ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? อยากได้ผลลัพธ์สวย ปลอดภัย ต้องเลือกคลินิกอย่างไร ?
เทรนด์ความงามแบบธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมตามไปด้วย เพราะเป็นหัตถการที่สามารถปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้้น และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อม ๆ กันนี้ก็มีคลินิกความงามเปิดใหม่เป็นจำนวนมาก คนไข้มีตัวเลือกมากขึ้น แต่ก็อาจจะพลาดไปเจอคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋าได้เช่นกัน
ในบทความนี้มีข้อแนะนำในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์มากฝากครับ ว่าคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ?
ความรู้เบื้องต้น สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ฟิลเลอร์แท้ผ่านการรับรองจากอย. ว่าสามารถฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ มีความปลอดภัย สลายหมดโดยไม่มีสารตกค้าง
- ฟิลเลอร์จะเข้าไปทดแทนส่วนที่เสื่อมสลายไปของโครงสร้างผิว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอย ร่องลึก ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน เต่งตึง และสามารถเสริมในส่วนที่ต้องการเพื่อปรับรูปหน้า เช่น หน้าผาก คาง ขมับ
- การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องดูแลตัวเองมาก หลังฉีดเห็นผลทันที สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? มีวิธีเลือกคลินิกอย่างไรบ้าง ?
อย่างที่บอกไปว่าด้วยความนิยมในปัจจุบัน ทำให้มีคลินิกความงามเปิดใหม่เยอะขึ้น อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาหาประโยชน์ เปิดคลินิกเถื่อน ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หมอกระเป๋า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ก่อนฉีดควรศึกษาวิธีสังเกตคลินิกที่ได้มาตรฐาน ดังนี้ครับ
1. คลินิกได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
ด้านอาคาร สถานที่
- ตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย มั่นคง แข็งแรง
- ห้องทำหัตถการมีความสว่างเพียงพอ ไม่อับทึบ มืด
- สถานที่สะอาด มีภาชนะกำจัดขยะติดเชื้อ
ด้านบุคลากรและการบริการ
- แพทย์มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
- มีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตชัดเจน
- มีการแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการไว้ในที่เปิดเผย
- มีข้อความแสดงวัน เวลาเปิด-ปิด ในที่มองเห็นได้ชัด
ด้านเครื่องมือและเวชภัณฑ์
- คลินิกมีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นครบถ้วน อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2. ใช้ฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid
ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid เป็นสารเติมเต็มประเภทเดียวที่ได้รับการรับรองจากอย. ไทย ว่าสามารถฉีดเข้าสู่ชั้นผิวได้ ไม่ใช่สารที่ฉีดแล้วอยู่ได้ถาวร จะสลายหมดไปเองตามระยะเวลา สารเติมเต็มอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ไม่ผ่านอย. ทั้งหมดครับ
และที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือสารจำพวกซิลิโคนเหลว พาราฟิน ฉีดแล้วเกิดอันตรายกับร่างกาย อาจทำให้เกิดการแพ้ อักเสบ เป็นก้อน ไหลย้อย ทำให้เนื้อผิดรูป การแก้ไขต้องผ่าตัดขูดออกเท่านั้น
เพื่อให้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่คลินิกนำมาฉีดให้เป็นฟิลเลอร์แท้ ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อในเบื้องต้น และตรวจเช็กก่อนฉีด ให้หมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง
ตัวอย่าง วิธีดูฟิลเลอร์แท้ในแต่ละยี่ห้อ
วิธีดูฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Juvederm
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Restylane
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Belotero
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Definisse
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Flore
3. แพทย์มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์
นอกจากต้องฉีดกับแพทย์จริงที่มีใบรับรอง การฉีดฟิลเลอร์ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ
สาเหตุที่ประสบการณ์ของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องของกายวิภาคบนใบหน้าคนเรา ตำแหน่งเส้นเลือดต่าง ๆ อาจจะไม่ได้อยู่ตรงกันเป๊ะ ๆ ทุกคน ดังนั้นแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็จะสามารถประเมินและคาดเดาตำแหน่งเส้นเลือดสำคัญได้แม่นยำมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ในการฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์
อีกข้อคือแพทย์ที่มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ในเคสที่หลากหลาย จะช่วยแนะนำและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมคนไข้แต่ละคนได้ รวมถึงยังช่วยการันตีถึงฝีมือ มีผลลัพธ์จากเคสก่อน ๆ ให้เห็น ช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนทำได้ครับ
4. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
การดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง แนะนำให้ดูจากหลาย ๆ แหล่งครับ อย่าดูแต่เคสรีวิวของคลินิกเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวในเว็บไซต์ที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ เช่น Pantip, Facebook Review หรือในช่องทางอื่น ๆ ที่คลินิกไม่สามารถลบได้ หากมีเคสหลุดก็จะได้เห็นแนวทางการแก้ไขและรับผิดชอบของคลินิกด้วยครับ
นอกจากนี้ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ควรดูรีวิวทั้งแบบที่เป็นแบบคลิปวิดีโอด้วยครับ เพราะบางครั้งรีวิวแบบรูปภาพอาจจะมีการตกแต่ง มีการแต่งหน้า ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง คลิปวิดีโอจะตกแต่งได้ยากกว่า
5. ราคาสมเหตุสมผล
พูดถึงราคาฟิลเลอร์ ในประเทศไทยจะมีบริษัทนำเข้าฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์อยู่ครับ ใน 1 ยี่ห้อฟิลเลอร์ ก็จะมีคนนำเข้าแค่เจ้าเดียว ดังนั้นราคาในคลินิกที่ได้มาตรฐานในตลาดก็จะไม่ได้ต่างกันมาก อยู่ที่ช่วงหมื่นต้น ๆ ไปถึงหมื่นปลาย ๆ หรือสองหมื่นต่อซีซี ขึ้นอยู่กับโปรโมชัน หรือประสบการณ์ เทคนิคของแพทย์แต่ละคลินิก
ที่ต้องระวังคือฟิลเลอร์ที่ราคาถูกกว่าตลาดมาก ๆ หรือฟิลเลอร์ที่ขายกันตามออนไลน์ อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์หิ้วที่ลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่านอย . ไม่แนะนำให้เสี่ยงฉีดเด็ดขาดครับ
6. ดูแลติดตามผลหลังทำ
สุดท้ายคือการบริการ ดูแลติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นหน้าที่ของคลินิกและแพทย์ที่จะต้องให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีด รวมถึงการแจ้งความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงต่าง ๆ ของการทำหัตถการ นอกจากนี้คลินิกควรมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากคนไข้มีปัญหา สามารถติดต่อแพทย์ได้โดยตรง เช่น เบอร์โทร, Line@
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลังฉีดฟิลเลอร์ทันที อาจจะมีอาการบวม รอยแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ เกา กดนวดในจุดนั้น ๆ จะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชม. สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ หากต้องการแต่งหน้าควรเว้นบริเวณรูเข็ม
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง จะเริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น แนะนำให้อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด กิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่อยู่หน้าเตาร้อน ๆ อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง อาหารหมักดอง หรือหวานจัด เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
- ในช่วง 7-10 วัน อาการต่าง ๆ จะดีขึ้น ฟิลเลอร์เข้าที่ 100% ประมาณ 14 วัน โดยฟิลเลอร์จะเริ่มนิ่มลงและกลืนไปกับผิว
- งดการทำทรีตเมนท์ เลเซอร์ร้อน ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage 1 เดือน
- ดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว สะดวก และมีคลินิกฉีดฟิลเลอร์จำนวนมาก พร้อมโปรโมชันล่อตาล่อใจ แต่สิ่งที่คนไข้ควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือความปลอดภัยครับ ก่อนฉีดต้องมั่นใจว่าเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องมีปัญหาให้มาแก้ไขทีหลังครับ
สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ และยังไม่มั่นใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี อยากปรึกษาหมอก่อน ที่ V Square Clinic สามารถส่งรูปให้หมอประเมินทางออนไลน์ก่อนได้ฟรี หมอจะประเมินให้เป็นรายบุคคลโดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