ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยครับ เพราะทุกคนที่ตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ล้วนคาดหวังบริการที่ปลอดภัย คุ้มค่าราคา และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องไปตามแก้ให้วุ่นวาย
บทความนี้จะพาทุกคนไปตอบคำถามว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนก็ได้จริงไหม ? และควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? พร้อมเปิด 9 จุดสังเกตของคลินิกความงามที่ควรเลือก
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนก็ดีเหมือนกันจริงหรือ ?
ไม่จริงครับ!
ก่อนทำหัตถการ ทุกคนควรให้ความสำคัญว่า จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? เนื่องจากกายวิภาคบริเวณรอบดวงตามีความซับซ้อนมากครับ เช่น มีทั้งผิวชั้นลึกและชั้นตื้น ผิวหนังใต้ตาค่อนข้างบอบบาง และมีเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงดวงตา
นอกจากนี้ในบางเคสจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์หลายชนิดร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เช่น การฉีดฟิลเลอร์เนื้อแน่นในชั้นลึก เพื่อทดแทนโครงสร้างกระดูก ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์เนื้อละเอียดในผิวชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดรอบดวงตา
ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนก็ได้ จึงสามารถส่งผลเสีย และก่อให้เกิดอันตรายต่าง ๆ ตามมาได้มากกว่าที่หลายคนคาดคิด ยกตัวอย่างเช่น
- อันตรายจากผู้ฉีด เช่น ใช้เทคนิคการฉีด หรือเลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม จะทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูไม่เป็นธรรมชาติ และเกิดปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ไหลย้อยได้
นอกจากนี้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์จะขาดความเข้าใจกายวิภาคในจุดที่ฉีด จึงเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเนื้อตาย หรือตาบอดครับ หากฉีดฟิลเลอร์พลาดแล้วเกิดการอุดตันหลอดเลือดบริเวณใต้ตา
- อันตรายจากฟิลเลอร์ของปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว และพาราฟิน สารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายได้หมดเหมือนกับฟิลเลอร์ของแท้ครับ เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมารอบสารตกค้างเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการบวม อักเสบ หรือฟิลเลอร์ไหลย้อยไปยังจุดอื่น ๆ ได้ ส่งผลให้ใบหน้าผิดรูป
สำหรับการแก้ไขฟิลเลอร์ปลอม จำเป็นต้องขูด หรือผ่าฟิลเลอร์ออกเท่านั้นครับ ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสได้
- อันตรายจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับหมอกระเป๋า หรือในคลินิกที่ไม่ผ่านมาตรฐานนั้น สถานที่และขั้นตอนจะมีความสะอาดไม่เพียงพอ จึงสามารถเกิดการปนเปื้อนระหว่างทำหัตถการได้ ส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อตามมาครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? คลินิกแบบไหนที่ควรเลือก ?
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? เนื้อหาในส่วนนี้ได้รวบรวมปัจจัยที่จะทำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และไม่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน หรือเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเนื้อตาย หรือตาบอดตามมา
1. คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน
สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? คือ เลือกคลินิกความงามที่มีใบอนุญาตถูกต้องครับ เพราะคลินิกที่ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนถูกต้องจะมีความสะอาด และมีเครื่องมือกรณีฉุกเฉินอย่างครบครัน ทำให้การใช้บริการมีความปลอดภัยมากครับ
โดยคลินิกความงาม ที่ผ่านการคัดกรองจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขใบอนุญาต 11 หลักไว้ที่ด้านหน้า
2. สถานที่ตั้งเดินทางสะดวก
แม้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด แต่ยังจำเป็นต้องประเมินใบหน้ากับแพทย์ก่อนการฉีด และติดตามผลลัพธ์หลังการฉีดครับ ดังนั้นในการตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ควรเลือกคลินิกความงามที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น คลินิกความงามใกล้บ้าน คลินิกความงามในห้างสรรพสินค้า หรือคลินิกความงามใกล้กับระบบรถไฟฟ้า
นอกจากนี้ถ้าคลินิกความงามมีหลายสาขาก็จะยิ่งดีครับ เพราะแสดงว่าคลินิกนั้น ๆ ได้รับความไว้วางใจ และมีลูกค้าใช้งานอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจจึงเติบโตและสามารถเปิดให้บริการได้อย่างทั่วถึงในหลายพื้นที่
3. คลินิกความงามมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย
