อัญชันป่า
เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ดอกคล้ายกับดอกอัญชันแต่เป็นสีขาว ฝักกลมยาวนูนคล้ายฝักของถั่วเขียว

อัญชันป่า

ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Clitoria macrophylla Benth. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ คือ Clitoria acuminata Wall., Clitoria grahamii Steud., Clitoria grahamii “Benth., p.p.”, Clitoria macrophylla Wall., Clitoria macrophylla var. macrophylla จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)[1],[2] มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ คือ หำพะยาว เอื้องชันป่า อัญชันป่า (เชียงใหม่), หมากแปบผี (เลย), ก่องข้าวเย็น (อุบลราชธานี)[1],[4] สามารถพบขึ้นได้ทั่วไปในทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณะ ตามพื้นที่ป่า ป่าละเมาะ ป่าเต็งรัง ป่าพลวง ป่าดิบแล้ง ป่าเขา และป่าโปร่ง

ลักษณะอัญชันป่า

  • ลักษณะของต้น[1],[3],[4]
    – เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก
    – เลื้อยไปตามหน้าดิน
    – ยอดตั้งไม่ตรง
    – มีความสูง 15-25 เซนติเมตร
    – เถาแข็ง
    – ลำต้นกลม
    – อีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก
    – มีอายุได้หลายปี
    – ปลายยอดค่อนข้างอ่อน
    – ต้นมีความสูง 38.42-78.66 เซนติเมตร
    – ลำต้นเป็นสีเขียวอมเหลือง
    – มีขนยาว 1-2 มิลลิเมตร
    – มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้น 2.54-3.94 มิลลิเมตร
    – สามารถขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดและแยกหน่อ
    – เจริญเติบโตได้ดีในดินทรายหรือดินร่วนปนทราย
  • ลักษณะของใบ[1],[3],[4]
    – เป็นใบประกอบ
    – มีใบย่อย 3 ใบ
    – ออกเรียงสลับกัน
    – ใบย่อยเป็นรูปหอก รูปขอบขนาน รูปขอบขนานแกมรูปใบหอก
    – ปลายใบแหลมแบบมีติ่งอ่อน
    – โคนใบแหลมหรือสอบเรียว
    – ขอบใบมีรอยหยักแบบขนครุย
    – ใบกลางมีความกว้าง 3.47-4.75 เซนติเมตร และยาว 9.03-12.95 เซนติเมตร
    – ใบข้างมีความกว้าง 3.04-3.66 เซนติเมตร และยาว 6.4-9.1 เซนติเมตร
    – แผ่นใบหนาเหนียวและหยาบ
    – หลังใบเป็นสีเขียวถึงเขียวเข้ม
    – ท้องใบเป็นสีเทา
    – การเรียงตัวของเส้นใบเป็นแบบโค้งจรดกัน
    – ส่วนล่างของลำต้นมีใบเดี่ยวขึ้นปะปน
    – หูใบเป็นสีเขียวอ่อนเป็นเส้นเรียวปลายแหลม
  • ลักษณะของดอก[1],[3],[4]
    – ออกดอกเป็นช่อ
    – จะออกตามซอกใบและตามข้าง
    – ช่อดอกยาว 4-5.4 เซนติเมตร
    – ดอกจะมีคล้ายกับดอกอัญชัน แต่จะเป็นสีขาว
    – กลีบดอกเป็นรูปดอกถั่วสีขาวนวล
    – กลีบดอกที่อยู่นอกสุดมีขนาดกว้าง 1.8 เซนติเมตร และยาว 3.5 เซนติเมตร
    – จะออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
  • ลักษณะของฝัก[1],[3],[4]
    – ผลเป็นฝักกลมยาว และจะนูนคล้ายฝักของถั่วเขียว
    – ฝักมีความกว้าง 0.61-0.71 เซนติเมตร และมีความยาว 4.38-4.94 เซนติเมตร
    – ฝักเมื่อแห้งแก่แล้วจะแตกออก
    – ฝักมีเมล็ดอยู่ 6-8 เมล็ด

สรรพคุณอัญชันป่า

  • ราก ช่วยเป็นยาถอนพิษ ใช้แก้พิษสุนัขบ้าได้[3]
  • ชาวเขาเผ่าอีก้อ จะนำทั้งต้นมาตำพอกใช้เป็นยาห้ามเลือด ใช้รักษาแผลสด แผลถลอก[1]

ประโยชน์ของอัญชันป่า

  • ราก สามารถนำมาทุบใส่ในไหปลาร้าหรือใช้ปิดปากไห จะช่วยป้องกันหนอนแมลงวัน ฆ่าหนอนได้[2],[3]
  • สามารถนำมาใช้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์แทะเล็มตามธรรมชาติของโค กระบือ สัตว์ป่า โดยจะให้คุณค่าทางอาหารที่ประกอบไปด้วย โปรตีน 11.63%, คาร์โบไฮเดรต (NFE) 50.47%, เส้นใยอาหาร 33%, เส้นใยส่วน ADF 38.36%, NDF 47.36%, ไขมัน 1.63%, เถ้า 3.27%, ลิกนิน 10.35%[4]

สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “อัญ ชัน ป่า”. หน้า 74.
2. หนังสือพรรณไม้พื้นบ้านอีสาน เล่ม 1. (สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม). “อัญ ชัน ป่า”. หน้า 201.
3. ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน, สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน). “อัญ ชัน ป่า”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.bedo.or.th. [21 ก.ย. 2014].
4. สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ กรมปศุสัตว์. “อัญ ชัน ป่า”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : nutrition.dld.go.th. [21 ก.ย. 2014].