กระแตไต่หิน
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Drynaria bonii Christ. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ คือ Drynaria meeboldii Rosenst. จัดอยู่ในวงศ์ POLYPODIACEAE[1] ชื่อเรียกอื่น ๆ คือ กระจ้อน, กระแตไต่ไม้, กระแตพุ่มไม้, กระปรอกเล็ก, ฮอกกาบลม[2]
ลักษณะของกระแตไต่หิน
- ลักษณะของต้น[1],[2]
– เป็นพรรณไม้จำพวกเฟิร์น
– จะเลื้อยเกาะแน่นตามก้อนหิน หรือกิ่งไม้
– เหง้ามีลักษณะที่แบน มีความกว้าง 2-5 เซนติเมตร และหนา 5 มิลลิเมตร
– มีเกล็ดสีน้ำตาลอมเหลืองขึ้นปกคลุมและมีขนสีน้ำตาลอยู่หนาแน่น
– เขตการกระจายพันธุ์อยู่ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลียเขตร้อน และพอลินีเซีย
– ในประเทศไทยนั้นสามารถพบขึ้นได้ทุกภาค
– มักขึ้นบนหินหรือคาคบในป่าดิบแล้งและในป่าเบญจพรรณ
– จะขึ้นที่ความสูงระดับน้ำทะเลต่ำกว่า 1,000 เมตร - ลักษณะของใบ[1],[2]
ใบมี 2 ชนิด และมีรูปร่างที่ต่างกัน
1. ใบไม่สร้างสปอร์ (nest-leaves)
– มีจำนวนมาก
– ออกเรียงสลับซ้อนกันปิดเหง้าไว้เกือบมิด
– เป็นรูปวงรีหรือรูปไข่
– ปลายใบมนหรือแหลม
– โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ
– ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย
– ใบมีความกว้าง 4.5-7 เซนติเมตร และยาว 5-10 เซนติเมตร
– เส้นกลางใบและเส้นใบเห็นได้ชัดเจน
– ใบอ่อนเป็นสีเขียว
– ใบแก่เป็นสีน้ำตาล
2. ใบที่สร้างสปอร์ หรือใบแท้ (foliage-leaves)
– เป็นใบเดี่ยว
– ใบชี้ขึ้นข้างบนและอยู่สูงกว่าใบประกบต้น
– ใบด้านล่างส่วนที่ต่อกับก้านใบจะแผ่ออกเป็นปีก
– ขอบใบจะเว้าลึกเข้าหาเส้นกลางใบเป็นแฉก
– แฉกเรียงกันแบบขนนก
– ปลายพูแหลม
– ขอบพูหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย
– ใบจะมีความกว้าง 20-40 เซนติเมตร และยาวความ 30-50 เซนติเมตร
– แต่ละแฉกเป็นรูปใบหอกกลับหรือรูปขอบขนานแกมใบหอก
– มีความกว้างได้ถึง 3.5 เซนติเมตร และยาว 10-22 เซนติเมตร - ลักษณะของดอก[1],[2]
– กลุ่มสปอร์จะอยู่ในอับสปอร์
– มีรูปร่างที่ค่อนข้างกลม
– เรียงกระจายอย่างไม่เป็นระเบียบอยู่ระหว่างเส้นใบทางด้านหลังใบ
– แอนนูลัส ประกอบไปด้วยเซลล์เพียงแถวเดียว
– เรียงตัวในแนวตั้ง
– ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์
สรรพคุณของกระแตไต่หิน
- ขนจากเหง้า สามารถนำมาบดให้ละเอียด และใช้สูบแก้หืดได้[1]
- เหง้า สามารถนำมาใช้ผสมกับหัวยาข้าวเย็น และต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้หอบหืดได้[1]
- เหง้า สามารถนำมาใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยารักษามะเร็งในปอด ปอดพิการได้[1]
- ราก สามารถนำมาใช้ฝนกับน้ำมะนาวกินและทาแก้เนื้อตายจากพิษงูเขียวหางไหม้ได้
- ต้น ถูกจัดว่าเป็นตัวยาที่มีความสำคัญชนิดหนึ่ง ที่นำมาใช้สำหรับบำบัดอาการป่วยเนื่องจากกระดูกแตกและเส้นเอ็นฉีกขาด
- เมื่อนำไปผสมกับ Dipsacus และอื่น ๆ จะช่วยบำบัดอาการป่วยได้
- สามารถนำมาใช้สำหรับบำบัดอาการปวดเข่าและปวดหลัง แก้ปวดฟัน และเลือดออกตามไรฟันได้
- เหง้า มีรสขม ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
- เหง้า ช่วยขยายหลอดเลือด แก้อาการมืดเท้าเย็น
- เหง้า ลดอาการเจ็บปวดเนื่องจากกล้ามเนื้อฉีกขาด
- เหง้า แก้ไขข้ออักเสบ ปวดข้อ ปวดหลัง และกระดูกแตก
ประโยชน์ของกระแตไต่หิน
- สามารถนำมาใช้ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับทั่วไปได้[2],[3]
- สามารถนำมาปลูกเป็นเฟิร์นประดับตามโขดหินหรือต้นไม้ในสวนได้[2],[3]
สั่งซื้อ อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วย เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth
เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “กระ แต ไต่ หิน”. หน้า 96.
2. ระบบจัดการฐานความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานความหลากหลายทางชีวภาพด้านป่าไม้ กรมป่าไม้. “กระแตไต่ไม้ (Drynaria bonii)”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : biodiversity.forest.go.th. [05 ก.ค. 2015].
อ้างอิงรูปจาก
1.https://alchetron.com/Drynaria
2.http://phytoimages.siu.edu/