ควรเลือกคลินิกความงามที่มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย และติดต่อได้แบบเรียลไทม์ (Real Time) เช่น Facebook, Line, และ Instagram เพื่อให้สามารถสอบถามข้อสงสัยก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือติดต่อได้ง่ายในกรณีที่เกิดปัญหาหลังทำหัตถการครับ
4. มีบริการก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- บริการก่อนทำหัตถการ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจำเป็นต้องปรึกษาและประเมินปัญหากับแพทย์เจ้าของเคสโดยตรงครับ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงคลินิกความงามที่ให้ซื้อคอร์สผ่านพนักงานขายเพียงอย่างเดียว
- บริการหลังการทำหัตถการ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จ จะมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำ ซึ่งเกิดจากอาการบวมเข็มครับ ทำให้ไม่สามารถประเมินผลลัพธ์ได้ทันที จำเป็นต้องรอให้ยุบบวม และฟิลเลอร์เข้าที่ก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน
ดังนั้นควรเลือกคลินิกความงามที่มีนัดติดตามผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อประเมินความพึงพอใจครับ
5. บริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มากประสบการณ์
ผู้ที่ทำหัตถการการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะต้องเป็นแพทย์จริง ๆ และมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมครับ โดยสามารถนำชื่อ-นามสกุลไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้
นอกจากนี้ควรเลือกแพทย์ที่มากประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ ซึ่งสามารถดูเคสรีวิว และใบรับรอง (Certificate) ที่เกี่ยวข้องของแพทย์ท่านนั้น ๆ ได้จากโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ของคลินิกความงาม ที่แพทย์เจ้าของเคสทำงานประจำอยู่ได้
6. คลินิกมีตัวเลือกฟิลเลอร์ที่หลากหลาย
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและรุ่นจะมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน จึงสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกันครับ ดังนั้นในการตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? จึงควรเลือกคลินิกความงามที่มียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกอย่างหลากหลาย
โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.ไทย และนิยมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา มีดังนี้
- ฟิลเลอร์อเมริกา Juvederm มีจุดเด่นอยู่ที่โมเลกุลของฟิลเลอร์ยึดเกาะกันได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง และทนต่อแรงขยับ เมื่อฉีดแล้วจะเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน และผลลัพธ์อยู่ได้นานหลังฉีด ด้วยเทคโนโลยีการผลิต Hylacross Technology และ Vycross Technology
นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด โดยรุ่นที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ Juvederm Voluma, Juvederm Volite และ Juvederm Volux
- ฟิลเลอร์สวีเดน Restylane มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อเจลมีทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ รวมถึงมีคุณสมบัติที่หลากหลาย จึงสามารถฉีดได้ในหลายจุดบนใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก และฟิลเลอร์ขมับ
นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โดยรุ่นที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ Restylane Defyne, Restylane Vital Light, Restylane Vital, Restylane Perlane Lyft และ Restylane Classic
- ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ Belotero มีจุดเด่นอยู่ที่ฟิลเลอร์เนื้อเนียน ที่มีความยืดหยุ่นสูง และยึดเกาะได้ดี ด้วย CPM Technology เมื่อสัมผัสจะเรียบเนียนไปกับผิว และไม่เป็นก้อน
นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยรุ่นที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ Belotero Volume, Belotero Revive และ Belotero Soft
- ฟิลเลอร์เกาหลี Flore มีจุดเด่นอยู่ที่โมเลกุลของฟิลเลอร์มีขนาดเท่ากัน และมีความยืดหยุ่น ทำให้ฉีดและปั้นทรงได้ง่าย แต่คงรูปได้ดี และยังสลายตัวได้ช้าลง ด้วยเทคโนโลยีการผลิต HCCL™ และ PP-Process
นำเข้าโดยบริษัท บอน-ชอง จำกัด โดยรุ่นที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ Flore AQUA-S
สำหรับการเลือกยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ฉีดใต้ตา แพทย์จะเป็นผู้แนะนำรุ่นที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาใต้ตาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละคนครับ
7. ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่นำเข้าถูกต้อง
