เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หลาย ๆ คนจะพบเจอกับปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือริ้วรอยร่องลึก เนื่องจากโครงสร้างผิวมีอัตราการสูญเสียคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กระชับ และกลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง Sculptra ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมฟื้นฟูผิวที่กำลังได้รับความนิยมมากครับ
บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Sculptra ว่าคืออะไร ? มีการกระบวนการทำงานอย่างไร ? อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ? เหมาะกับใครบ้าง ? และต้องฉีดกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผล ? พร้อมขั้นตอนการฉีด และแนวทางดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ทำความรู้จัก! Sculptra คืออะไร ?
Sculptra คือ นวัตกรรมฟื้นฟูผิว โดยใช้อนุภาคของสาร Poly-L-Lactic Acid หรือ PLLA ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์จากพืช และเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติตัวแรกของโลก (The First & Original Collagen Biostimulator) ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)
สำหรับสาร PLLA ของ Sculptra จะเป็นอนุภาค PLLA-SCA ซึ่งได้จากกระบวนการผลิตที่จดสิทธิบัตรของบริษัทกัลเดอร์มาเท่านั้น ทำให้ได้สารที่สามารถฉีดเข้าชั้นผิวอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวครับ
Sculptra ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างไร ?
คอลลาเจนเป็นโปรตีน ที่มีความสำคัญกับโครงสร้างผิวหนังของร่างกาย เมื่ออายุเพิ่มขึ้นอัตราการสร้างคอลลาเจนจะลดลง และอัตราการสูญเสียจะเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย หรือแห้งกร้านได้
Sculptra จะช่วยทดแทนคอลลาเจนที่ร่างกายเสียไป และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว (Collagen Stimulator) ให้เพิ่มมากขึ้นได้ถึง 66.5% ครับ โดยจะฉีด Sculptra ในผิวชั้นลึก (Subcutaneous) จึงช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว และทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ผิวหนังจึงดูอิ่มฟู กระชับ และยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงยังดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
กระบวนการทำงานของ Sculptra
- Sculptra ที่ผสมกับน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ (Sterile Water) เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวชั้นลึก จะทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดดูอิ่มฟูขึ้นทันทีในช่วง 2-3 วันแรกครับ เพราะโมเลกุลของน้ำที่ฉีดเข้าไปเติมเต็มในส่วนนั้น ๆ
- หลังจากนั้นร่างกายจะดูดซึมน้ำ จนเหลือแต่ผลึกของสาร PLLA ซึ่งเป็นผลึกของ Sculptra ไว้ในบริเวณที่ฉีด บางรายจึงอาจสังเกตเห็นร่องริ้วรอยเริ่มกลับมาได้
- Sculptra จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนผ่านระบบภูมิคุ้มกัน โดยจะส่งสัญญาณให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์มารวมกันและเพิ่มจำนวน เนื่องจากเซลล์นี้มีหน้าที่สำคัญในการสร้างเส้นใยคอลลาเจนครับ ทำให้บริเวณที่ฉีดมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจึงดูยกกระชับ อิ่มฟู และโครงสร้างชั้นผิวแข็งแรงขึ้น
- เมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อย ๆ สลายจนหมด จนบริเวณที่ฉีดเหลือแต่เส้นใยคอลลาเจนที่สร้างขึ้น ซึ่งจะทำหน้านี้ยกพยุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรงได้ในระยะยาว ผิวหนังจึงฟื้นฟู และยกกระชับ โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี
Sculptra อันตรายไหม ?
Sculptra ไม่อันตรายครับ เพราะเป็นสารที่ใช้เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว (Collagen Stimulator) มาตั้งแต่ในปีค.ศ.1999 และตัวยาได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก U.S. FDA นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยหลายชิ้น ที่ระบุว่ามีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย จึงทำให้มีการใช้งาน Sculptra มาอย่างต่อเนื่อง
Sculptra มีผลข้างเคียงไหม ?
ถ้าฉีด Sculptra โดยใช้ตัวยาของแท้ และฉีดกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ หลังฉีดจะมีผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย ดังนี้
- อาการบวม ปวด หรือรอยแดง ในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดจากการบวมเข็ม โดยรอยจะค่อย ๆ หายได้เองใน 2-3 วัน
- ก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงแรก แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีดตามขั้นตอน และคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดครับ โดยก้อนจะค่อย ๆ ยุบหายไปเอง
Sculptra ฉีดได้ทุกคนไหม ? เหมาะกับใครบ้าง ?
Sculptra เหมาะกับใคร
Sculptra ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน จึงสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ดังนี้
- เหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป เพราะหลังจากอายุ 25 ปี ร่างกายจะมีอัตราการสูญเสียคอลลาเจนเฉลี่ย 1.5% ต่อปี และเมื่ออายุมากกว่า 30 ปี การสร้างคอลลาเจนจะลดลงเหลือเพียง 20-30% ทำให้ผิวหนังขาดความกระชับ เริ่มหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวขาดความกระชับ และขาดความยืดหยุ่น การฉีด Sculptra จะช่วยยกกระชับผิว ปรับให้ผิวแน่น ดูอิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์ลงครับ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อย Sculptra ช่วยเพิ่มความเต่งตึงให้กับผิว ผิวหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าจึงยกขึ้น และทำให้ใบหน้ากลับมาเรียวสวยได้รูป
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก ที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มองเห็นร่องริ้วรอย หรือรอยพับเหล่านี้ได้ชัดเจน แม้จะไม่เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบนใบหน้า
- เหมาะกับผิวที่ขาดการดูแลเป็นเวลานาน เพราะการฉีด Sculptra จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้นถึง 66.5% และช่วยฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าคลินิกบ่อย ๆ เพราะผลลัพธ์การฉีด Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ซึ่งแตกต่างจาก Skin Booster ตัวอื่น ๆ ที่มักจะมีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 1 ปี
Sculptra ไม่เหมาะกับใคร
Sculptra มีข้อควรระวังสำหรับการฉีดในบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งแพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีเงื่อนไขสุขภาพ ดังนี้
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงมาก และจำเป็นต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษครับ แนะนำให้รอให้พ้นจากช่วงนี้ไปก่อน
- ผู้ที่มีประวัติอาการแพ้ ทั้งในผู้ที่เคยมีภาวะแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) หรือผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Sculptra เช่น PLLA (Poly-L-lactic acid), CMC (Carboxymethylcellulose) และ Non-pyrogenic Mannitol รวมถึงผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
- ผู้ที่มีโรคหรือยาประจำตัวบางชนิด เช่น กลุ่มโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune, SLE) ผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน หรือยากลุ่มสเตียรอยด์
- ผู้มีการติดเชื้อหรืออักเสบ ที่ตำแหน่งที่จะทำ แนะนำให้รอผิวหนังบริเวณนั้น ๆ กลับเป็นปกติก่อนครับ
สำหรับใครที่อยากฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับ Sculptra หรือไม่ ? หรือควรทำควบคู่กับหัตถการใดบ้าง ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ แนะนำให้ประเมินสภาพผิวกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด และมีความปลอดภัยในการทำหัตถการครับ
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
- ปรึกษาและประเมินสภาพผิว ควรพบกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยประเมินสภาพผิว ปัญหาที่คนไข้กังวลใจ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับหัตถการครับ รวมถึงแนวทางในการดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด Sculptra อีกด้วย
- เตรียมผิวบริเวณที่จะฉีด คลินิกจะแปะยาชาเป็นเวลาประมาณ 45 นาทีในจุดที่ฉีด เพื่อระงับความเจ็บปวดระหว่างทำหัตถการ และช่วยให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย
- เตรียมสารที่จะฉีด ตัวยา Sculptra จะมาในรูปแบบผงบรรจุอยู่ในขวด แพทย์จึงจำเป็นต้องผสมน้ำกลั้นปราศจากเชื้อ (Sterile Water) เพื่อเตรียมตัวยาให้อยู่ในรูปแบบ Active Form ก่อนนำไปฉีด
- ฉีด Sculptra แพทย์จะใช้เข็มทู่ขนาด 22-25 G ฉีดตัวยาที่ผสมเรียบร้อยแล้ว ลงใต้ชั้นผิวความลึกประมาณ 1.5-2 cm เพื่อเป็นการฉีดในผิวชั้นลึก
- นวดหน้า หลังฉีด Sculptra เสร็จแล้ว จำเป็นต้องนวดหน้าต่อครับ เพื่อให้ยากระจายตัวได้ทั่วถึง และกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการ
Sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง หลังฉีดกี่วันเห็นผล ?
แนะนำให้ฉีด Sculptra ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง โดยเว้นระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 เดือนครับ ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในสัปดาห์ที่ 3 และเห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน ถ้าฉีดต่อเนื่องจะช่วยคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 2 ปี
สำหรับปริมาณการฉีด Sculptra ต่อครั้งจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนครับ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณยาในแต่ละครั้ง โดยใน 1 ขวดของ Sculptra จะมีตัวยาประมาณ 10 CC ครับ
- ผู้ที่อายุไม่ถึง 30 ปี ส่วนใหญ่เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้น ทำให้เริ่มเกิดปัญหาผิว เช่น ริ้วรอยขนาดเล็ก ผิวไม่กระชับ ผิวเริ่มหย่อนคล้อย หรือเริ่มเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ได้ง่ายมากขึ้น สามารถฉีดเพียง 1 ขวด หรือ 10 CC ต่อครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
- ผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้น แต่อัตราการผลิตจะลดลงเรื่อย ๆ จึงมักมีปัญหาผิวค่อนข้างมาก เช่น ร่องแก้มลึกชัดเจน หรือกรอบหน้าหย่อนคล้อย แนะนำฉีดครั้งละ 2 ขวด
Sculptra อยู่ได้นานแค่ไหน ?
Sculptra แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน 1 เดือนครับ ซึ่งจะช่วยปรับสภาพผิว กระตุ้นให้โครงสร้างผิวมีคอลลาเจน และคงสภาพผิวไปได้ประมาณ 2 ปี หรือ 25 เดือน แต่ถ้าฉีด Sculptra เพียงครั้งเดียว ไม่กลับมาฉีดซ้ำ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 2-4 เดือน
ดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra
- นวดหน้าตามหลัก Triple 5 เพื่อช่วยให้อนุภาค PLLA กระจายตัวได้ทั่วใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากที่สุด
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า และทาครีมในบริเวณรอยเข็ม รวมถึงงดการอบซาวน่า และอบไอน้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง การสัมผัสแสงแดด และรังสียูวี จนกว่าอาการบวมแดงจะหายไป
- งดการทำหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้าเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
การนวดหลังฉีด Sculptra สำคัญอย่างไร ? มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?
การนวดหลังฉีด Sculptra จะช่วยให้อนุภาค PLLA กระจายได้ทั่วใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งจะเรียกว่าเทคนิค Triple 5 คือ การนวดวันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน โดยจะมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 กำมือเป็นกำปั้นหลวม ๆ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง และใช้ส่วนกำปั้นค่อย ๆ นวด เลื่อนจากบริเวณหน้าผากไปทางขมับด้านข้าง
- ขั้นตอนที่ 2 กำมือหลวม ๆ โดยยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นในท่าคล้ายการกดไลก์ แนบลงบริเวณแก้มทั้งสองข้าง และใช้มือกดเบา ๆ ค่อย ๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปบริเวณข้างแก้มช้า ๆ
- ชั้นตอนที่ 3 ใช้บริเวณอุ้งมือกดบริเวณข้างแก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากแก้มด้านล่างขึ้นไปด้านบน จนถึงส่วนของโหนกแก้ม ทำซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยกระชับผิวหน้า
- ขั้นตอนที่ 4 ทำมือรูปแบบเดียวกับขั้นตอนที่ 2 แต่เปลี่ยนมานวดบริเวณคาง และค่อย ๆ เลื่อนมือขึ้นไปตามแนวกราม
สรุป
ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง แต่ต้องการแก้ปัญหาผิวอย่างเร่งด่วน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน Sculptra ถือว่าตอบโจทย์มากครับ เพราะช่วยฟื้นฟูผิวในชั้นลึก และช่วยเสริมให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ผิวหนังจึงมีความกระชับ ริ้วรอยดูจางลง และปรับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ สามารถคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานถึง 2 ปี
สำหรับใครที่ต้องการฉีด Sculptra ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความปลอดภัย แนะนำให้เลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ แพทย์ที่มากประสบการณ์ และตรวจเช็กตัวยาเป็นของแท้ทุกครั้งก่อนฉีดครับ