เจาะลึก ไฮยาลูรอน คืออะไร ? ช่วยอะไร ? นำมาใช้ประโยชน์ด้านใดบ้าง ?

0
907
ไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอนหรือกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของโครงสร้างผิว โดยเฉพาะเรื่องความชุ่มชื้นและริ้วรอย ซึ่งถ้าหากร่างกายมีไฮยาลูรอนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ไม่แข็งแรง ไม่มีความยืดหยุ่น และทำให้ผิวแก่เร็วขึ้น 

ทำไมไฮยาลูรอน ถึงสำคัญกับผิวของมนุษย์ ?  ถ้าร่างกายขาดไฮยาลูรอน จะเกิดอะไรขึ้น ? ที่มาของไฮยาลูรอนและหน้าที่ของไฮยาลูรอน ช่วยอะไรบ้าง ? ในบทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไฮยาลูรอนให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีใช้ไฮยาลูรอน ให้เห็นผล วิธีไหนดีสุด ? ติดตามอ่านพร้อมกันได้ครับ

เข้าใจเกี่ยวกับไฮยาลูรอน คืออะไร ?

ไฮยาลูรอน คืออะไร

ที่มาของไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “HA” เป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ชื่อว่า Polysaccharide ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสารประกอบที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ (Polymer) ที่สามารถเชื่อมโยงองค์ประกอบทางเคมีอื่น ๆ เข้าด้วยกัน โดยสารไฮยาลูรอนนี้เป็นสารสำคัญที่มีอยู่แล้วในร่างกาย และร่างกายสามารถสร้างขึ้นในชั้นผิวหนังแท้ พบได้ทั่วไปกว่า 80% ในชั้นโครงสร้างผิวครับ

โครงสร้างและหน้าที่ของไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอน คือ กรดที่ทำหน้าที่ยึดคอลลาเจนและอีลาสตินยึดเข้าไว้ด้วยกัน มีลักษณะโครงสร้างเป็นโมเลกุล เล็ก ๆ ที่มีความซับซ้อนคล้ายสายโซ่ยาว หลายหน่วยเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ เรียกว่า พอลิเมอร์ (Polymer) 

โมเลกุลเหล่านี้จะทำให้สารเคมีเกาะติดกันได้ จึงมีส่วนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น กักเก็บน้ำ และความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย ป้องกันการเกิดริ้วรอยบนผิวหนังที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา รวมถึงมีการนำไฮยาลูรอนมาใช้สำหรับรักษาโรคข้อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี เช่น ข้อต่อ ข้อเข่า 

ไฮยารูลอน คือ

แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตไฮยาลูรอนได้น้อยและช้าลง โดยค่าเฉลี่ยของคอลลาเจนจะเริ่มเสื่อมตามวัยเฉลี่ย 1.5% ต่อปีในคนที่อายุ 25 และจะเพิ่มเป็น 20-30% เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ในช่วงเวลานี้เราจะเริ่มเห็นปัญหาผิวต่าง ๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น ผิวขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย แห้งกร้าน ไม่เต่งตึงและกระชับเหมือนก่อน ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย จนนำไปสู่การเกิดปัญหาร่องลึกในอนาคตได้ครับ 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่าไฮยาลูรอนมีความสัมพันธ์กับผิวโดยตรง โดยเฉพาะช่วยเรื่องความยืดหยุ่น กระชับ และความชุ่มชื้นของผิว ดังนั้นในทางการแพทย์จึงมีการคิดค้นสังเคราะห์ไฮยาลูรอนขึ้นมาเพื่อทดแทนในส่วนที่ร่างกายสร้างขึ้นได้น้อยลง และช่วยรักษาคุณภาพของผิวไว้ ซึ่งในทางการแพทย์ได้นำไฮยาลูรอนมาใช้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านครับ เช่น ในด้านความงาม, รักษาโรค, สกินแคร์ รวมถึงวิตามินหรือยาต่าง ๆ 

ประโยชน์ของการใช้ไฮยาลูรอน

ประโยชน์ของการใช้ไฮยาลูรอนสามารถนำมาใช้ได้หลายด้าน ทั้งเพื่อรักษาโรค, ใช้กับหนังศีรษะ, ใช้สำหรับผิวหน้า และที่นิยมมากที่สุด คือ นำมาฉีดเพื่อปรับรูปหน้า เสริมความงามครับ 

ประโยชน์สำหรับผิวหน้า

ไฮยาลูรอน เป็นสารที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการอุ้มน้ำ โดยสามารถอุ้มน้ำได้กว่า 1,000 เท่า ของน้ำหนักตัวสารจึงมีประโยชน์สำหรับผิวหน้า คือ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว และรักษาระดับความชุ่มชื้น เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มและมีความยืดหยุ่น เมื่อผิวมีไฮยาลูรอนเพียงพอก็จะช่วยเรื่องความยืดหยุ่น ผิวเรียบเนียน ลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ครับ