ฟิลเลอร์จะต้องเก็บในอุณหภูมิ 0-25 °C ตลอดเวลา เพื่อป้องกันตัวยาเสื่อมคุณภาพครับ การใช้ฟิลเลอร์ของแท้ แต่เป็นยาหิ้ว ที่เก็บรักษาและขนส่งไม่เหมาะสม สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ฉีดแล้วไม่เห็นผล อายุการใช้งานของฟิลเลอร์สั้นลง หรือเกิดอาการแพ้
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ควรให้แพทย์แกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า และถ่ายรูปเก็บไว้ทุกซอกทุกมุม หรือขอกล่องกลับไปเช็กอีกรอบหลังฉีดครับ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ฉีดฟิลเลอร์ของแท้ และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้ออาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยรวมจะมีวิธีเช็ก ดังนี้
- เช็กจากบรรจุภัณฑ์ รูปลักษณ์ภายนอกของกล่องจะตรงกับรูปโฆษณาครับ ในบางยี่ห้อจะมีรอยปรุสำหรับการเปิด หรือมีสติกเกอร์โมโนแกรมแปะอยู่ที่กล่อง โดยภายในกล่องจะมีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับการใช้ยาภาษาไทย นอกจากนี้เลข Lot. ในทุกจุดของฟิลเลอร์ทั้งกล่องและหลอดยาจะต้องเป็นเลขเดียวกันครับ
- เช็กผ่านแอปพลิเคชัน เช่น ฟิลเลอร์ Restylane สามารถสแกน QR Code ที่ข้างกล่อง ผ่านแอปพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้
- โทรศัพท์สอบถามผู้นำเข้า สามารถนำเลข Lot. ของฟิลเลอร์ หรือชื่อคลินิกความงาม โทรไปสอบถามกับบริษัทผู้นำเข้าฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ ได้ครับ
- ตรวจสอบชื่อคลินิกจากเว็บไซต์บริษัทผู้นำเข้า ในเว็บไซต์ของบริษัทที่นำเข้าฟิลเลอร์ จะมีหน้าค้นหาคลินิกความงามที่มีสินค้าของบริษัทอยู่ครับ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? สามารถนำชื่อคลินิกความงามที่สนใจ ไปค้นหาในหน้า “ค้นหาคลินิก” หรือ “Find a Clinic” ในเว็บไซต์ของบริษัทผู้นำเข้าได้ เช่น เว็บไซต์ของแอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) หรือเว็บไซต์ของเมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย)
8. ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นไปตามราคามาตรฐาน
ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในแต่ละคลินิกความงาม อาจแตกต่างกันไปบ้างจากหลายปัจจัย เช่น ปริมาณ CC ที่ใช้ ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือก ค่ามือหมอ หรือโปรโมชันส่งเสริมการขายของคลินิก แต่โดยทั่วไปถ้าเป็นคลินิกความงามชั้นนำ ราคาค่าบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะไม่ได้แตกต่างกันมาก
- ฟิลเลอร์พรีเมียม ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มต้นที่ 11,000 – 20,000 บาท ต่อ 1 CC
- ฟิลเลอร์เกาหลีหรือจีน ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มต้นที่ 7,000 -10,000 บาท ต่อ 1 CC
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ราคาค่าบริการถูกมากเกินไป หรือมีโปรโมชันลดแลกแจกแถมหัตถการมากเกินไปครับ เพราะจะมีความเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ของปลอมได้
9. คลินิกมีรีวิวที่น่าเชื่อถือ
- อัปโหลดรีวิวสม่ำเสมอ คลินิกความงามควรอัปเดตรีวิวใหม่เป็นประจำ และต่อเนื่องครับ เพราะแสดงว่าได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ทำให้มีผู้มาใช้บริการไม่ขาดสาย
- รีวิวอยู่ในเว็บไซต์ที่เป็นกลาง ควรหารีวิวจากแหล่งข้อมูลที่เป็นกลาง ซึ่งคลินิกความงามไม่สามารถลบออกได้เอง เช่น ความคิดเห็นในสื่อโซเชียลมีเดีย ในแอปพลิเคชันรีวิว หรือเว็บไซต์ตั้งกระทู้
- รีวิวอยู่ในรูปแบบสื่อที่หลากหลาย รีวิวควรมีทั้งแบบรูปภาพ และคลิปวิดีโอครับ เพราะคลิปวิดีโอจะสามารถตัดต่อ และปรับแต่งได้ยากกว่า
- เปรียบเทียบความแตกต่างของภาพก่อน-หลัง ทั้งเรื่องของแสง และการแต่งหน้าของเคสรีวิวครับ บางคลินิกความงามอาจเลือกใช้ภาพก่อนทำเป็นภาพหน้าสด แต่ภาพหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแต่งหน้าเต็ม และปรับแสงภายในห้อง ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ดูดีเกินจริงได้
- รีวิวจากผู้ใช้จริง แนะนำให้ดูรีวิวจากกลุ่มบุคคลที่หลากหลาย ทั้งผู้ที่ใช้บริการเอง และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเปรียบเทียบรีวิวคลินิกว่าไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นอกจากนี้สำหรับใครที่มีเพื่อนสนิท ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วออกมาดูสวย และดูเป็นธรรมชาติ ควรถามบุคคลเหล่านี้ ว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
สรุป
ใครที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ดี สามารถนำแนวทางและจุดสังเกตว่า ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? ที่บทความนี้นำมาฝากไปปรับใช้ได้ รับรองว่าจะได้บริการที่ปลอดภัย และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ หมดกังวลปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ไหลย้อยครับ