Thermage ที่ไหนดี ?
เชื่อว่าใครที่คลิกเข้ามาอ่านในบทความนี้ อาจจะกำลังประสบปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ มีความหย่อนคล้อย มีไขมันสะสมในชั้นผิวมาก จึงอยากทำ Thermage (เทอร์มาจ) เพื่อยกกระชับ แต่ไม่รู้ว่าทำ Thermage ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกแบบไหนถึงจะมั่นใจได้ว่าใช้เครื่องแท้ สามารถช่วยยกกระชับผิว ให้ตึงขึ้น และผิวหน้าเด็กลงได้อย่างปลอดภัย
เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลไว้เป็นแนวทางพิจารณาเลือกคลินิกทำเทอร์มาจ แบบไม่เสี่ยงถูกหลอก เรามีทริคดี ๆ มาแนะนำ พร้อมสาระน่ารู้เกี่ยวกับการทำThermage ที่ไม่ควรพลาดมาฝาก
ทำความรู้จักThermage หรือ เทอร์มาจ
ก่อนจะเข้าเรื่องแนวทางเลือกคลินิกทำThermage ที่ไหนดี ? ควรทำความรู้จักกับ เครื่องมือยกกกระชับอย่าง “ Thermage ” ว่าคืออะไร ช่วยเรื่องอะไร รวมถึงเหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาใดบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าการทำ Thermage สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้จริงหรือไม่ ?
Thermage คืออะไร ?
Thermage หรือ Thermage FLX เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิว และกระตุ้นคอลลาเจน
ปัจจุบัน Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อน ๆ คือ เจ็บน้อยลง ขณะทำรู้สึกสบายผิวกว่าเดิม และระยะเวลาในการทำสั้นลง ที่สำคัญมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีความงามที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US-FDA และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย เรียบร้อยแล้ว
การทำงานของ Thermage สามารถช่วยยกกระชับผิวได้ จากพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุที่ยิงลงเข้าสู่ผิว โดยสามารถยิงลงลึกได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งอยู่ลึกสุดของโครงสร้างผิว รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) จึงสามารถยกกระชับหน้า กระตุ้นคอลลาเจน และช่วยลด volume ของปริมาณไขมันลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โปรแกรม Thermage ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
การทำ Thermage สามารถทำได้หลายตำแหน่ง จึงช่วยฟื้นฟูผิว ลดความหย่อนคล้อย และลดริ้วรอยได้หลายจุด เช่น
- ใบหน้าและลำคอ เป็นตำแหน่งยอดนิยม เพราะหลังทำจะช่วยยกกระชับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลง มีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น รวมถึงสามารถช่วยลดแก้ม ลดเหนียง ผิวใต้คางที่หย่อนคล้อย ให้ตึงกระชับขึ้นได้
- รอบดวงตา ช่วยทำให้ผิวรอบดวงตาที่หย่อนคล้อยเรียบตึงขึ้น ช่วยลดปัญหาริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้ได้รูป แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่นได้
- ลำตัว ช่วยกระชับผิวบริเวณต้นแขน, หลังมือ, หน้าท้อง, สะโพก หรือบริเวณต้นขาที่หย่อนคล้อย ให้กระชับเรียบเนียนขึ้น รอยย่นลดลง
Thermage เหมาะกับใคร ?
การทำ Thermage จะเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ ต้องการลด volume ของใบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น ซึ่งคนไทย รวมถึงคนเอเชียที่ส่วนใหญ่จะมีเหนียง และไม่ได้มีกรอบหน้าคมชัดมาก
นอกจากนี้การทำ Thermage ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย หน้าตก ผิวมีริ้วรอย ดูเหี่ยว เพราะผิวขาดคอลลาเจน รวมไปถึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า อยากให้รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวกระชับ หน้าเด็กและดูอ่อนเยาว์
ซึ่งข้อดีของการทำ Thermage คือ หลังทำสามารถเห็นผลทันที 20% และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ 2-3 เดือน ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาทำไม่นาน (40-90 นาที) หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เมื่อรู้แล้วว่า Thermage ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใคร หากต้องการทำ แล้วจะทำThermage ที่ไหนดี ? ถึงจะคุ้มค่า ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง มีเครื่องปลอมไหม ? ต้องสังเกตอย่างไร ? เรามีทริคดี ๆ มาฝาก
Thermage ที่ไหนดี ? มีอะไรต้องพิจารณาก่อนเลือกคลินิก
เนื่องจากปัจจุบัน Thermage หรือ Thermage FLX ได้รับความเป็นอย่างมาก จึงมีคนที่ใช้โอกาสนี้ปลอมแปลง Thermage ปลอม ขึ้นมา แน่นอนว่าไม่สามารถการันตีความปลอดภัยได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกทำที่ไหน ควรพิจารณารายละเอียดเหล่านี้อย่างละเอียด
1. คลินิกที่สนใจได้มาตรฐานหรือไม่ ?
ควรพิจาณาเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถตรวจสอบใบอนุญาต ว่าเปิดให้บริการอย่างถูกต้องหรือไม่ดังนี้
- ด้านหน้าคลินิกต้องมีแผ่นป้ายขนาดใหญ่แสดงชื่อสถานพยาบาล หรือชื่อคลินิก ประเภทและลักษณะการให้บริการ เป็นคลินิกเวชกรรม ซึ่งให้บริการโดยแพทย์ และมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงอย่างชัดเจน
- บรรยากาศภายในคลินิก สว่าง สะอาด ปลอดเชื้อ กว้างขวาง มีพื้นที่รับรอง และเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการ
2. คลินิกใช้เครื่อง Thermage อะไร ?
หลาย ๆ คลินิกโฆษณาว่ามีบริการทำเทอร์มาจ แต่ไม่ใช่เครื่อง Thermage FLX หรือ Thermage CPT ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นก่อน เป็นเครื่องยกกระชับที่ทำงานโดยใช้พลังงาน RF เท่านั้น แต่ใช้คำเรียกตั้งชื่อโปรแกรมขึ้นมาเองว่าเป็นเครื่องเทอร์มาจช่วยยกกระชับ
หากพบว่าเป็นยี่ห้ออื่น ๆ ที่ไม่ค่อยเห็นในตลาด ไม่เป็นที่รู้จัก แถมยังมีราคาถูกมาก ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจเป็นเครื่องปลอม ซึ่งอาจเสี่ยงอันตรายได้ เนื่องจากตัวเครื่องพลังงานไม่เสถียร แย่สุดที่เคยเห็นข่าว คือผิวหน้าไหม้เป็นรอยดำทั้งหน้าหรือเป็นรอยแผลเป็น ซึ่งรักษาให้หายได้ยาก
ดังนั้นก่อนทำต้องมั่นใจว่าเป็นเครื่องThermage FLX ของแท้ โดยมีวิธีตรวจสอบดังนี้
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ติดอยู่หน้าคลินิก
- มีโล่ และประกาศนียบัตร ที่ออกโดย SOLTA MEDICAL
- มีสติกเกอร์เครื่องแท้ ติดไว้ด้านหน้าตัวเครื่อง
3. Thermage ต้องทำโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมเท่านั้น ?
ผู้ที่ลงมือทำหัตถการยกระชับด้วย Thermage ต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรม มี Certificate Training : Thermage FLX Physician Training มีประสบการณ์การใช้เครื่องแล้วเท่านั้น เพราะแม้จะเป็นเครื่องแท้ แต่ถ้าคนทำไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความรู้ ก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
4. ดูรีวิวและเปรียบเทียบคลินิกที่มีในพื้นที่ร่วมด้วย
การเลือกคลินิกใกล้บ้าน ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ที่ช่วยให้เราสะดวกสบายมากขึ้น หลังทำสามารถกลับมาพักผ่อนได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับมลภาวะ แต่ก็อย่าลืมดูรีวิวจากผู้ที่เคยเข้าใช้บริการ
สำหรับแนวทางการดูรีวิวควรดูจากแหล่งอื่น ที่ไม่ใช่จากทางคลินิกโดยตรง เพราะทางคลินิกก็จะเลือกรีวิวเคสสวย ๆ ภาพสวย ๆ คอมเมนต์ดี ๆ ขึ้นมาโชว์ แนะนำให้ลองเข้าไปดูที่หน้า รีวิวติดดาว Facebook ของคลินิก มี feedback อย่างไร มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาของพวกเขาที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนนี้เจ้าของเพจจะลบไม่ได้
5. ลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศคลินิก ก่อนทำ Thermage
การตัดสินใจว่าจะเลือกคลินิกทำ Thermage ที่ไหนดี ต้องเลือกจากคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานเป็นหลัก รวมถึงเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ เยี่ยมชมสภาพแวดล้อมของคลินิก ความรู้สึกหรือประสบการณ์จริงเมื่อรับคำปรึกษาจากคุณหมอ ก่อนเข้ารับบริการจริง ก็ช่วยจะเพิ่มความมั่นใจ ในการตัดสินเลือกว่าจะเลือกทำกับคลินิกนั้นดีหรือได้
เมื่อรู้แนวทางการเลือกคลินิกทำ Thermage แล้ว การรู้ขั้นตอนการทำ รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังทำร่วมด้วย ก็จะช่วยให้คุณเข้าใจ สามารถเตรียมความพร้อมให้ตัวเองได้ดีขึ้น หรือหากยังมีข้อสงสัย ก็สามารถลิสต์ไปสอบถามแพทย์เพิ่มเติมได้
ขั้นตอนการทำ Thermage ที่ควรรู้
การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage ไม่อะไรที่ต้องกังวล หรือเตรียมตัวให้ยุ่งยาก สามารถเข้าไปพบแพทย์ได้โดยตรง และแจ้งข้อมูลของตัวอย่างละเอียด เช่น เคยทำอะไรบนใบหน้ามาบ้าง เคยร้อยไหมหรือการฉีดฟิลเลอร์มาก่อนหรือไม่ (ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือนก่อนทำ Thermage )
การประเมินผิว ก่อนทำ
หากไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเลี่ยงการทำ โดยทั่วไปก่อนทำหมอจะตรวจประเมินปัญหาของเรา เช่น เรามีความกังวลอะไร อยากแก้ไขอะไรบ้าง หมอก็จะดูว่าปัญหาเราการทำ Thermage ช่วยได้ตรงจุดไหม ช่วยได้แค่ไหน ต้องทำกี่ช็อตถึงจะเหมาะสม
ขั้นตอนและเทคนิคการทำ Thermage เพื่อให้เห็นผล
เมื่อประเมินสภาพปัญหาผิวเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่ขั้นการทำ โดยก่อนทำ Thermage จะมีการทำความสะอาดบริเวณผิวที่ต้องการทำ และแปะยาชาก่อนทำประมาณ 30 นาที จากนั้นหมอก็จะนำหัวของเครื่องมือ Thermage มาแนบชิดกับผิวเราเพื่อยิงกระตุ้นตามจำนวน shot ที่ประเมินในแต่เคส โดยใช้เวลาในการทำประมาณ 45-90 นาที (ระยะเวลาการรักษา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังและตำแหน่งที่ต้องกระตุ้น)
ซึ่งในขั้นตอนระหว่างทำ เราจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ผิว (Warm But Tolerate) รู้สึกถึงแรงยิ่ง แต่ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว เนื่องจากพลังงานจะส่งเข้าไปในทุกชั้นของผิว การทำ Thermage ให้ได้ผลดี จะต้องทนเจ็บได้ระดับหนึ่ง ถึงจะได้ผลชัดเจนและคุ้มค่า
ผลลัพธ์หลังทำ Thermage และเวลาฟื้นตัว
หลังทำ Thermage เสร็จทันที ผิวหน้าจะแดง ๆ ชมพูระเรื่อ เนื่องจากเป็นพลังงานความร้อน บางคนอาจจะหน้าบวมเล็กน้อย รู้สึกผิวตึง ๆ ถือเป็นเรื่องปกติ จากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองประมาณ 1-2 ชั่วโมง สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ผลลัพธ์ที่คาดหวังหลัง Thermage
หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวที่กระชับขึ้นทันที 20% และค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน และสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุของเรา
เวลาฟื้นตัวหลังการทำ
ข้อดีของการทำ Thermage คือสามารถยกกระชับใบหน้าได้โดยไม่ต้องพักฟื้น แต่พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ โดยควรดูแลตัวเองร่วมด้วยเพื่อให้ผิวกระชับเรียบเนียนยาวนานขึ้นดังนี้
- งดการทำทรีทเมนท์ ขัดผิว หรือทำเลเซอร์อื่น ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยง แสงแดด การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ตัวการทำผิวเสีย ผิวเสื่อม
- การพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ดื่มน้ำมาก ๆ
- หลีกเลี่ยงความเครียด
สรุป
การทำThermage ที่ไหนดี เพื่อยกกระชับผิวได้อยากเห็นผล คุ้มค่า ต้องเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่องแท้ และทำโดยหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้น ซึ่งราคาการทำต่อครั้งจะอยู่ที่จำนวนช็อตที่ยิง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 450-900 shot โดยราคา 450 shot จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท หากใครเจอถูกกว่านี้ ราคาหลักร้อย หลักพัน ให้สันนิฐานไว้เลยว่าเครื่องปลอม ควรหลีกเลี่ยง อย่าเห็นแก่ของถูกเพราะอาจได้ไม่คุ้มเสีย