เมโสแฟต

เมโสแฟต หรือการฉีดสลายไขมัน เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมาก ในคนที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วนแบบเร่งด่วน โดยไม่ต้องเสียเวลาไปผ่าตัดหรือดูดไขมัน มีผลข้างเคียงน้อย และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน 

ในบทความนี้ จะพาไปทำความรู้จักกับเมโสแฟตให้มากขึ้น ก่อนตัดสินใจไปฉีด ว่ามีข้อควรรู้อะไรบ้าง ? เช่น เมโสแฟต คืออะไร ช่วยอะไร มีขบวนการทำงานอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง ควรเลือกเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี 2024 ใช้กี่ CC กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน ? 

อะไรคือเมโสแฟต ?

เมโสแฟต คืออะไร ?

เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินในพื้นที่ที่ต้องการ โดยตัวยาที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตมีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ ที่ช่วยในการสลายไขมัน คือ 

  • สารสกัด Artichoke extract (Cynara scolymus) ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตโคเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสร้างและเติบโตของเซลล์ ช่วยลดไขมันในร่างกาย และลดการสร้างกรดไขมัน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไขมันส่วนเกิน ต้องการลดไขมันส่วนเฉพาะจุด เช่น ลดแก้ม ลดเหนียง หรือลดเซลลูไลท์
  • Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่กระตุ้นให้เอนไซม์ที่ช่วยย่อยไขมันทำงานมากขึ้น ช่วยลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์และควบคุมการสร้างคอเลสเตอรอลในเนื้อเยื่อ
  • L-carnitine ช่วยให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานได้มากขึ้น โดยเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน

ทำไมต้องฉีดเมโสแฟต ? 

ทำไมต้องฉีดเมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีการลดไขมันที่ไม่ต้องผ่าตัด เป็นการใช้ตัวยาเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสลายไขมันในจุดที่เราไม่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดที่ออกกำลังกายยังไงก็ไม่หายไป วิธีนี้เป็นวิธีที่มีการเลือกใช้กันอย่างแพร่หลายมากในปัจจุบัน เพราะ

  • เร็วและง่าย ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการใช้มีดผ่าตัด จึงไม่มีแผลหรือต้องพักฟื้น
  • เจ็บน้อย การฉีดจะเจ็บเพียงเล็กน้อยจากการลงเข็ม สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เลยหลังฉีด
  • ลดไขมันเฉพาะจุดได้ดี สามารถเลือกลดไขมันได้ตามจุดที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแก้ม เหนียง ท้อง ขา หรือแขน 
  • ผิวกระชับขึ้น นอกจากลดไขมันแล้ว ยังช่วยให้ผิวในบริเวณนั้นดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น

ฉีดเมโสแฟตแล้วช่วยอะไร ?

การฉีดเมโสแฟตคือการฉีดตัวยาเมโสแฟตเข้าไปในพื้นที่ที่มีไขมันสะสม เพื่อช่วย

  • สลายไขมัน ทำให้ไขมันในบริเวณที่ฉีดสลายและลดลง
  • กระชับผิว  หลังจากไขมันลดลง ผิวในบริเวณนั้นจะดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
  • ปรับสัดส่วน ช่วยให้รูปร่างและสัดส่วนดูดีขึ้นตามพื้นที่ที่เราต้องการ

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะจุด บริเวณแก้ม เหนียง หน้าท้อง ขา หรือแขน 

กระบวนการทำงานของเมโสแฟต 

กระบวนการทำงานของการฉีดสลายไขมันเมโสแฟต คือ การใช้ตัวยาช่วยให้ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว หลังจากนั้นไขมันจะถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง ดังนี้ 

