การจัดเตรียมวิตามินและอาหารเสริมเฉพาะบุคคลในเวชศาสตร์ชะลอวัย

0
3315
การจัดเตรียมวิตามินและอาหารเสริมเฉพาะบุคคลในเวชศาสตร์ชะลอวัย
วิตามิน คือ สารประกอบอินทรีย์ที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
การจัดเตรียมวิตามินและอาหารเสริมเฉพาะบุคคลในเวชศาสตร์ชะลอวัย
การรับประทานอาหารเสริมและวิตามินเฉพาะบุคคลเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าร่างกายของคนเรามีความต้องการที่ต่างกัน

วิตามิน และอาหารเสริม

การจัดเตรียม วิตามินและอาหารเสริม เฉพาะบุคคล ซึ่งมีความสัมพันธ์กับผลเลือดและสรรถภาพของร่างกายการดำรงชีวิตของคนในสังคมยุคปัจจุบันต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เร่งด่วนไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะการเดินทาง การักผ่อน และการรับประทานอาหารเพื่อให้ทันต่อความก้าวหน้าของโลกในยุคโลกาภิวัตน์ ที่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเราก็สามารถคุยกับคนที่อยู่อีกซีกโลกได้ ทำให้ชีวิตต้องเผชิญหน้ากับความเครียด ความกดดัน สารพิษจากสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าความเร่งรีบทุกช่วงเวลา ทำให้เรามีเวลาในการเลือกสรรอาหารมารับประทานน้อยลงหรือแม้กระทั้งไม่เคยสนใจเลยว่าอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวันมีสารอาหารอะไรบ้างหรือไม่ รับประทานเพียงแค่ให้อิ่มท้องเพื่ออยู่รอดไปวันวัน ทั้งอาหารฟาสฟูตส์ที่เต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาลหรืออาหารปรุงสำเร็จที่ผ่านกระบวนการจนสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไม่หลงเหลืออยู่เหลือแต่กากเส้นใยเท่านั้นที่รับประทานเข้าไป จะมีสักกี่คนที่ยังให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารเพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ จากการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าคนไทยเกินครึ่ง ได้รับสารอาหารจากการรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ในแต่ละวันและมีแนวโน้มที่คนไทยจะมีภาวะขาดสารอาหารเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ที่อยู่ในวัยทำงาน ที่ต่างก็มุ่งไปกับการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวจนละเลยความสนใจเรื่องการรับประทานอาหาร ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดสารอาหารโดยเฉพาะสารอาหารหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 นั่นคือ วิตามินและเกลือแร่ที่อยู่ในผักและผลไม้นั่นเอง

แต่ก็มีบางคนที่บอกว่ากินผักผลไม้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีทางที่ร่างกายจะเกิดภาวะขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายแน่นอน แต่ทว่าพอไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดกลับพบว่ามีการระบุอย่างชัดเจนว่าร่างกายมีภาวะขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการบริโภคผักผลไม้ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปนั้น ไม่ได้มีผลต่อการรับวิตามินและแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายมากเท่าใดนัก เพราะผักผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันต้องผ่านการเดินทางขนส่งและเก็บรักษามาเป็นเวลาหลายวันกว่าจะถึงมือผู้บริโภคอย่างเรา ต้องผ่านทั้งความร้อน ความชื้นและมีการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) กับอากาศมานับครั้งไม่ถ้วย ส่งผลให้ผักผลไม้เหล่าสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกายไปเกือบหมดแล้ว เมื่อรับประทานเข้าไปก็ไม่ต่างกับการกินกากใยอาหารเข้าไปเสียเท่าใดนัก ต่างจากผักผลไม้ที่เก็บสด ๆ จากต้นแล้วนำมารับประทานในทันทีที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นอยู่ครบถ้วน ที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วร่างกายจะได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งการที่เราจะรับประทานผักผลไม้จากต้นก็คงเป็นไปได้ยากในสังคมยุคนี้ หรือแม้แต่การนำผักผลไม้มาปรุงด้วยกรรมวิธีที่ยุ่งยากซับซ้อน การผ่านความร้อนสูงทั้งระยะสั้นและระยะยาวล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้วิตามินและแร่ธาตุสูญเสียออกไปจนหมด

เราทราบกันแล้วว่าวิตามินนั้นมีความสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ถ้าร่างกายมีปริมาณวิตามินไม่สมดุลก็จะส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกายเกิดความผิดปกติได้

วิตามิน คือ สารประกอบอินทรีย์ที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิด วิตามินบางชนิดร่างกายสามารถสังเคราะห์ออกมาได้น้อยมากไม่เพียงต่อความต้องการของร่างกายและวิตามินบางชนิดร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้เองต้องได้รับจากภายนอก คือ ได้รับจากอาหารและสิ่งแวดล้อมเช่น แสงแดด ถึงแม้ว่าร่างกายของเราจำเป็นจะต้องใช้วิตามินในปริมาณเล็กน้อยแต่กลับมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมหาศาลเลยทีเดียว ทำให้ร่างกายไม่สามามารถขาดวิตามินได้แม้เพียงชนิดเดียว เพราะวิตามินจะเข้าไปสร้างสมดุลให้กับร่างกาย พร้อมทั้งควบคุมการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม (Metabolism) ช่วยในการสังเคราะห์โปรตีนให้เปลี่ยนกลายเป็นกล้ามเนื้อ ช่วยในควบคุมการเจริญของเซลล์และเนื้อเยื่อให้กลายเป็นเซลล์เฉพาะตำแหน่งตามอวัยวะต่าง ๆ ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่เข้ามาทำลายเซลล์และอวัยวะภายในร่างกาย รวมถึงวิตามินยังเป็นสารตั้งต้นในการสร้างเอนไซม์ที่มีหน้าที่ในการเร่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยประสานงานการส่งสัญญาณของระบบประสาทอีกด้วย 

ถ้าร่างกายมีภาวะขาดวิตามินเกิดขึ้นก็จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเกิดความผิดปกติขึ้น อาการของผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินจะไม่แสดงออกในทันที แต่อาการขาดวิตามินจะค่อย ๆ สะสมมากขึ้นทีละน้อย แบบค่อยเป็นคอยไปจนในที่สุดอาหารขาดวิตามินจะส่งผลให้ระบบการทำงานเกิดความผิดปกติอย่างรุนแรงและมีการแสดงออกมาอย่างชัดเจน เช่น มีอาการนอนไม่หลับหรือมักจะหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งคืนส่งผลให้ร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดข้อ ผิวแห้งหยาบกร้านแตก อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่ายและบ่อยโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีสมาธิในการทำงาน ความจำเสื่อม กล้ามเนื้อที่ขาเกิดอาการกระตุกหรือเป็นตะคริวโดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการปวดหรือชาที่บริเวณปลายมือและเท้า เลือดกำเดาออกง่ายและบ่อยครั้ง บาดแผลมีเลือดออกมาและเลือดหยุดไหลช้า ปากแห้งแตกหรือเป็นโรคปากนกกระจอก อาการต่าง ๆ เหล่านี้เป็นอาการที่เกิดเนื่องจากภาวะร่างกายขาดวิตามินทั้งสิ้น

พบว่าปัจจุบันมีคนที่มีอาการดังกล่าวเป็นจำนวนมากและยังมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดอาการเหล่านั้นคือจากการรับประทานอาหารที่ไม่ครบ 5 หมู่ ส่งผลให้ร่างกายได้รับวิตามินในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือเกิดภาวะขาดวิตามิน แต่ถ้าจะมุ่งหวังให้ได้รับประทานผักผลไม้สดจากต้นเพื่อที่จะได้รับปริมาณวิตามินที่ครบถ้วนก็คงทำได้ยากมาก ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการคิดค้นพัฒนาและผลิตวิตามินในรูปแบบของวิตามินและอาหารเสริมออกมาจำหน่ายเพื่อแก้ปัญหาภาวะขาดวิตามินที่เกิดขึ้น

