กรวย
ไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ใบเดี่ยว ดอกมีขนาดเล็กและมีจำนวนมาก สีเหลืองอ่อนและมีกลิ่นหอม ผลกลมออกเป็นพวง ผลสุกสีส้มหรือสีแดงอมส้ม

กรวย

ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Horsfieldia irya (Gaertn.) Warb. จัดอยู่ในวงศ์จันทน์เทศ (MYRISTICACEAE)[1]
มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ คือ กรวย กรวยน้ำ กรวยสวน (กรุงเทพฯ), กะเพราพระ เพราพระ (ชุมพร), จุมพร้า ตุมพระ (นครศรีธรรมราช), ตุมพระ (สตูล), ยางู (สตูล), ตือระแฮ ระหัน หัน (ปัตตานี)[1]

ลักษณะของต้นกรวย

  • ลักษณะของต้น[1],[2]
    – เป็นพรรณไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ขนาดกลาง
    – มีความสูงได้ประมาณ 10-25 เมตร
    – โคนต้นเป็นพอน
    – มีรากค้ำยันบริเวณโคนต้น
    – เรือนยอดมีความแคบยาวหรือเป็นรูปกรวยคว่ำ
    – กิ่งแตกเกือบตั้งฉากกับลำต้น
    – ปลายกิ่งห้อยลู่ลง
    – เปลือกต้นเรียบหรือแตกเป็นร่องตื้น ๆ
    – เป็นสีน้ำตาลหรือเทา
    – เมื่อสับเปลือกจะมียางใสสีแดงไหลออกมา
    – ตามเปลือกและกิ่งจะมีช่องอากาศทั่วไป
    – สามารถขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดและวิธีการตอนกิ่ง
    – มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ในศรีลังกา หมู่เกาะอันดามัน พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และภูมิภาคมาเลเซีย
    – ในประเทศไทยพบขึ้นกระจายพันธุ์ทางภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
    – จะขึ้นตามป่าดิบชื้นริมน้ำหรือบนที่ราบตามริมฝั่งแม่น้ำลำคลองตอนที่ติดต่อกับทะเล
  • ลักษณะของใบ[1]
    – ใบเป็นใบเดี่ยว
    – ออกเรียงสลับ
    – ใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปรี
    – ปลายใบแหลม
    – โคนใบมนหรือแหลม
    – ขอบใบเรียบ
    – ใบมีความกว้าง 4-8 เซนติเมตร และยาว 15-25 เซนติเมตร
    – เส้นแขนงใบมีข้างละ 10-18 เส้น
    – เป็นเส้นตรงขนานกัน
    – ปลายเส้นโค้งขึ้นเลียบขอบใบ
    – แผ่นใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม
    – แผ่นใบด้านล่างเป็นสีนวล
    – ก้านใบยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร
  • ลักษณะของดอก[1],[2]
    – ดอกแยกเพศ อยู่บนต้นเดียวกัน
    – จะออกเป็นช่อแยกแขนงตามซอกใบ
    – มีความยาว 10-16 เซนติเมตร
    – ช่อดอกเพศผู้จะแตกแขนงแผ่กว้างกว่าช่อดอกเพศเมีย
    – ดอกมีขนาดเล็กและมีจำนวนมาก
    – ดอกเป็นสีเหลืองอ่อนและมีกลิ่นหอม
    – ออกชิดกันแน่นเป็นกลุ่ม ๆ
    – ตามแขนงช่อดอก
    – วงกลีบรวมติดกัน
    – ส่วนบนแยกเป็น 2 กลีบ
    – ดอกเพศผู้จะมีเกสรเพศผู้ 6-10 อัน
    – ดอกเพศเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้
    – ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
  • ลักษณะของผล[1],[2]
    – ผลมีความกลมเป็นผลแบบมีเนื้อ
    – ออกเป็นพวง
    – พวงละประมาณ 2-5 ผล
    – มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร
    – เปลือกผลหนา
    – เมื่อสุกผลจะเป็นสีส้มหรือสีแดงอมส้ม
    – ก้านผลมีความยาว 0.8-1.1 เซนติเมตร
    – มีเมล็ด 1 เมล็ด เป็นรูปไข่ สีน้ำตาล แข็ง และมีขนาดใหญ่
    – เนื้อหุ้มเมล็ดเป็นสีแดงอมส้ม
    – ออกผลในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน

สรรพคุณของกรวย

  • เปลือกต้น สามารถนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงโลหิต[3]
  • ชาวมาเลเซียนั้นจะใช้เปลือกต้น นำมาต้มกับน้ำเดือด ใช้เป็นยากลั้วปากและคอ เพื่อช่วยบำบัดอาการเจ็บคอ

ประโยชน์ของกรวย

  • ผล สามารถใช้เป็นอาหารของสัตว์ป่าได้[4]
  • เนื้อไม้ สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างภายในอาคารบ้านเรือนได้[4]
  • สามารถนำมาปลูกเพื่อให้ร่มเงาริมน้ำได้ เนื่องจากมีรากช่วยยึดตลิ่งได้ดี[2]

สั่งซื้อ อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วย เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. ข้อมูลพรรณไม้, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. “กรวย”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.rspg.or.th/plants_data/. [10 ส.ค. 2015].
2. ฐานข้อมูลพรรณไม้ที่ใช้ในงานภูมิสถาปัตยกรรม ศูนย์ความรู้ด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. “กรวย”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : agkc.lib.ku.ac.th. [10 ส.ค. 2015].
3. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “Horsfieldia irya (Gaertn.) Warb.”. อ้างอิงใน : หนังสือสารานุกรมสมุนไพร เล่ม 4 กกยาอีสาน หน้า 139. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.qsbg.org. [10 ส.ค. 2015].
4. ไทยเกษตรศาสตร์. “กรวย (Kruai)”. อ้างอิงใน : หนังสือวัลลิ์รุกขบุปผชาติ ตามรอยพระบาทบรมราชกุมารี. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.thaikasetsart.com. [10 ส.ค. 2015].