นอกจากนี้ในวงการเสริมความงามยังมีการนำสารไฮยาลูรอนมาใช้ฉีดปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย เพื่อชะลอวัย คงความอ่อนเยาว์อีกด้วยครับ ซึ่งในทางการแพทย์จะเรียกว่าฟิลเลอร์ ใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า คงความอ่อนเยาว์ ในบทความนี้ได้มีการเขียนข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ สามารถติดตามอ่านเพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นครับ 

ประโยชน์สำหรับผม

ไฮยาลูรอนที่นำมาใช้สำหรับผม ส่วนใหญ่จะทำมาในรูปแบบเซรัม แชมพู ครีมนวด ทรีทเมนต์ครับ ซึ่งจะนำมาใช้เพื่อป้องกันการหลุดร่วง เสริมความแข็งแรงของเส้นผม รวมถึงช่วยแก้ปัญหาผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู แตกปลาย ลดอาการหนังศีรษะแห้งลอก เพราะขาดความชุ่มชื้น

ประโยชน์สำหรับรักษาโรค

องค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติให้มีการใช้ไฮยาลูรอนเพื่อรักษาโรคได้ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม  ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่, การป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก, ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อ

รักษาตาต้อกระจก โดยไฮยาลูรอนจะเข้าไปเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี ไม่เกิดความเสียหายจากการเสียดสีกัน 

นอกจากนี้ยังสามารถนำไฮยาลูรอนมาใช้รักษาโรคภายนอกได้ครับ เช่น นำมารักษาแผลในปาก ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการแผลไฟไหม้ และยาหยอดตาเพื่อ ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองในลูกตาสำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้ง

ผู้ที่เหมาะสมในการเริ่มใช้ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์

  • ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่ใบหน้ามีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า มีผิวแห้งกร้าน รวมถึงมีร่องลึกจากการยุบตัวของกระดูก เช่น ร่องใต้ตา ถุงใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องน้ำหมาก 
  • เหมาะกับคนที่รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน หน้าไม่สมมาตร เช่น มีคางสั้น ขมับตอบ ขมับยุบ หรือมีปัญหาปากไม่เท่ากัน 
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ต้องการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น
  • เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ต้องการเติมหลุมสิวให้ตื้นขึ้นโดยไม่ทิ้งรอยแผล 
  • เหมาะกับคนที่ต้องการรักษาสภาพผิวให้คงความอ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต

วิธีการใช้ไฮยาลูรอน

1. วิธีการฉีดไฮยาลูรอนบนผิวหน้า

วิธีการฉีดไฮยาลูรอนบนผิวหน้า

วิธีการฉีดไฮยาลูรอนบนผิวหน้า หรือที่เราเรียกกันว่าฟิลเลอร์ คือ ไฮยาลูรอนสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนไฮยาลูรอนที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเติมเต็มในส่วนโครงสร้างผิว และคอลลาเจนที่ร่างกายสูญเสียไป 

จุดประสงค์ที่ใช้ในการฉีดก็เพื่อแก้ปัญหาร่องลึก ลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือฉีดปรับรูปหน้า ฉีดคางเสริมคางยาว ฉีดปากปรับทรงปาก ฉีดขมับ ฉีดหน้าผาก ฉีดแก้มส้ม รวมถึงฉีดฟิลเลอร์    ปรับสภาพผิว บำรุงผิวชุ่มชื้นถึงผิวชั้นใน หลังฉีดผิวจะตึงกระชับ ดูเนียนเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ข้อดีของวิธีการฉีดไฮยาลูรอนบนผิวหน้า คือ หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ทันที คงอยู่ได้นาน 6-24 เดือน ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น เมื่อฟิลเลอร์สลายก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ ซึ่งถ้าเทียบกับการทาครีมที่มีกรดไฮยาลูรอนแบบทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ดีกว่ามากครับ

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่นิยม เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา, ฟิลเลอร์ Restylane สวีเดน, ฟิลเลอร์ Belotero สวิตเซอร์แลนด์, ฟิลเลอร์ Definisse อิตาลี, ฟิลเลอร์ Flore Max เกาหลี เป็นต้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่ต่างกันไปตามเทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิต 