  1. กระบวนการสลายไขมัน: เมโสแฟต ใช้สารสกัดธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อช่วยลดไขมันในส่วนที่ต้องการ ตัวยาหลักที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตจะอยู่ในกลุ่มของ Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, กรดอะมิโน และแร่ธาตุ ซึ่งมาจากแหล่งธรรมชาติอย่างถั่วเหลือง ไข่แดง และวิตามินหลายชนิด โดยที่สารเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มการเผาผลาญไขมันและสลายเซลล์ไขมัน
  2. กระบวนการกำจัดไขมัน :ไขมันที่ถูกสลายจากตัวยาจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองและระบบขับถ่าย การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเร่งการขับไขมันออกจากร่างกาย
  3. กระบวนการการเห็นผลลัพธ์ :ทำให้บริเวณที่ฉีดเมโสแฟตมีไขมันลดลง ทำให้ผิวดูกระชับและรูปร่างดูดีขึ้น จำนวนครั้งในการฉีด ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่สะสม

ข้อดีของเมโสแฟต 

✔ ลดไขมันส่วนเกิน เมโสแฟตช่วยละลายไขมันในส่วนที่เราไม่ต้องการ ทำให้รูปร่างดูดีขึ้น
✔ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้มีดผ่าตัดหรือเข้าโรงพยาบาล ทำให้ไม่มีแผลหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
✔ ฟื้นตัวเร็ว  หลังฉีดเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นนาน
✔ เจ็บน้อย มีความเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด ไม่ต้องดูแลตัวเองยุ่งยากหลังทำ
✔ ผิวกระชับ-เรียบเนียน  นอกจากช่วยลดไขมันแล้ว ยังช่วยให้ผิวในบริเวณที่ฉีดดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
✔ รูปร่าง -สัดส่วนดีขึ้น ช่วยให้สัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายดูสมส่วนและมีรูปร่างที่ดูดีขึ้น
✔ เหมาะสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น ลดไขมันที่แก้ม เหนียง หน้าท้อง ขา หรือแขน ที่อาจลดยากแม้ออกกำลังกาย
✔ ประหยัดงบ ไม่ต้องไปดูดไขมันที่มีราคาสูง เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก 

ข้อเสียเมโสแฟต 

แม้ว่าเมโสแฟตจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาเช่นกัน  คือ

  • ผลลัพธ์ที่อาจอยู่ได้ไม่นานถาวร หากขาดการดูแล ควบคุมน้ำหนักและไม่มีการออกกำลังกาย ไขมันสามารถกลับมาสะสมใหม่ได้
  • ในคนที่มีไขมันสะสมมาก อาจต้องฉีดหลายครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ 
  • อาจมีผลข้างเคียงเช่น อาการบวม แต่จะหายไปได้เอง ในช่วงอาทิตย์แรก ๆ หลังทำ
  • เมโสแฟตไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักตัวโดยรวมได้

ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี 2024 

ตัวยาเมโสแฟตมีหลายยี่ห้อที่ใช้กันในตลาด แต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างยี่ห้อเมโสแฟตที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน 2024 ได้แก่ 

1. เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella 

เมโสแฟตยี่ห้อ Phytobella

จุดเด่น

ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย มีตัวยาที่สกัดจากธรรมชาติ ทั้งสำหรับลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ ยกกระชับผิว และลดอาการบวมน้ำ ใช้ฉีดได้หลายส่วนของร่างกาย เช่น เหนียงใต้คาง แก้ม ต้นขา สะโพกและน่อง

2. เมโสแฟตยี่ห้อ FNC30 

เมโสแฟตยี่ห้อ FNC30

จุดเด่น

ยี่ห้อเมโสแฟตพรีเมียม ฉีดแล้วยุบดี รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มและเหนียงเยอะจากไขมันส่วนเกิน ตัวยามีกลไกสลายไขมันให้แตกตัว (Special Peptides) ช่วยในการยกกระชับหน้า ปรับสมดุลต่อมน้ำเหลือง และลดการสะสมของชั้นไขมัน

3. เมโสแฟตยี่ห้อ Babi Neo one 

เมโสแฟตยี่ห้อ Babi Neo one

จุดเด่น

เป็นยี่ห้อเมโสแฟตแบบพรีเมียมที่ฮิตมาก ฉีดแล้วแสบน้อยที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย เนื่องจากตัวยามีประสิทธิภาพในการสลายไขมันพร้อมทั้งช่วยยกกระชับผิว ทำให้นิยมใช้ฉีดเพื่อลดแก้ม ลดเหนียง และช่วยให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น เห็นผลลัพธ์เร็วภายใน 3 วัน

