หากใครกำลังมองหาการปรับรูปหน้า เสริมคาง ให้คางเรียวสวย โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือใช้เวลานานในการฟื้นตัวหลังทำ “การฉีดฟิลเลอร์คาง” อาจเป็นตัวช่วยที่คุณกำลังมองหาอยู่ เพราะเป็นวิธีที่ทำง่าย เห็นผลลัพธ์เร็วและปลอดภัย
ส่วนจะมีข้อควรรู้อะไรก่อนทำบ้าง ในบทความนี้มีมาบอก เช่น ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ? ช่วยอะไร มีขั้นตอนการทำอย่างไร กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน ใช้กี่ CC เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร อันตรายไหม ทรงคางที่กำลังฮิต โหงวเฮ้งคาง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์คาง คือ
การฉีดฟิลเลอร์คาง คือ การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ฉีดเข้าไปในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกบริเวณคาง เพื่อปรับรูปทรงคางให้ดูยาวขึ้น เรียวขึ้น หรือปรับให้คางสมมาตรขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย คางบุ๋ม คางเบี้ยว ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น หรือเสริมโหงวเฮ้ง
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย วีเชฟมากขึ้น
- แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด หน้ากลม
- ช่วยเสริมคางให้ยาวขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ
- แก้ปัญหาคางไม่เท่ากัน คางบุ๋ม ให้ได้สัดส่วน
- ช่วยเสริมคางเพื่อปรับโหงวเฮ้ง
ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแน่นและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นความโค้งมนของคาง สามารถเติมคางได้อย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ง่าย ปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู ใช้สำหรับเสริมทดแทนกระดูกและยังคงความเป็นธรรมชาติ สามารถคงรูปได้ดี อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Definisse Core ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Flore Max ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี มีความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดแก้ปัญหาในไขมันชั้นลึก คาง/ขมับ อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์คาง ควรใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติอย่างไร ?
ลักษณะฟิลเลอร์ที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- มีความคงตัวสูง : เพื่อให้สามารถคงรูปทรงคางได้ยาวนาน
- มีความยืดหยุ่นสูง : เพื่อให้สามารถปรับรูปทรงคางได้ตามต้องการ
- ไม่เป็นก้อน : เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ
- ไม่แข็งกระด้าง : เพื่อให้สัมผัสนุ่มนวล ไม่รู้สึกระคายเคือง
ราคาการฉีดฟิลเลอร์คาง
ราคาฟิลเลอร์คางโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นของฟิลเลอร์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ต่อปริมาณ 1CC มีดังนี้
- Juvederm Voluma,Volux เริ่มต้นที่ 14,000-18,000 บาท/ซีซี
- Restylane Perlane Lyft เริ่มต้นที่ 12,000 บาท/ซีซี
- Definisse Core เริ่มต้นที่ 16,000 บาท/ซีซี
- Belotero Intense เริ่มต้นที่ 9,900 บาท/ซีซี
- Flore Max เริ่มต้นที่ 7,900 บาท/ซีซี
ขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์คาง
- แพทย์ประเมินปัญหาคาง ปริมาณ CC ที่เหมาะสม และเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์คาง
- ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์คาง
- แปะยาชาหรือฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์คาง
- แพทย์ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณคาง
- แพทย์ปั้นทรงคาง ปรับทรงคาง
- เห็นผลลัพธ์ทันที หลังฉีดฟิลเลอร์คาง
ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ คงอยู่ได้นานประมาณ 9-24 เดือน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จึงจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ หากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ
ปริมาณ CC ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คาง
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดคางนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาคางของแต่ละบุคคล เช่น
- ผู้ที่มีปัญหาคางสั้นหรือคางถอย อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 cc
- ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-1.5 cc
- ผู้ที่มีปัญหาคางไม่เท่ากัน อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 0.5-1 cc
อย่างไรก็ตาม ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดคางนั้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและพิจารณาตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงรูปหน้า โครงหน้า และปัญหาคางของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์คาง ควรใช้ปริมาณ CC เยอะ ๆ ไหม ?
ส่วนใหญ่แพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์คางในปริมาณที่มากเกินกว่า 2cc ค่ะ เนื่องจากอาจทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูย้วย เป็นคางมะม่วง หรือคางแม่มด ไม่สมดุลกับใบหน้าส่วนอื่น ๆ สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความยาวคางมาก ๆ อาจจะต้องพิจารณาการผ่าตัดเสริมคางค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร ?
ฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะกับ
การฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางเบี้ยว หรือเนื้อคางไม่เท่ากัน โดยผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ และสามารถปรับรูปทรงและความยาวได้ตามความต้องการของคนไข้ ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง มีดังนี้
- ผู้ที่มีฐานคางเดิมอยู่แล้ว ต้องการการปรับรูปทรงให้ดูเรียวยาว มีมิติสวยงามขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด คางสั้น เนื้อคางไม่เท่ากัน
- ผู้ที่ต้องการเสริมคางเพื่อปรับโหงวเฮ้ง
ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับ
- ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางสั้นมาก การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อเพิ่มความยาวคางมากเกิน 1 เซนติเมตร อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ คางดูยาวแหลม ผิดรูป
- ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางถอยมาก การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับคางให้ยื่นออกมามากเกิน อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ คางดูใหญ่ ผิดรูป
- ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางเบี้ยวมาก การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับคางให้ตรง อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ คางดูบิดเบี้ยว
- ไม่เหมาะกับคนที่วางแผนจะผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคนในอนาคต
- ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์คางจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ต้องมาฉีดซ้ำ
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์คางยังอาจไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาสุขภาพ ดังต่อไปนี้
- คนที่มีการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด
- คนที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม HA
- คนที่มีประวัติแพ้ยา
- คนที่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด
- คนที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
หากมีปัญหาคางหรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการปรับรูปหน้า เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
- ใช้เวลาทำไม่นาน
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เห็นผลลัพธ์ได้ทันที
- ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากใช้สารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.)
- เนื้อฟิลเลอร์สามารถสลายได้ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- เพิ่มความยาวคางได้ไม่เกิน 1 เซนติเมตร
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 9-24 เดือน ไม่อยู่นานถาวร
- อาจมีอาการบวมจากเข็ม 2-3 วันแรก แล้วหายไปได้เอง
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางให้เข้าใจก่อน
- เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน สำหรับการฉีดฟิลเลอร์คาง
- เลือกคลินิกที่มีแพทย์มากประสบการณ์เป็นผู้ทำหัตถการ
- แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ
- งดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน ที่ทำให้เลือดไหลเวียนดี
อย่างน้อย 3-7 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วัน
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- อยู่ในที่อากาศเย็น ๆ เพื่อช่วยให้อาการบวมหายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส จับ บีบ หรือปรับทรงคางเอง หลังทำ
- หากปวดบริเวณที่ฉีดมาก สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือนวดหน้า
- งดการออกกำลังกายอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- 2-3 คืนแรก งดนอนตะแคง และควรนอนหมอนสูง ๆ โดยใช้หมอนหนุนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานได้ดีและอยู่ได้นานขึ้น
ผลข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คางอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยเข็มเล็ก ๆ หรืออาการบวมใน 2-3 วันแรก เพราะเนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปยังไม่เข้าที่ดี เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง อาการเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ หายไปเองโดยไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ
ความปลอดภัยและความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ?