ดังนั้นหากถามว่าใช้ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ในเบื้องต้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุดครับ เพราะ เราไม่สามารถพิจารณาแค่คุณสมบัติทางกายภาพเพียงข้อใดข้อนึงได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ว่าปัญหาผิวหน้าของเรานั้นเกิดจากการยุบตัวของผิวชั้นไหน ตำแหน่งไหน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว แพทย์จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเนื้อเดิมของเรามากที่สุด ซึ่งจะเป็นการแก้ไขที่สาเหตุโดยตรง เพื่อให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ

Fact : ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์  ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อช่วยลดอัตราความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียง อย่าง ฟิลเลอร์ เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เน่า

2. วิธีการทาไฮยาลูรอนบนผิวหน้า

วิธีการทาไฮยาลูรอนบนผิวหน้า

การทาไฮยาลูรอนบนผิวหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าที่ได้รับความนิยมครับ เพราะหาซื้อง่าย มีราคาไม่แพง แต่ต้องใช้ความถี่และระยะเวลาในการเห็นผลที่นานกว่าการฉีด ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบครีม เซรัม มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizers) 

สำหรับวิธีการทาไฮยาลูรอนบนผิวหน้า แนะนำว่าควรทาทุกวันเช้า เย็น โดยทาทั่วหน้าและลำคอ  หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้ซึมเข้าสู่ผิวไปเอง ปิดท้ายด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อล็อกความชุ่มชื้นในชั้นผิวครับ

3. วิธีการใช้ไฮยาลูรอนบนผม

ไฮยาลูรอนผม

การใช้ไฮยาลูรอนบนผม จะช่วยให้ผมดูมีน้ำหนักสุขภาพดีขึ้น เหมาะกับคนที่ผ่านการทำเคมี ยืดผม ย้อมสีผม หรือคนที่ต้องการบำรุงผมแห้งชี้ฟูให้กลับมาดูเงางาม ลดผมขาดหลุดร่วง วิธีการใช้ไฮยาลูรอนบนผมสามารถใช้ได้หลายแบบครับ ทั้งใช้ในขั้นตอนการสระผมตอนผมเปียก หรือใช้ตอนผมเปียกหมาด ๆ ใช้แบบวันเว้นวัน หรือใครที่ต้องการฟื้นฟูผมแบบขั้นสุด ก็ใช้ได้ทุกวันเพื่อผมที่เงางามมากยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์

ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์ เป็นสารที่มีความปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดในการใช้ครับ โดยไฮยาลูรอนฟิลเลอร์จะไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร รวมถึงผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือผู้ที่เคยเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากอาจทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้นเร็วกว่าปกติได้

ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์ใช้ได้กับทุกสภาพผิวหรือไม่ ?

ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวและมีความจำเป็นต่อผิวหน้าในทุกเพศ ทุกวัยครับ เพราะถ้าใบหน้ามีไฮยาลูรอนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ไม่แข็งแรง ใบหน้าแห้งกร้าน ขาดน้ำ หน้าลอกเป็นขุย แต่งหน้าไม่ติด เมื่อทาครีมจะรู้สึกว่าครีมไม่ซึมลงผิว ทาครีมแล้วไม่ค่อยได้ผล ซึ่งถ้าหากเราปล่อยให้ผิวขาดไฮยาลูรอนมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ผิวแก่เร็วขึ้น

ผลการใช้ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?

ผลการใช้ไฮยาลูรอนฟิลเลอร์ หลังฉีดริ้วรอยร่องลึกจะตื้นขึ้นทันทีครับ ซึ่งคุณสมบัติของไฮยาลูรอนฟิลเลอร์ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรายังสามารถฉีดฟิลเลอร์ปรับแก้ไขรูปหน้าให้สวยงามได้ เช่น ปรับคางให้ดูยาวขึ้น แก้ปัญหาคางตัด คางถอย และช่วยปรับรูปปากกระจับ ปากสายฝอ ปากสายเกา และทรงอื่น ๆ ตามต้องการได้ รวมถึงฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เติมเต็มหลุมสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

สรุป

ไฮยาลูรอนจัดเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง  มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งใช้บำรุงผิวพรรณ รักษาป้องกันโรค และที่นิยมเลย คือ นำมาใช้ในวงการความงามเพื่อการชะลอวัย ซึ่งจากข้อมูลในบทความนี้จะเห็นได้ว่าไฮยาลูรอนนั้นมีหลายชนิด และมีการใช้งานต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีปัญหาแบบไหน สภาพผิวเป็นอย่างไร 

แต่สำหรับใครที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวแบบเร่งด่วน เห็นผลทันที มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยตามวัย ในบรรดาวิธีการใช้ไฮยาลูรอนทั้งหมด การฉีดไฮยาลูรอนฟิลเลอร์จะเป็นวิธีตรงจุด เห็นผลลัพธ์คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุดครับ