ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ตามตำราโหงวเฮ้ง เชื่อว่า ผู้ที่มีหน้าผากกว้าง เกลี้ยงเกลา และปราศจากตำหนิ จะเป็นคนที่ได้รับการอุปถัมภ์จากทั้งในเรื่องการงานและความรัก เรียกได้ว่า Lucky in love, lucky in game. เลยครับ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ถือเป็นวิธีเพิ่มความโหนกนูน และปรับรูปทรงหน้าผากให้รับกับใบหน้าที่หลายคนเลือกใช้ เพราะไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และยังเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด

บทความนี้ได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาฝากครับ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ? อันตรายไหม ? ใช้กี่ CC ? พร้อมเปรียบเทียบการแก้โหงวเฮ้งหน้าผากวิธีต่าง ๆ ทั้งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การเติมไขมันหน้าผาก และการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ วิธีเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีความปลอดภัย และได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะช่วยเพิ่มความโหนกนูน ปรับแก้จุดที่เป็นกังวลบริเวณหน้าผากได้ เช่น ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หน้าผากเป็นแอ่ง รวมถึงแก้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณหน้าผากได้ ช่วยให้หน้าผากโหนกนูน เรียบเนียน ตรงตามตำราโหงวเฮ้งหน้าผากที่ดีได้

โหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี เป็นอย่างไร ?

โหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี ตามตำราชาวจีนมาแต่โบราณ เชื่อว่า หน้าผาก หรือ กัวล๊กเก็ง เป็นตำแหน่งที่สัมพันธ์กับการงาน ธุรกิจ รวมถึงความรัก การอุปถัมภ์ โดยลักษณะของโหงวเฮ้งหน้าผากที่โหนกนูนพอดี ๆ ไม่บุบ ใส เกลี้ยงเกลา ดูอิ่มเอิบ จะถือว่าโหงวเฮ้งที่ดี บ่งบอกว่าชะตาชีวิตจะดี การงานดี ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ถ้าเป็นหญิงเชื่อว่าจะได้คู่ครองที่ดี ร่ำรวย คอยดูแล

โหงวเฮ้งหน้าผาก

ในขณะเดียวกันลักษณะหน้าผากที่บุ๋ม ยุบ เป็นแอ่ง มีริ้วรอย ไม่เรียบ กระดูกโปน ถือเป็นลักษณะด้อย โดยเชื่อว่าจะมีชะตาชีวิตที่ไม่สุขสบาย การงานติดขัด ขาดคนอุปถัมภ์ หรือเจ้านายไม่สนับสนุนครับ

หากใครต้องการมีหน้าผากที่โหนกนูน มีโหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นตัวช่วยหนึ่งที่สามารถช่วยปรับรูปทรงหน้าผากให้สวยงาม โหนกนูน อิ่มเต็มได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเสริมหน้าผาก


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ถือตัวเลือกที่ดี ในการปรับรูปทรงหน้าผากให้สวยงามขึ้น แต่ก็ต้องขึ้นกับฝีมือและความสามารถของแพทย์ผู้ฉีดด้วย

หากใครสนใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ก่อนตัดสินใจฉีด คนไข้ควรเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เพื่อประเมินว่าตรงตามความต้องการของคนไข้หรือไม่

ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • เห็นผลเร็ว : หลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีครับ หน้าผากดูโหนกนูนขึ้น ผิวหน้าผากดูเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกันอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน ๆ : หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ
  • ปรับลดความโหนกนูนได้ตามต้องการ : หลังจากฟิลเลอร์หน้าผาก หากต้องการเพิ่มความโหนกนูนมากขึ้น สามารถปรึกษากับแพทย์ เพื่อปรับเพิ่มได้ หรือหากต้องการลดขนาดลงก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผลเป็น : เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ใช้เข็ม จึงไม่มีรอยแผลเป็นที่ต้องกังวลใจ  หลังฉีดมีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ ซึ่งสามารถหายได้เอง ในช่วง 2-3 วัน
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ : การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นการปรับแก้รูปทรงหน้าผากให้เข้ากับรูปหน้าของเรามากที่สุดครับ หากฉีดด้วยเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง จากแพทย์ที่มีประสบการณ์ ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และหน้าผากเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน
  • ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง : ฟิลเลอร์ของแท้สามารถย่อยสลายได้หมดโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร : หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก  สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปีขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกครับ สามารถกลับมาฉีดเติมใหม่ได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย
  • จำเป็นต้องฉีดกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ : การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะตำแหน่งใด จำเป็นต้องฉีดโดยแพทย์เท่านั้น โดยเฉพาะฟิลเลอร์หน้าผากที่ต้องอาศัยฝีมือและเทคนิคเฉพาะในการฉีด จึงควรเลือกฉีดกับแพทย์ประสบการณ์สูง ๆ เพื่อให้ได้หน้าผากที่โหนกนูนสวยงาม ไม่เป็นก้อน เป็นคลื่น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร แก้ปัญหาใดได้บ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับผู้ที่ต้องปรับรูปทรงหน้าผากแบบไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว หรือเสียเวลาพักฟื้น โดยการฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดปรับแก้ทรงหน้าผากได้หลายสาเหตุ ดังนี้

ปัญหารูปทรงหน้าผาก

  • หน้าผากแบน-หน้าผากแคบ : ในเคสที่มีปัญหาหน้าผากแบน สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมได้ โดยคนไข้สามารถเช็กได้ด้วยตัวเองว่าหน้าผากแบนหรือไม่ จากการดูด้านข้าง ถ้าบริเวณหน้าผากถึงคิ้ว มองเห็นเป็นเส้นตรง แสดงว่ามีหน้าผากแบน ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมโทรม ขาดมิติ ขาดความสดใส
  • หน้าผากยุบ : เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกและไขมันบริเวณหน้าผากยุบตัวลง จนมองเห็นโหนกคิ้วชัดเจนขึ้น ส่งผลให้โครงหน้าดูเหมือนคนมีอายุ ใบหน้าดูดุ หรือดูแข็งได้ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจึงนิยมฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อแก้ปัญหานี้ครับ
  • หน้าผากมีรอยตำหนิ : เช่น ริ้วรอยและรอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยแผลเป็นต่าง ๆ ทำให้ใบหน้าขาดความสดใส เพราะหน้าผากเป็นจุดรวมสายตา และอยู่กึ่งกลางใบหน้า
  • หน้าผากไม่เท่ากัน : เกิดจากอุบัติเหตุ หรือกรรมพันธุ์เดิมของแต่ละคน ส่งผลให้ใบหน้าดูเบี้ยว การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยเติมส่วนที่ขาดหายไป และปรับให้หน้าผากดูสมมาตรได้มากขึ้น
  • หน้าผากเป็นคลื่น : ในเคสที่เคยเข้ารับการฉีดไขมันกับแพทย์ที่ขาดความชำนาญ ทำให้ไขมันยุบตัวในแต่ละจุดไม่เท่ากัน จนหน้าผากมองเห็นเป็นคลื่น ผิวดูไม่เรียบเนียน สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อปรับทรงให้ดูสวยงามและเป็นทรงมากขึ้นได้

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นหัตถการที่มีปลอดภัยครับ เมื่อฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ ประเภทสารไฮยาลูรอนิก แอซิด และฉีดกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า

ในส่วนของความอันตราย หรือผลข้างเคียงหลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่หลายคนกังวล มักมีสาเหตุจาก

  • แพทย์ขาดเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง : ฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป หรือชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้หลังฉีด เวลาใช้มือแตะหน้าผากจะสัมผัสกับเนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ๆ เมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อที่ใช้ยักคิ้วจะดึงฟิลเลอร์มากองรวมกันเป็นก้อน หรือมองเห็นเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียนครับ

อีกกรณีคือใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป หรือเลือกเนื้อไม่เหมาะสม จะทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน คือ หน้าผากดูโหนกนูนเกินพอดี หรือดูปูดเหมือนกับหัวของปลาทอง

  • แพทย์ขาดประสบการณ์ หรือผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์ : กรณีนี้อันตรายมากครับ และมีโอกาสสูงที่จะเกิดความผิดพลาดระหว่างการฉีด ทั้งฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด เสี่ยงเกิดการอุดตันบริเวณหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงจอประสาทตา ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมีอาการตาพร่ามัว หรือเสี่ยงตาบอดได้ครับ
  • ฟิลเลอร์ของปลอม – ฟิลเลอร์เถื่อน : ที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ที่หลังฉีดมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดพังผืด เกิดการอักเสบ ไหลย้อย ผิดรูปได้ จำเป็นต้องขูดหรือผ่าตัดออกเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม


อยากเสริมหน้าปรับโหงวเฮ้งหน้าผาก ทำวิธีไหนอีกได้บ้าง ?

สำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ เป็นแอ่ง อยากเสริมหน้าผากให้โหนกนูน นอกจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ยังมีวิธีการอื่น ๆ ดังนี้

การฉีดเติมไขมันหน้าผาก

การฉีดเติมไขมันหน้าผาก คือ การฉีดไขมันเข้าไปเติมเต็ม ที่หน้าผาก โดยใช้ไขมันจากตัวคนไข้เอง ด้วยการดูดไขมันของตัวคนไข้ในบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา น่อง แล้วนำมาปั่นแยกสกัดเพื่อเอาเฉพาะเซลล์ไขมัน จากนั้นนำมาฉีดเติมบริเวณหน้าผาก ถือเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กเพราะต้องใช้ท่อดูดไขมันส่วนเกินออกมาก่อน ซึ่งจะมีแผลบริเวณที่ดูดไขมันประมาณ 3-5 mm

เติมไขมันหน้าผาก

  • ข้อดี : ลดโอกาสเกิดอาการแพ้ เพราะเป็นสารเติมเต็มจากร่างกายตัวเองครับ
  • ข้อเสีย : อาจเกิดแผลเป็นในจุดที่ดูดไขมัน มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าการฉีดฟิลเลอร์ และมักจะต้องทำ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

ผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

การผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก คือ การผ่าตัดเปิดแผลบริเวณไรผม และใส่แผ่นซิลิโคนที่มีรูปร่างโค้งงอคล้ายหน้าผากเข้าไป สามารถใช้ได้ทั้งซิลิโคนสำเร็จรูป หรือซิลิโคนที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล นิยมใช้แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หรือเพิ่มความโค้งมนให้หน้าผากรับกับใบหน้าโดยรวม

ผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผาก

  • ข้อดี : ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร
  • ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นการผ่าตัด อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ มีอาการบวมช้ำ หลังทำต้องอาศัยระยะเวลาในการพักฟื้น ในกรณีที่ต้องการปรับแก้ความโหนกนูนของหน้าผาก จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้นครับ

ทั้ง 2 วิธีนี้สามารถช่วยปรับแก้รูปทรง และเสริมหน้าผากให้รับกับใบหน้าได้ครับ แต่ต้องแลกมากับความเจ็บ สำหรับใครที่ต้องการเสริมหน้าผากแบบไม่ต้องเจ็บตัวมาก ไม่อยากมีแผล ต้องการผลลัพธ์เร็ว และมีความปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ครับ


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้กี่ CC ?

ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อปรับรูปทรงหน้าผากโดยทั่วไป จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC  สามารถแก้ปัญหา หน้าผากยุบ หน้าแบนได้ แต่ในกรณีที่ต้องการความโหนกนูน หรือปัญหาหน้าผากยุบ เป็นแอ่งมาก ๆ จำเป็นต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากขึ้น 3-5 CC ขึ้นไป กรณีนี้แนะนำให้ทยอยฉีดครั้งละไม่เกิน 5 CC ครับ เพื่อป้องกันอาการบวม หรือการกดทับเนื้อเยื่อมากเกินไป


หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ดูแลตัวเองอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าผากเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น หรือต้องดูแลตัวเองมากนัก หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติ เพียงแต่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรง ๆ หรือกดทับบริเวณหน้าผาก
  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า รวมถึงการใส่หมวกกันน็อกแบบรัดแน่นบริเวณหน้าผาก
  • งดการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด อย่างน้อย 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ การดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 3 วันหลังทำ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานกินยาที่ทางคลินิกจ่ายให้อย่างครบถ้วน เช่น ยาแก้ปวด ยาลดบวม หรือยาแก้อักเสบ เป็นต้น
  • ควรดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และช่วยยืดอายุของให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก


สรุป

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นตัวเลือกที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับทรงหน้าผาก ให้โหนกนูน โค้งมน แก้ปัญหาหน้าผากยุบ เป็นแอ่ง หรือปัญหาหน้าผากแคบได้แบบไม่ต้องเจ็บตัว เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว ที่สำคัญมีความปลอดภัยสูงเมื่อฉีดฟิลเลอร์แท้ กับแพทย์ที่มีประสบการณ์

สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ก่อนตัดสินใจฉีดที่ไหน แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดสวยงาม ปลอดภัย ช่วยเสริมโหงวเฮ้งดีได้ตามที่ต้องการครับ