน้นในเรื่องการบำรุง และซ่อมแซมเซลล์ผิวเดิมครับ นิยมฉีดเพื่อลดปัญหาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือเพิ่มความกระจ่างใส ซึ่งเมโสหน้าใสจะมีด้วยกันหลายสูตร เพื่อให้ตอบโจทย์กับสภาพผิว หรือปัญหาผิวที่แตกต่างกัน
หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถามว่า การฉีดรีจูรันผสมกับเมโสหน้าใส อันตรายไหม ? โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ฉีดแยกกันครับ เพื่อให้สามารถประเมินประสิทธิภาพได้ เพราะหากฉีดทั้ง 2 ตัวยาผสมกันแล้วเกิดอาการแพ้ แพทย์จะวินิจฉัยหาสาเหตุได้ยาก นอกจากนี้การฉีดผสมกันยังอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการแพ้ หรือการอักเสบอีกด้วย
รีจูรัน vs Skin Booster
การฉีดรีจูรันถือเป็นตัวเลือกในการฟื้นฟูผิว ซึ่งจะมีจุดประสงค์คล้ายกับ Skin Booster แต่ทั้ง 2 หัตถการจะมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน คือ
- รีจูรัน ส่วนประกอบหลักจะเป็นสาร PN ซึ่งเป็น DNA Nucleotide จึงมีคุณสมบัติในด้านการต่อต้านกระบวนการชราของผิวหนัง (Anti-aging) ซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพครับ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และสุขภาพดี
- Skin Booster เช่น ฟิลเลอร์ Belotero Revive, Restylane Vital light และ Juvederm Volite ส่วนประกอบหลักจะเป็นกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างผิว และมีคุณสมบัติกักเก็บน้ำ เพื่อปรับให้ผิวกระชับ ดูเรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยเป็นหลัก
ทั้ง 2 หัตถการสามารถทำร่วมกันได้ครับ แต่แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ เพื่อลำดับการทำ และเว้นระยะเวลาให้พอดี เนื่องจากทั้งรีจูรันและ Skin Booster มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการอุ้มน้ำทั้งคู่ การฉีดพร้อมกันอาจทำให้เกิดปัญหาใบหน้าบวม ซึ่งเป็นความกังวลใจของใครหลายคนครับ
รีจูรัน vs Sculptra
รีจูรันและ Sculptra จะใช้แก้ปัญหาผิว และใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน ดังนี้
- รีจูรัน จะฉีดในผิวชั้นหนังแท้ โดยฉีดกระจายเป็นจุดห่างกัน 0.5 cm ทั่วใบหน้า มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และฉ่ำวาวแบบเร่งด่วน รวมถึงยังช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียน สามารถอยู่ได้นาน 1 เดือน แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องอย่างน้อย 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์
- Sculptra ส่วนประกอบหลักเป็นสารสกัด PLLA จากพืช จะฉีดในผิวชั้นลึกครับ โดยฉีดบริเวณขมับ กรอบหน้า หรือ Midface มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผิวแน่น อิ่มฟู ยกกระชับ และปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้งห่างกัน 4 สัปดาห์
หลาย ๆ คนจะเห็นว่า ทั้งรีจูรัน, เมโสหน้าใส, Skin Booster และ Sculptra เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ไว แต่ก็มีจุดเด่น และเหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกันครับ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับหัตถการใด หรือต้องการทำหลาย ๆ หัตถการร่วมกัน แนะนำให้ปรึกษาและประเมินสภาพผิวกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด และช่วยวางแผนการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึ่งพอใจครับ
สรุป
รีจูรันถือเป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย จึงนิยมฉีดเพื่อฟื้นฟูผิว และปรับผิวให้กระจ่างใส เรียบเนียน และฉ่ำวาวเหมือนผิวกระจก รวมถึงยังช่วยเสริมเกราะปกป้องไม่ให้ผิวถูกทำลายด้วยแสงแดดหรือสารเคมีอีกด้วย
สำหรับใครที่ต้องการฉีดรีจูรันให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึ่งพอใจ และมีความปลอดภัย แนะนำให้เลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ใช้ตัวยาของแท้ที่ตรวจสอบได้ และฉีดกับแพทย์ที่มากประสบการณ์