ฉีดโบท็อกราคา
การเลือกฉีดโบท็อก นอกจากจะเลือกยี่ห้อที่เห็นผลลัพธ์ดีแล้ว ยังต้องเลือกฉีดโบท็อกราคาคุ้มค่าและเหมาะสมด้วยครับ
สำหรับใครที่วางแผนปรับรูปหน้า ลดร้วรอยด้วยการฉีดโบท็อก แล้วยังมีข้อสงสัย เกี่ยวกับราคาค่าใช้จ่าย ในแต่ละจุด ฉีดโบท็อกราคาแพงไหม ? แต่ละจุดราคาเท่ากันหรือไม่ ใช้กี่ยู ? ทำไม โบท็อกราคาแต่ละยี่ห้อ ถึงไม่เท่ากัน ? โบท็อกราคาถูก โบท็อกบุฟเฟต์ ไม่จำกัดยูนิต สามารถฉีดได้ไหม ? บทความนี้จะมาบอกข้อมูลเพื่อจะได้เตรียมงบประมาณได้ถูกครับ
ฉีดโบท็อกราคา แต่ละยี่ห้อ อัปเดต 2023
ฉีดโบท็อกราคา แต่ละยี่ห้อจะไม่เท่ากันครับ โดยทั่วไปถ้าเป็นการฉีดโบท็อกเฉพาะจุด เช่น ระหว่างคิ้ว หางตา (ตีนกา) หน้าผาก โบท็อกราคาจะเริ่มต้นที่ 3,000.- (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและโปรโมชันแต่ละคลินิก)
แต่ถ้าฉีดในบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดกราม ฉีดปรับหน้าเรียว ราคาก็จะสูงขึ้น เพราะต้องใช้ปริมาณโบท็อกเยอะขึ้น โดยโบท็อกราคาจะเริ่มต้นที่ 7,000.- หรือถ้าฉีดโบท็อกทั่วหน้า ทั้งลดริ้วรอยและฉีดหน้าเรียวด้วย ราคาจะเริ่มต้นที่ 6,000.- (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและโปรโมชันแต่ละคลินิก)
- Allergan Botox สัญชาติอเมริกา ราคาเริ่มต้น 16,999.- (100 U)
- Aestox Botox สัญชาติเกาหลี ราคาเริ่มต้น 6,999.- (100 U)
- Nabota Botox สัญชาติเกาหลี ราคาเริ่มต้น 6,999.- (100 U)
- Neuronox Botox สัญชาติเกาหลี ราคาเริ่มต้น 7,499.- (100 U)
- Xeomin Botox สัญชาติเยอรมัน ราคาเริ่มต้น 15,999.- (100 U)
- Dysport ฺBotox สัญชาติอังกฤษ ราคาเริ่มต้น 15,999.- (300 U)
*โบท็อกราคาอาจแตกต่างกันไปตามโปรโมชันของแต่ละคลินิก แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับคลินิกโดยตรง เพื่อจะได้คำนวณงบประมาณได้ถูกต้อง
โบท็อกแต่ละยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร เหมาะกับใคร ?
โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่ต่างกันตรงกรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์, ชนิด protein complex, ขนาดของ molecule complex, ความคงทนในการเก็บรักษา และ ขนาดของ molecule complex size ที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อเกิดความแตกต่างกันมากที่สุดครับ
ปัจจุบันมียี่ห้อโบท็อกที่เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยหลายยี่ห้อและหลายประเทศครับ เช่น อเมริกาอังกฤษ เยอรมัน และเกาหลี ซึ่งแต่ละตัวจะมีจุดเด่นที่ต่างกันดังนี้ครับ
โบท็อกยี่ห้อ Allergan อเมริกา
- ตัวยามีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อโบท็อก
- ให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากยากระจายตัวแคบ ทำให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift
- มีอายุการใช้งานนานกว่ายี่ห้อโบท็อกอื่น ๆ ประมาณ 20%
โบท็อกยี่ห้อ Dysport อังกฤษ
- ยากระจายตัวกว้าง จึงเหมาะกับการฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดน่อง และเหมาะกับคนที่ต้องการ ลดกลิ่นเหงื่อ รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพราะจะกระจายตัวครอบคลุมต่อมเหงื่อได้ดี เหงื่อแห้งสนิทมากกว่ายี่ห้ออื่น
- โมเลกุลมีขนาดเล็กลงจึงทำให้โบท็อกเข้าเซลล์ประสาทได้ดีขึ้น โอกาสดื้อโบท็อกน้อยลง และออกฤทธิ์ไวขึ้น
- เหมาะสำหรับฉีดยกกระชับด้วยเทคนิค dermolift และช่วยลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
- หลังฉีดจะรู้สึกตึงประมาณ 50% ไม่ตึงแข็งเกินไป เบาสบายผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
โบท็อกยี่ห้อ Xeomin เยอรมัน
- มีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ฉีดแล้วไม่ตึง
- มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย และการลิฟกรอบหน้า Dermolift
โบท็อกยี่ห้อ Nabota เกาหลี
- เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว จากการใช้งานพบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน
- เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า
โบท็อกยี่ห้อ Aestox เกาหลี
- ตัวยามีความบริสุทธิ์ ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกลดน้อยลง
- ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
- มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ฉีดปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ
โบท็อกยี่ห้อ Neuronox เกาหลี
- เป็นโบท็อกซ์เกาหลีที่ผลิตจากสายพันธุ์ออริจินัล หรือ Hall A-hyper เช่นเดียวกับโบท็อกอเมริกา
- ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98-99% จึงทำให้มีโอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- การกระจายตัวยาที่แคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ฉีดปรับรูปหน้า ลดกราม ลดเหงื่อ
ฉีดโบท็อกราคา แต่ละตำแหน่งใช้กี่ U ?
- ฉีดโบท็อกลดกราม หน้าเรียว 50-100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6,999.-
- ฉีดโบลดริ้วรอย หน้าเรียว 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 9,000.-
- ฉีดโบท็อกขมวดคิ้ว ระหว่างคิ้ว 25 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,000.-
- ฉีดโบท็อกหน้าผาก 30 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,500.-
- ฉีดโบท็อกตีนกา โบท็อกหางตา 25 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,000.-
- ฉีดโบท็อกปีกจมูก/รัดแกนจมูก 25 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,000.-
- ฉีดโบท็อกโหนกแก้ม 25 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,000.-
- ฉีดโบท็อกลิฟต์กรอบหน้า 30-50 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,000.-
- ฉีดโบท็อกลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 9,000.-
- ฉีดโบท็อกน่อง 200-300 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 12,000.-
- ฉีดโบท็อกซ์กระชับรูขุมขน 25-30 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3,000.-
แต่ละเคสอาจใช้ปริมาณโบท็อกมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหา ความต้องการ และการประเมินของแพทย์ ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อกแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนครับ เพื่อแนะนำยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการและงบประมาณของเราครับ
ทำไม โบท็อกราคาแต่ละยี่ห้อ ถึงไม่เท่ากัน
เหตุผลที่ทำให้โบท็อกราคาแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากันนั้นมีหลายปัจจัยครับ เช่น
- ประเทศที่ผลิต
- กรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ หรือเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโบท็อกยี่ห้อนั้น ๆ
- ความบริสุทธิ์ของตัวยาที่ทำให้โบท็อกที่ได้มีคุณสมบัติเฉพาะตัว
- ชนิด protein complex และ ขนาดของ molecule complex
- ความคงทนในการเก็บรักษา
- ต้นทุนการนำเข้า
ซึ่งถ้าคนที่เคยฉีดโบท็อกหรือคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกราคาจะเห็นว่าโบท็อก Allergan อเมริกามีราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งก็มาจากปัจจัยในข้างต้นครับ โบท็อกอเมริกา Allergan เป็นโบท็อกที่ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง กระจายตัวแคบ แม่นยำ ฉีดแล้วโอกาสดื้อโบท็อกน้อย และอยู่ได้นานกว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อย
ถ้าใครที่มีงบประมาณถึง ก็จะแนะนำให้ฉีดโบอเมริกา แต่ถ้ามีงบจำกัดก็ยังมีโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ ที่ราคาถูกลงแต่ให้ผลลัพธ์ดีเช่นกัน อย่างโบท็อกเกาหลีก็เป็นที่นิยมครับ มีหลายยี่ห้อให้เลือก ราคาไม่แพง ออกฤทธิ์ไว แต่ระยะเวลาจะอยู่ได้สั้นกว่าโบท็อกอเมริกาเล็กน้อย
ฉีดโบท็อกราคาถูก-แพง ให้ผลลัพธ์แตกต่างกันไหม ?
(โบท็อกยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลง)
ถ้าฉีดโบท็อกที่ได้คุณภาพ ผ่าน อย. และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แม้จะเป็นโบท็อกราคาถูกก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันมากครับ เพราะกระบวนการทำงานของโบท็อกทุกยี่ห้อจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทเหมือนกัน โดยโบท็อกจะเป็นโปรตีนน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ
- ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท เป็นส่วนที่จะออกฤทธิ์ ซึ่งถ้ามีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ
- ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม ส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกาย
หลังจากนั้นโบท็อกก็จะค่อย ๆ ออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อจนเห็นผลชัดเจน หากฉีดลดริ้วรอยจะเห็นผลใน3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ แต่หากฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกราม จะเห็นผลใน 4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน จากนั้นจะสลายไปเอง 100% ไม่มีสารตกค้าง ตามระยะเวลาของโบท็อกยี่ห้อนั้น ๆ ครับ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดโบท็อก
- ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ลดรอยเหี่ยวย่นหน้าผาก หางตา ตีนกา หลัก ๆ คือช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
- ช่วยในการปรับรูปหน้า ลดกล้ามเนื้อกรามให้มีขนาดเล็กลง กระชับกรอบหน้า ช่วยให้หน้าเรียววีเชฟ
- หากนำมาฉีดเพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ จะช่วยให้เหงื่อและกลื่นตัวลดน้อยลง
- ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อน่อง
วิธีดูโบท็อกแท้
การตรวจเช็กโบท็อกแท้ง่าย ๆ คือ ต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน ด้านข้างต้องมีตัวหนังสือภาษาไทย มีวันผลิต และวันหมดอายุที่กล่องกับขวดต้องตรงกัน และระบุว่านำเข้าโดยบริษัทใดครับ ซึ่งสังเกตได้ดังนี้
- มีซีลใส ป้องกันการเปิด
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย ภายในกล่อง
- มีเลข Lot. ตรงกัน 2 จุด คือ เลข Lot. ที่กล่อง และเลข Lot. ที่ขวด
- ตัวยาโบท็อกเป็นผลึกยาอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดยาออกมา
- สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทนำเข้าได้
- ตรวจสอบเลขทะเบียนตำรับยาได้กับเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
โบท็อกราคาถูก โบท็อกบุฟเฟต์ ไม่จำกัดยูนิต สามารถฉีดได้ไหม ?
ปัจจุบันแต่ละคลินิกจะออกโบท็อกราคาโปรโมชันมาแข่งขันกันค่อนข้างสูง หากสำรวจจากคลินิกหลาย ๆ แหล่ง จะเห็นว่ามีโปรฉีดโบลดกรามเหมาจ่าย, โปรโบท็อกลดริ้วรอยเหมาทั้งหน้า หรือฉีดโบท็อกลดกรามไม่จำกัดยู
แล้วคำถามที่ว่าถ้าเจอโบท็อกราคาถูก โบท็อกบุฟเฟต์ ไม่จำกัดยูนิต สามารถฉีดได้ไหม ? คำตอบ คือได้ครับ เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่ามีการตรวจสอบว่าโบท็อกที่ใช้นั้นเป็นโบท็อกแท้หรือไม่ และใครเป็นคนฉีด
ซึ่งถ้าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่โบท็อกราคาจะไม่ต่างกันมาก เพราะมีราคาต้นทุนใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเจอโปรโมชั่นโบท็อกราคาถูกมาก ๆ อาจเป็นไปได้ว่าคลินิกนั้นใช้โบท็อกปลอม หรือบางคลินิกหัวหมอเอาโบท็อกเกาหลีที่ราคาถูกกว่ามาใส่ขวด Botox Allergan ขายแทน ซึ่งถ้าจัดเก็บไม่ดีจะทำให้ คุณภาพของโบท็อกเสื่อม อย่างดีอาจฉีดแล้วไม่เห็นผล แต่อย่างร้ายคือทำให้หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวหรือหนังตาตกได้ครับ
เลือกฉีดโบท็อกราคาอย่างไรให้เหมาะสม พิจารณาอะไรบ้าง ?
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
- เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเป็นแพทย์จริง สามารถเอาชื่อนามสกุลเข้าไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/ ) เพื่อดูว่าเป็นหมอจริงหรือไม่
- ใช้โบท็อกแท้เท่านั้น การฉีดโบท็อกปลอมจะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อก (ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา)
- และเพื่อการยืนยันว่าเป็นโบท็อกแท้จริง ๆ ก่อนฉีดทุกครั้งคุณหมอควรแกะแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า และควรอนุญาตให้คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านไปเช็คกับบริษัทที่นำเข้าได้ภายหลัง
- ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ ควรพิจารณาจากรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอเปรียบเทียบ ก่อน-หลังทำด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจเข้ารับการรักษาได้อย่างมั่นใจว่าจะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี
- คลินิกมีการให้ข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน ชัดเจน ตรงไปตรงมา คุณหมอช่วยให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่คนไข้โดยตรง เช่น การดูแลตัวเองก่อน–หลังฉีดโบท็อก รวมทั้งมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลภายหลังจากฉีดเสร็จแล้ว
สรุป
การฉีดโบท็อกราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ มีความปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนมากครับ ถ้าเลือกฉีดถูกที่ ถูกวิธีก็รับประกันว่าจะได้ผลที่คุ้มค่าแน่นอน
ก่อนตัดสินใจฉีดแนะนำให้เปรียบเทียบ Botox ราคากับหลาย ๆ คลินิก เพราะฉีดโบท็อกราคาแต่ละคลินิก แต่ละตำแหน่ง ราคาจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อก และปริมาณที่ใช้ แต่นอกจากปัจจัยในเรื่องของราคา ควรพิจารณามาตรฐานของคลินิก และประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดประกอบกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติที่สุดครับ