อาหารเสริมและวิตามินที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งที่สกัดมาจากวัตถุดิบธรรมชาติหรือทำการสังเคราะห์ขึ้นมาจากกระบวนการวิทยาศาสตร์ ที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ด้วยความสะดวกสบายในการรับประทานและความเร่งรีบของวิถีชีวิตการบริโภคอาหารเสริมและวิตามินจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในระยะเวลาอันรวดเร็ว การกำหนดปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันที่มีการกำหนดอย่างชัดเจนจากผู้ผลิตเป็นปริมาณที่กำหนดหรือแนะนำให้บริโภคต่อวันโดยกระทรวงสาธารณสุขกำหนด (RDI) ซึ่งปริมาณที่กำหนดขึ้นเป็นปริมาณที่มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวันและไม่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย สำหรับผู้ที่มีร่างกายอยู่ในภาวะปกติไม่ใช่สำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะขาดวิตามิน ด้วยเหตุนี้ทำให้ผลที่ได้รับจากการรับประทาน วิตามินและอาหารเสริม ในแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน บางคนรับประทานวิตามินและอาหารเสริมแล้วรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่งอ่อนกว่าวัย สดชื่นไม่อ่อนเพลีย อารมณ์แจ่มใส แต่บางคนรับประทานวิตามินและอาหารเสริมชนิดเดียวกันในปริมาณที่เท่ากันทุกวัน แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าผิวหน้ามีกระ ฝ้าเพิ่มมากขึ้น วิงเวียนศีรษะหน้ามืด คลื่นไส้อาเจียน แทนที่ร่างกายจะแข็งแรงขึ้นกลับรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอลง เพราะการรับประทานอาหารเสริมและวิตามินเข้าไปจนทำให้เกิดภาวะวิตามินเกิน ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติ โดยเฉพาะระบบการขจัดของเสียออกจากร่างกาย ที่มีตับและไตเป็นอวัยวะหลักในการทำหน้าที่นี้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรรับประทาน วิตามินและอาหารเสริม ชนิดใดในปริมาณเท่าใดกัน จึงจะส่งผลเสียต่อร่างกายและยังทำให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 

ปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย ที่มีวิธีการออกแบบและจัดเตรียม วิตามินและอาหารเสริม เฉพาะบุคคล (Customized Vitamins) เพื่อที่ร่างกายจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่พอดีกับความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้ผู้รับประทานได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมและวิตามินอย่างสูงสุดตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผิวพรรณ ภูมิต้านทานโรค โดย วิตามินและอาหารเสริม ที่ทำการจัดเตรียมไว้จะมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกายอย่างพอดีไม่น้อยไปจนรับประทานแล้วไม่สามารถเข้าไปปรับสมดุลเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่มากเกินไปจนทำให้ร่างกายเกิดภาวะเกินของสารอาหารจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย

การออกแบบและจัดเตรียมวิตามินให้พอดีกับความต้องการของแต่ละบุคคลเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาแบบเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ช่วยรักษาในเชิงป้องกันความเสื่อมของร่างกาย เป็นรักษาสมดุลเพื่อดูแลระบบการทำงานภายในของร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อระบบภายในมีการทำงานที่ดีสิ่งที่แสดงออกมาภายนอกก็จะดีตามไปด้วยหรือที่เรียกว่าสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง และด้วยความต้องการของแต่ละคนนั้นมีต่างกันเกี่ยวกับการชะลอวัย บางคนต้องการป้องกันโรคที่อาจขึ้นในอนาคต บาคนต้องการให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนเยาว์ บางคนต้องการให้ชะลอความเสื่อมของร่างกายเพื่อที่จะได้มีอายุยืนยาวแบบมีคุณภาพตลอดอายุขัย ซึ่งทุกความต้องการจะมีการจัดเตรียม วิตามินและอาหารเสริม ที่ต่างกันออกไป

วิธีการออกแบบและจัดเตรียม วิตามินและอาหารเสริม

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging) จะต้องทำการพิจาณาจากผลการตรวจวิเคราะห์ปริมาณวิตามิน แร่ธาตุ เกลือแร่และสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่เลือด ลักษณะทางพันธุกรรม เช่น อัตราการเผาพลาญพลังงาน อัตราการเมตาบอลิซึม โรคที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางชนิด โรคความดันโลหิต รวมถึงการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่สามารถสร้างความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า ความเครียด ความแข็งแรงของร่างกาย โรคประจำตัว การออกกำลังกาย เพศและอายุ ทุกอย่างล้วนต้องนำมาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อออกแบบ วิตามินและอาหารเสริม เฉพาะบุคคล

เมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบความต้องการและทำการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลโดยรวมบุคคลแล้ว ก็จะทำการเลือกวิตามินและอาหารเสริมที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคนผู้นั้น โดยจะมีการกำหนดปริมาณที่เหมาะสมออกมาอย่างชัดเจนว่าจะต้องมี วิตามินและอาหารเสริม ชนิดใดในปริมาณเท่าใด ที่สามารถเข้าไปสร้างสมดุลทางโภชนาการและช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบที่มีความผิดปกติให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยรักษาการทำงานระบบให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพคงเดิมไม่มีความเสื่อมเกิดขึ้น ส่งผลให้เมื่อรับประทานอาหารเสริมและวิตามินที่มีการออกแบบมาอย่างเฉพาะแล้ว ร่างกายจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกด้านตรงตามความต้องการของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณ ด้านสุขภาพ ซึ่งลักษณะของวิตามินและอาหารเสริมที่จัดทำออกมาจะมีความเฉพาะเจาะจงต่อบุคคลเพียงบุคคลเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ร่วมกับบุคคลอื่นได้ ซึ่งวิตามินและอาหารเสริมที่นำมารับประทานอาจจะอยู่ในรูปที่นำมาผสมกันหรือให้รับประทานแยกแต่ละชนิดก็ได้ 

การรับประทานอาหารเสริมและวิตามินเฉพาะบุคคลเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าร่างกายของคนเรามีความต้องการที่ต่างกัน การที่จะสร้างสมดุลด้านโภชนาการให้กับเกิดขึ้นกับร่างกายของแต่ละคนย่อมต้องได้รับปริมาณสารอาหารที่ต่างกันตามไปด้วย ซึ่งการสร้างสมดุลทางโภชนาการด้วยการรับประทานให้ครบ 5 หมู่ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ยากด้วยการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว ในยุคปัจจุบันนี้ที่มนุษย์เราดำรงชีวิตด้วยความเร่งรีบไปเสียทุกอย่าง แต่ถ้ามีการรับประทานวิตามินและอาหารเสริมที่ไม่เหมาะสมแล้ว ก็จะทำให้ร่างกายได้รับ วิตามินและสารอาหาร บางชนิดเกินความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้ระบบการขจัดของเสียออกมาอย่างตับและไตต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อขจัดของเสียที่มาจากการรับประทานอาหารเสริมออกจากร่างกาย ซึ่งระบบการขจัดของเสียอาจเกิดการทำงานที่ผิดปกติได้ เมื่อระบบการขจัดของเสียไม่สามารถขจัดของเสียออกมาได้จนหมด ของเสียก็จะสะสมอยู่ในร่างกายและส่งผลเสียทำให้เกิดโรคร้ายแรงในอนาคตได้ ดังนั้นการที่รับประทานอาหารเสริมและวิตามินที่มีการออกแบบมาเฉพาะสำหรับร่างกายของแต่ละบุคคลแล้ว ปัญหาการตกค้างของอาหารเสริมและวิตามินส่วนเกินจนกลายเป็นสารพิษในร่างกายย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะวิตามินและอาหารเสริมที่รับประทานเข้าไปร่างกายจะนำไปใช้ได้อย่างหมดจึงไม่หลงเหลือตกค้างเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

การออกแบบ จัดเตรียม วิตามินและอาหารเสริม เป็นการรักษาของเวชศาสตร์ชะลอวัยเป็นการรักษาในเชิงบูรณาการ ที่เน้นการรักษาในเชิงป้องกันการเกิดโรค โดยการสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ด้วยการเสริมสารอาหารและวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกายเพื่อสร้างความสมดุลทางโภชนาการที่ส่งผลให้ระบบต่างของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัย มีอายุยืนนับร้อยปีอย่างสุขกายสบายใจ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

Stampfer, M., Hu, F., Manson, J., Rimm, E., Willett, W. (2000) Primary prevention of coronary heart disease in women through diet and lifestyle. The New England Journal of Medicine, 343 (1) , 16-23. Retrieved October 5, 2006, from ProQuest database.

Japsen, Bruce (15 June 2009). “AMA report questions science behind using hormones as anti-aging treatment”. The Chicago Tribune. Retrieved 17 July 2009