คาง เป็นจุดฉีดฟิลเลอร์ที่ต้องใช้เทคนิคการฉีดในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อทำให้กล้ามเนื้อ mentalis ซึ่งเป็นชั้นใต้กล้ามเนื้อลึกลงไปไม่ดึงฟิลเลอร์คางมารวมเป็นก้อน จนอาจทำให้คางย้อยเสียรูปเมื่อพูดหรือยิ้ม ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์คาง จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านอย. และทำในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น จึงจะมีความปลอดภัย
ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ที่สามารถเกิดขึ้นได้
ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากทำกับแพทย์ปลอม หมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือพยาบาล ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคการฉีด ฉีดฟิลเลอร์คางในผิวชั้นตื้นเกินไป โดยใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือแม้แต่ฉีดฟิลเลอร์แท้ก็ตาม เช่น
- การอักเสบ ติดเชื้อ – อาจเกิดขึ้นได้หากสุขอนามัยในการฉีดไม่ดี ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน
- ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง คางไม่เป็นธรรมชาติ และคางผิดรูป คางเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง คางเบี้ยว เมื่อพูดหรือยิ้ม – อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง หรือฉีดฟิลเลอร์คางมากเกินไป
- ฟิลเลอร์สลายตัวไม่หมด คางบวมใหญ่ผิดปกติ และฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ทำให้ตาบอด เนื้อตาย – อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดฟิลเลอร์ปลอม
ทั้งนี้ ผลข้างเคียงอันตรายของการฉีดฟิลเลอร์คางดังกล่าว สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง และใช้ฟิลเลอร์แท้กับคลินิกที่มีมาตรฐาน
วิธีแก้ไขหากเกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
หากเกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เช่น การอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง คางผิดรูป คางเคลื่อน ที่เกิดจากผิดพลาดในการฉีดฟิลเลอร์คางกับแพทย์ไม่มีประสบการณ์อย่างหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือพยาบาล
แพทย์ที่มีประสบการณ์อาจทำการแก้ไขโดยการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ หรืออาจต้องฉีดสารละลายไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) เพื่อสลายฟิลเลอร์ออก ในกรณีใช้ฟิลเลอร์แท้ หรืออาจต้องผ่าตัดแก้ไข ในกรณีใช้ฟิลเลอร์ปลอมมาก่อน
การป้องกันการเกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ประสบการณ์สูงในการฉีดฟิลเลอร์
- สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่จะใช้ ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ปลอดภัย ผ่าน อย.หรือไม่
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปัญหาคางที่ต้องการแก้ไข เพื่อให้แพทย์ประเมินและแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ หรืออยู่ในที่อากาศเย็น ๆ เพื่อให้อาการบวมหายเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ควพิจารณาปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล เช่น ประวัติแพ้ยา ประวัติโรคประจำตัว หรือประวัติการแพ้ฟิลเลอร์มาก่อน หากมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดฟิลเลอร์
วิธีการเลือกคลินิกสำหรับการฉีดฟิลเลอร์คาง
เกณฑ์การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คาง ประกอบไปด้วยปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
- เลือกฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ
คลินิกฉีดฟิลเลอร์คางที่ได้มาตรฐาน ควรได้รับเลขใบอนุญาต 11 หลักอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์คางโดยเฉพาะ สถานที่สะอาด ปลอดภัย เครื่องมือและอุปกรณ์ได้รับการรับรองมาตรฐาน
- เลือกฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านอย.
ในการฉีดฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ที่ใช้ควรเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เช่น Juvederm, Restylane, Belotero, Definisse, Flore เพื่อความปลอดภัย โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีข้อดีข้อเสียและระยะเวลาการคงอยู่ที่แตกต่างกัน หากในคลินิกใดมียี่ห้อฟิลเลอร์ที่สนใจ และมั่นใจได้ว่าใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ผ่านอย. รวมถึงอนุญาตให้ตรวจสอบหรือนำกล่องกลับบ้านได้ สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ได้ก่อนทำ
- เลือกฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่มีราคาฉีดฟิลเลอร์สมเหตุสมผล
ราคาการฉีดฟิลเลอร์คาง จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์ หากคลินิกไหนกำหนดราคาถูกผิดปกติ เมื่อเทียบกับคลินิกที่น่าเชื่อถือคลินิกอื่น ๆ ควรตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าฟิลเลอร์ที่คลินิกนั้นใช้เป็นฟิลเลอร์ประเภท HA ของแท้หรือไม่
- เลือกฉีดฟิลเลอร์คางจากรีวิวผู้ที่เคยใช้บริการ
ก่อนทำสามารถพิจารณารีวิวฉีดฟิลเลอร์คางจากผู้ที่เคยใช้บริการคลินิกนั้น ๆ บนช่องทาง Pantip, Facebook Review ,Google Maps, Lemon8, Twitter, Tiktok เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ก่อนไปฉีดฟิลเลอร์คางได้
นอกจากนี้ ยังสามารถพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น
- สถานที่ตั้ง เดินทางสะดวกหรือไม่ ใกล้บ้านไหม ?
- การนัดหมาย จองคิว ดีไหม ?
- โปรโมชั่นน่าสนใจหรือไม่ ?