4. เมโสแฟตยี่ห้อ Vline 

เมโสแฟตยี่ห้อ Vline

จุดเด่น

เป็นเมโสแฟตทางเลือกใหม่จากเกาหลี ที่ช่วยลดเซลลูไลท์ ทำให้ผิวกระชับขึ้น และเร่งให้ไขมันส่วนเกินยุบได้เร็วขึ้น เมื่อเทียบกับยี่ห้อ FNC แต่อาจทำให้รู้สึกแสบมากกว่าขณะฉีด

เตือน! ระวังเมโสแฟตปลอม 

เมโสแฟตปลอม

เมโสแฟตปลอม คือ ตัวยาหรือสารที่ลักลอบนำมาใช้แทนตัวยาเมโสแฟตจริงเพื่อฉีดสลายไขมัน แต่ไม่ผ่านมาตรฐานคุณภาพ เนื่องจากอาจมีสารปนเปื้อนหรือสารอันตรายที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (อย.) เช่น สเตียรอยด์ (Steroid) และ ยาสลายฟิลเลอร์ (hyaluronidase)

บางคลินิกจะใช้สารเหล่านี้ ในวิธีที่ผิด ด้วยการนำมาฉีดเพื่อสลายไขมันในปริมาณมาก ๆ ช่วงแรกอาจเห็นผลเร็ว แต่เมื่อผ่านไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ถึงขั้นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ทำให้หน้าบวมกว่าเดิม เสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น หรือส่งผลให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว ผิวเสื่อมสภาพ รวมถึงเกิดริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนคล้อย  

ดังนั้น ก่อนเลือกฉีดเมโสแฟต ควรตรวจสอบยี่ห้อเมโสแฟต ก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย 

วิธีสังเกตเมโสแฟตแท้-ปลอม 

เมโสแฟตแท้ ✅ 

เมโสแฟตปลอม ❌

แหล่งที่มา
  • คลินิกซื้อตัวยาจากบริษัทผู้นำเข้ายี่ห้อเมโสแฟตนั้น ๆ โดยตรง และมีใบรับรองอย่างถูกต้อง
  • สามารถตรวจสอบจากเลข Lot.บริษัทนำเข้า หรือ QR Code ที่หลังกล่องได้
  • ซื้อจากแหล่งที่ไม่ชัดเจน มักซื้อขายออนไลน์ และผู้ซื้อไม่ใช่แพทย์ 
ลักษณะของบรรจุภัณฑ์
  • มีฉลากภาษาไทยที่ชัดเจน
  • ข้อมูลบนฉลากตรงกับตัวยาจริง
  • บรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพดี
  • ไม่มีฉลากภาษาไทย หรือมีฉลากที่ไม่ชัดเจน
  • ข้อมูลบนฉลากไม่ตรงกับตัวยาจริง
  • บรรจุภัณฑ์ไม่มีเลขทะเบียน อย.
  • บรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยมีร่องรอยการแกะ
ผลหลังฉีด
  • เกิดอาการบวมจากตัวยาเพียงเล็กน้อย สามารถหายได้เอง
  • ค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์
  • ไขมันสะสมลดลง
  • รูปหน้าเรียวขึ้น
  • เกิดอาการบวมแดง อักเสบ รุนแรง
  • ผิวหนังเป็นรอยบุ๋ม
  • ติดเชื้อ
  • ผิวหนังบาง
  • เส้นเลือดโป่ง
  • อาการแพ้รุนแรง

เมโสแฟต ซื้อมาฉีดเองได้ไหม ? 

เมโสแฟต ซื้อมาฉีดเองได้ไหม ?

