อวบดำ ลำต้นใช้แก้โรคระดูขาวของสตรีได้

0
1348
อวบดำ ลำต้นใช้แก้โรคระดูขาวของสตรีได้ ไม้พุ่มผลัดใบขนาดเล็ก ใบเดี่ยวปลายใบแหลม ดอกเล็กสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมเอียน ๆ ผลอ่อนสีเขียวเนื้อบาง ผลสุกสีม่วงดำ
อวบดำ
ไม้พุ่มผลัดใบขนาดเล็ก ใบเดี่ยวปลายใบแหลม ดอกเล็กสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมเอียน ๆ ผลอ่อนสีเขียวเนื้อบาง ผลสุกสีม่วงดำ

อวบดำ

ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Chionanthus ramiflorus Roxb. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ คือ Linociera ramiflora (Roxb.) Wall. ex G. Don จัดอยู่ในวงศ์มะลิ (OLEACEAE)[1],[2] ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ คือ เกลื่อน (สุราษฎร์ธานี), ตาไชใบใหญ่ (ตรัง), อวบดํา (ชุมพร), พลู่มะลี (เขมร-สุรินทร์), โว่โพ้ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), “ปริศนา”, “หว้าชั้น”[1],[2]

ลักษณะอวบดำ

  • ลักษณะของต้น
    – เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ขนาดเล็ก
    – ลำต้นตั้งตรง
    – ต้นมีความสูงได้ถึง 5-10 เมตร
    – เปลือกต้นเรียบเป็นสีขาวอมน้ำตาล
    – เกลี้ยงหรือแตกระแหงเล็กน้อย
    – กิ่งก้านเรียวเล็กและลู่ลงเล็กน้อย
    – กิ่งอ่อนมีสีน้ำตาล
    – เขตการกระจายพันธุ์ในอินเดีย
    – เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงออสเตรเลีย
    – ในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทุกภาค
    – ตามป่าดิบและป่าผลัดใบ
    – พบได้ที่ระดับความสูงตั้งแต่ 450-800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
  • ลักษณะของใบ
    – เป็นใบเดี่ยว
    – ออกเรียงตรงข้ามกัน
    – ใบเป็นรูปขอบขนาน หรือรูปขอบขนานแกมรูปรี
    – ปลายใบแหลม
    – โคนใบสอบหรือเป็นรูปลิ่ม
    – ขอบใบเรียบ
    – ใบมีความกว้าง 3-5 เซนติเมตร และยาว 8-18 เซนติเมตร
    – แผ่นใบเรียบเกลี้ยงทั้งหลังใบและท้องใบ
    – เนื้อใบหนาและเหนียวคล้ายแผ่นหนัง
    – หลังใบเป็นสีเขียวเข้ม
    – มีเส้นใบข้าง 8-12 คู่
    – ก้านใบเกลี้ยง มีความยาว 2.5-3.5 เซนติเมตร
  • ลักษณะของดอก
    – ออกดอกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงหลวม ๆ
    – จะออกตามซอกใบหรือกิ่งก้าน
    – ช่อดอกยาวได้ถึง 3-15 เซนติเมตร
    – แขนงข้างของช่อด้านล่างยาวครึ่งหนึ่งของความยาวของช่อหลัก
    – ดอกมีขนาดเล็กเป็นสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน
    – ดอกมีกลิ่นหอมเอียน ๆ
    – มีดอกย่อย 40-100 ดอก
    – ดอกย่อยจะมีขนาด 0.3-0.7 เซนติเมตร
    – กลีบดอกมีอย่างละ 4 กลีบ เป็นรูปขอบขนาน
    – กลีบเลี้ยงเป็นสีเขียว มี 4 กลีบ มีขนาด 1-1.5 มิลลิเมตร
    – พูกลีบลึก
    – โคนกลีบติดกัน
    – ปลายแยกเป็นแฉกตื้น ๆ
    – ดอกมีเกสรเพศผู้ 2 อัน มีขนาดสั้นกว่าหลอดกลีบ
    – อับเรณูมีขนาด 1 มิลลิเมตร เป็นรูปรีหรือรูปขอบขนาน
    – ไม่มีก้านชู กลม มีติ่งที่ปลาย
    – ปลายเกสรเพศเมีย เป็น 2 พู จาง ๆ
    – ก้านชูสั้น
    – ก้านดอกย่อยนั้นยาว 1-2 มิลลิเมตร
  • ลักษณะของผล
    – ผลเป็นผลสด
    – ผลเป็นรูปมนรีหรือรูปไข่กลับ
    – มีความกว้าง 0.5-2.2 เซนติเมตร และยาว 1.5-3 เซนติเมตร
    – ผิวผลเรียบ
    – มีชั้นกลีบเลี้ยงรองรับ
    – ผลอ่อนเป็นสีเขียว
    – เนื้อผลบาง
    – เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ
    – ชั้นหุ้มเมล็ดแข็ง
    – ผลมีเมล็ด 1 เมล็ด
    – ออกดอกและออกผลพร้อมกันในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคม

สรรพคุณของอวบดำ

  • ราก สามารถนำมาต้มกับน้ำใช้บ้วนปาก จะช่วยทำให้ฟันแข็งแรงได้[1],[2]
  • ตำรับยาสมุนไพร โรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จะนำลำต้นมาผสมกับเนื้อไม้ตะแบกป่า ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็น
  • ลำต้น สามารถใช้แก้โรคระดูขาวของสตรีได้[2]
  • ลำต้น สามารถช่วยรักษาภาวะมีบุตรยากในสตรีเนื่องจากรอบเดือนผิดปกติได้[2]

ประโยชน์ของอวบดำ

  • ราก สามารถนำมาใช้เคี้ยวอมเพื่ออดบุหรี่ได้[1],[2]
  • เนื้อไม้ สามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้างบ้านเรือนได้[3]

สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์). “อวบ ดำ (Aup Dam)”. หน้า 339.
2. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. “พลู่มะลี”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.phargarden.com. [22 ก.ย. 2014].
3. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “อวบ ดำ”. อ้างอิงใน : หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 4, ไม้ต้นในสวน Tree in the Garden. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.qsbg.org. [22 ก.ย. 2014].

อ้างอิงรูปจาก
1.https://www.flickr.com/
2.http://www.northqueenslandplants.com/