โดยสรุป การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คาง ควรพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัยมากที่สุด
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคางเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คาง
ทรงคางที่กำลังอิต ปี 2023
คางทรงเกาหลี หรือคางทรงวี (V-line)
คางทรงเกาหลี มีลักษณะเรียวยาวเป็นทรงวี (V-line) ปลายคางแหลมคมเล็กน้อย มีลักษณะสมดุลกับใบหน้าส่วนอื่น ๆ โดยสัดส่วนที่เหมาะสมคือ 1:1:0.8 หมายถึง ความยาวของหน้าผาก จมูก และคางควรมีความใกล้เคียงกัน โดยคางควรยาวประมาณ 1/8 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด
ลักษณะคางทรงเกาหลีที่ชัดเจน ได้แก่
- ความยาวของคางควรยาวกว่าหน้าผากเล็กน้อย
- ปลายคางควรแหลมคมเล็กน้อย แต่ไม่แหลมมากเกินไป ยังคงมีความมน ความละมุนอยู่
- ความกว้างของคางควรสมดุลกับใบหน้าส่วนอื่น ๆ
ทั้งนี้ คางทรงเกาหลีเป็นที่นิยมอย่างมากในเกาหลีใต้และทั่วโลก เนื่องจากทำให้ใบหน้าดูเรียวยาว อ่อนหวาน และดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างดาราเกาหลีที่มีคางทรงเกาหลี ได้แก่ ไอยู, ซูจี, แทยอน, เจนนี่ BLACKPINK, ลิซ่า BLACKPINK
อย่างไรก็ตาม คางทรงเกาหลีอาจไม่เหมาะกับทุกคน เนื่องจากต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น รูปหน้า และโครงหน้าโดยรวมของบุคคลนั้น ๆ หากต้องการฉีดฟิลเลอร์คางทรงเกาหลีควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อขอคำแนะนำ
ฉีดฟิลเลอร์คาง เลือกทรงคางได้ไหม ? ทำยากไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถเลือกทรงคางได้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะเป็นผู้ประเมินรูปหน้าและปัญหาคางของคนไข้อย่างละเอียด จากนั้นจะแนะนำทรงคางที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคล โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น รูปหน้า โครงหน้า ปัญหาคาง ความต้องการ จากนั้นจึงใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและดูเป็นธรรมชาติ
โดยปกติแล้ว การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับรูปทรงคางให้เรียวยาวเป็นทรงวี (V-line) นั้น สามารถทำได้ค่อนข้างง่าย เนื่องจากแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถมองเห็นบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อแก้ไขปัญหาคางบุ๋มหรือคางไม่เท่ากันนั้น อาจมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากแพทย์ต้องประเมินตำแหน่งที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมส่วนและดูเป็นธรรมชาติ
ดังนั้น ในการฉีดฟิลเลอร์คาง สิ่งที่สำคัญคือควรเลือกทำกับแพทย์ผู้มากประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินรูปหน้าและปัญหาคางอย่างละเอียด และสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
โหงวเฮ้งคางดี-ไม่ดี
ลักษณะคางดี ถูกโหงวเฮ้ง
- คางกลมมน บุคลิกโอบอ้อมใจดี สมถะถ่อมตัว มีสมรรถภาพ
- คางนูน ไม่ใช่นูนด้วยกระดูก แต่นูนด้วยเนื้อ เป็นคนมีวาสนามั่งมีทรัพย์ สติปัญญาสูง มักเป็นที่รักใคร่แก่คนทั่วไป และเป็นที่สนใจต่อเพศตรงข้าม
ลักษณะคางไม่ดี ผิดโหงวเฮ้ง
- คางสองชั้น อาจจะดูเป็นคนเกียจคร้าน นิยมวัตถุมากกว่าความรับผิดชอบของตน เป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นน้อย
- คางแหลม ไม่ค่อยประนีประนอม
- คางหลบ คางสั้น ไม่ค่อยเข้าสังคม ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ มีลับลมคมใน มักขี้กังวล ลูกน้องบริวารไม่จริงใจ ขาดความอดทน ขี้เกรงใจ
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์คาง นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปทรงคางให้เรียวยาว แก้ปัญหาคาง รวมถึงเสริมโหงวเฮ้ง ที่เน้นความธรรมชาติและความปลอดภัย ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่อยากเสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากการผ่าตัด