เมโสแฟต ไม่สามารถซื้อมาฉีดเองได้ เนื่องจากเมโสแฟตเป็นตัวยาควบคุม การซื้อตัวยาต้องซื้อโดยแพทย์เท่านั้น เพราะมีกฎหมายควบคุม กรณีที่ซื้อมาฉีดเองได้ การันตีได้ว่าตัวยาที่ซื้อมาเป็นยาปลอม ไม่ได้มาตรฐาน บวกกับนำมาฉีดเอง โดยที่ไม่มีความรู้ กระบวนการฉีดไม่เหมาะสม เสี่ยงเกิดอันตรายได้  

การฉีดเมโสแฟตต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญเท่านั้น เพราะต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะทาง แพทย์จะวิเคราะห์ปริมาณยาและจุดฉีดที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล กรณีการฉีดเองโดยไม่มีความรู้และประสบการณ์อาจโอกาสเสี่ยง อักเสบ ติดเชื้อสูง 

ข้อควรรู้ : การฉีดเมโสแฟตควรทำกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม ใช้ตัวยาเมโสแฟตแท้  กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการ เพื่อความปลอดภัยและการเห็นผลลัพธ์ที่ดี

เมโสแฟต อันตรายไหม ?

เมโสแฟต ปลอดภัย หากได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาเมโสแฟตแท้ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน 

อย่างไรก็ตาม ความอันตรายอาจเกิดขึ้นได้ถ้าใช้เมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐานหรือปลอม ซึ่งอาจมีสารปนเปื้อนหรือสารอันตรายที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย.  

นอกจากนี้ การฉีดโดยแพทย์ผู้ที่ขาดประสบการณ์ เช่น หมอกระเป๋า หมอเถื่อน พยาบาล อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ตามมาได้ 

เมโสแฟตเหมาะกับใคร – ไม่เหมาะกับใคร ? 

เมโสแฟต เหมาะกับ

  • ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง แขน ขา 
  • ผู้ที่ต้องการลดไขมันในจุดที่ลดยาก แม้จะพยายามออกกำลังกายแล้ว
  • ผู้ที่ต้องการลดไขมันเร่งด่วน ด้วยงบจำกัด
  • ผู้ที่ไม่อยากผ่าตัดหรือดูดไขมัน เพราะกลัวความเจ็บ 

เมโสแฟต ไม่หมาะกับ 

  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพร้ายแรง  เช่น โรคหัวใจ, โรคตับ, โรคไต หรือโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด เช่น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดหรือมีประวัติการเกิดลิ่มเลือด
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร  เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้สารที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟต 
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบที่บริเวณที่จะทำการฉีด ควรรักษาให้หายก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังหรือปัญหาทางผิวหนังที่บริเวณที่จะฉีด เช่น โรคสะเก็ดเงินหรือเอ็กซีมา
  • ผู้ที่มีมะเร็งหรือประวัติของโรคมะเร็ง  เนื่องจากการกระตุ้นการไหลเวียนอาจส่งผลต่อสภาวะของโรค

เมโสแฟตฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

เมโสแฟตสามารถฉีดได้ที่หลายจุดบนร่างกายที่ต้องการลดไขมัน ได้แก่ 

เมโสแฟตฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

  • แก้ม สำหรับคนที่ต้องการลดขนาดแก้มให้เล็กลง
  • คาง ลดไขมันส่วนเกินใต้คาง เหนียง
  • หน้าท้อง ช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง
  • ต้นขา ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ บริเวณต้นขาให้ดูกระชับขึ้น
  • แขน ช่วยให้แขนดูเล็กลง กระชับขึ้น
  • หลัง ลดไขมันส่วนเกินบริเวณหลัง
  • สะโพก ช่วยปรับรูปสะโพกให้ดูมีสัดส่วน เอว S

ฉีดเมโสแฟต สลายไขมันแต่ละจุด ใช้กี่ CC ? 

เมโสแฟต (Meso Fat) โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมาในขวดละ 10 CC การฉีดแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ที่พิจารณาจากความเหมาะสม ความต้องการของคนไข้ และจำนวนไขมันที่ต้องการลดในบริเวณนั้น ๆ 

ปริมาณที่ใช้ในการฉีดเมโสแฟตแต่ละจุด โดยประมาณ มีดังนี้ 

  • 6-24 CC สำหรับ ฉีดเมโสแฟตลดแก้ม
  • 6-24 CC สำหรับ ฉีดเมโสแฟตลดเหนียง
  • แขนข้างละ 20-40 CC สำหรับ ฉีดเมโสแฟตลดต้นแขน
  • ขาข้างละ 40 CC สำหรับ ฉีดเมโสแฟตลดต้นขา
  • 40-80 CC สำหรับ ฉีดเมโสแฟตลดหน้าท้อง 

ฉีดเมโสแฟตเจ็บมากไหม ? 

การฉีดเมโสแฟตเจ็บมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณยาที่ใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการแปะยาชา 

โดยปกติแล้ว การฉีดเมโสแฟตจะรู้สึกตึง ๆ และเจ็บเล็กน้อย คล้ายกับการถูกมดกัด ในขณะที่แพทย์กำลังเดินยา ซึ่งจะมีการประคบน้ำแข็งให้ด้วยระหว่างฉีด  

สำหรับใครที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถแจ้งแพทย์ได้ก่อนทำ เลือกคลินิกที่มีบริการแปะยาชา หรือฉีดยาชา และทานยาแก้ปวดก่อนฉีดเมโสแฟตได้ ไม่ต้องกังวล

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต

  1. หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด ที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกหรือช้ำ เช่น แอสไพรินหรือยาต้านการอักเสบบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  2. ดื่มน้ำมาก ๆ ในวันก่อนทำ เพื่อช่วยให้ร่างกายและผิวพร้อมสำหรับการฉีดเมโสแฟต
  3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดช้ำและบวม

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟตเป็นอย่างดี จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีหลังการฉีดเมโสแฟตและลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงได้ 

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต 

  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปริมาณไขมัน และจำนวน CC ที่จะใช้ในการฉีดเมโสแฟต
  2. เตรียมผิวบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต ด้วยการทำความสะอาดและแปะยาชาก่อนทำ 30 นาที เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างฉีด 
  3. ฉีดเมโสแฟตเข้าไปในบริเวณที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน 
  4. นวดบริเวณที่ฉีดเสร็จ เพื่อช่วยให้ตัวยาเมโสแฟตกระจาย
  5. แพทย์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
  6. นัดติดตามผลหลังฉีด เพื่อประเมินผลลัพธ์หลังทำ

ผลข้างเคียงหลังฉีดเมโสแฟต 

หลังจากฉีดเมโสแฟต อาจเจอผลข้างเคียงทั่วไป คือ 

  • มีรอยเขียวเล็ก ๆ เกิดจากเข็มที่ใช้ฉีดเมโสแฟต ในบางคนที่ผิวบางหรือช้ำง่ายอาจทำให้รอยเขียวเห็นได้ชัดเจน แต่จะหายไปได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • อาการบวม เนื่องจากเมโสแฟตทำงานโดยการแตกตัวไขมันส่วนเกิน บริเวณที่ฉีดอาจบวมขึ้น ขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อของเมโสแฟตที่ใช้ 

ส่วนผลข้างเคียงที่ไม่ควรเกิด แต่อาจเจอได้ คือ 

  • อาการแพ้ พบได้น้อยมาก เพราะเมโสแฟตมีความปลอดภัยเพราะทำมาจากสารสกัดธรรมชาติ แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ต่อสารในเมโสแฟตได้
  • อาการปวดหรืออักเสบ หากขั้นตอนการฉีดไม่สะอาดหรือไม่ได้มาตรฐาน อาจนำเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราเข้าสู่บริเวณที่ฉีด ทำให้เกิดการอักเสบหรือปวดได้

ทำไมฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวม บวมกี่วัน ?

หลังฉีดเมโสแฟต จะมีอาการบวมประมาณ ประมาณ 3-4 ชั่วโมงหลังการฉีด เนื่องจากเมโสแฟตทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน โดยทำให้ไขมันแตกตัว ส่งผลให้เกิดอาการบวมขึ้น เป็นเรื่องปกติ 

ฉีดเมโสแฟต กี่ครั้งถึงเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสแฟต จะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนใน 1-3 สัปดาห์ โดยไขมันจะเริ่มสลายตัว 10-15% ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและการดูแลตัวเองของแต่ละคน หากต้องการให้ผลลัพธ์จากการฉีดเมโสแฟตชัดเจนและอยู่ได้นานมากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีไขมันสะสมค่อนข้างมาก ควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 4-5 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์เอาไว้

เมโสแฟตฉีด เห็นผลในกี่วัน

ฉีดเมโสแฟต อยู่ได้นานกี่เดือน ? 

เมโสแฟตอยู่ได้นาน 2-3 เดือน หรือมากน้อยกว่านั้น ขึ้นอยูู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด หากฉีดแล้วไม่ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ไขมันก็อาจจะกลับมาสะสมเหมือนเดิมได้

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต 

  1. ดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยขับไขมันที่เมโสแฟตสลายออกมาได้ดีขึ้น 
  2. ควรควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารทอดและไขมันสูงเพื่อไม่ให้ไขมันสะสมใหม่ 
  3. ควรออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดินเร็ว หรือแอโรบิก อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเร่งการลดไขมัน หลังฉีดเมโสแฟต 
  4. นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานปกติและลดไขมันได้ดีขึ้น 

หลังฉีดเมโสแฟตไม่ควรทำอะไร ?

หลังฉีดเมโสแฟต สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นหรือหยุดการแต่งหน้า แต่มีข้อควรระวังเพียงไม่กี่อย่าง คือ 

  1. หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า 1 อาทิตย์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการบวมหรือฟกช้ำเพิ่ม
  2. ไม่ควรขัดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ผิว และหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดรอยช้ำ
  3. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 3 วัน เพื่อลดอาการบวมช้ำ
  4. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันและน้ำตาลสูง เพื่อป้องกันไขมันสะสมใหม่

หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามกินอะไร ?

หลังฉีดเมโสแฟต ห้ามกินอะไร

หลังฉีดเมโสแฟต สามารถกินอาหารได้ตามปกติ ไม่มีข้อจำกัดเฉพาะ แต่สำหรับอาหารหมักดอง แม้ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด แต่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจมีสารที่ทำให้บวมหรือกระตุ้นการอักเสบ ถ้าจำเป็นต้องกิน ก็ไม่ได้ถือเป็นปัญหาใหญ่มาก แต่ดีที่สุดควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดโอกาสบวม

ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?

ฉีดเมโสแฟต ราคาเริ่มต้นที่

  • 2,000 – 2,500 บาท / 6 CC 
  • 3,200 – 4,000 บาท  / แบบเหมาขวด 10 CC 
  • 9,000 –  9,900 บาท / 5 ครั้ง 6 CC

ทั้งนี้ ราคาเมโสแฟต ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ CC ที่ใช้ ยี่ห้อเมโสแฟตที่เลือกใช้ และจำนวนครั้งในการฉีด หากต้องการทราบราคาฉีดเมโสแฟตอย่างชัดเจน แนะนำให้สอบถามข้อมูลกับคลินิกที่สนใจโดยตรง หรือเข้าไปปรึกษากับแพทย์ก่อนได้ 

ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เปิดอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ในด้านความสะอาด ความปลอดภัย 
  • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการฉีดมาหลายเคส เป็นผู้ฉีดเมโสแฟต 
  • เลือกคลินิกที่ใช้ตัวยาเมโสแฟตแท้ มีการเปิดตัวยาให้เช็กก่อนฉีด 
  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวก่อน-หลังฉีดเมโสแฟต ให้ดูทั้งแบบรูปและคลิป รวมถึง Comment รีวิวที่พูดถึงคลินิกบนช่องทางสื่อต่าง ๆ 
  • เลือกคลินิกที่เดินทางได้สะดวก ใกล้บ้าน มีหลายสาขา มีที่จอดรถเพียงพอ
  • เลือกคลินิกที่ติดต่อได้สะดวก มีหลากหลายช่องทาง
  • เลือกคลินิกที่มีพนักงานบริการดี สุภาพ ไม่ยัดเยียดคอร์ส

สรุป เมโสแฟต 

สำหรับใครต้องการปรับรูปหน้า ลดแก้มลดเหนียง หรือต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออกยากด้วยการออกกำลังกาย การฉีดเมโสแฟตถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่ช่วยลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว ฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์ภายใน 1-3 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ก่อนฉีดเมโสแฟต ควรหาข้อมูลอย่างรอบคอบ และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ต้องมั่นใจว่าใช้ตัวยาเมโสแฟตแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มากประสบการณ์เท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด