ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในวงการความงามไม่เคยหยุดนิ่ง และล่าสุดกับ “Coolsculpting Elite รุ่นใหม่” กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในหมู่ผู้ที่ต้องการสลายไขมันด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่รุ่นใหม่นี้มีดี แตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างไร ? ทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ? บทความนี้จะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบค่ะ
ทำความรู้จัก CoolSculpting Elite
CoolSculpting Elite คือเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น รุ่นล่าสุดจาก Zeltiq Aesthetics ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ในปี 2022 ว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
หลักการทำงาน CoolSculpting Elite
CoolSculpting Elite ใช้หลักการทำงานเหมือนกับรุ่นเดิม คือทำงานโดยการปล่อยพลังงานความเย็นในระดับ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เซลล์ไขมันเกิดการตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการทางธรรมชาติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์อื่น ๆ ในร่างกาย
ข้อดี CoolSculpting Elite
CoolSculpting Elite มีข้อดีหลายข้อ ได้แก่:
✔ มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยสามารถลดปริมาณไขมันได้ประมาณ 20-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง
✔ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นภายใน 3-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์สูงสุดภายใน 3 เดือน
✔ ใช้เวลาในการทำเพียง 35-75 นาทีต่อบริเวณ ทำให้สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว
✔ ไม่ก่อให้เกิดแผล รอยช้ำ หรืออาการบวมช้ำ เนื่องจากเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น
✔ ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำ CoolSculpting Elite สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
✔ หัวแอปพลิเคเตอร์ให้เลือกใช้งานถึง 7 ชนิด ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของร่างกายแต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✔ มีหัวแอปพลิเคเตอร์แบบ 2 in 1 สามารถทำงานพร้อมกันได้ 2 จุด ทำให้ลดระยะเวลาในการสลายไขมันลงได้
สิ่งที่ Coolsculpting Elite พัฒนาขึ้นจาก Coolsculpting รุ่นเดิม
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ Coolsculpting รุ่นเดิม Vs Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด
คุณสมบัติ |
Coolsculpting รุ่นเดิม |
Coolsculpting Elite |
หลักการ | สลายไขมันด้วยความเย็น
(Cryolipolysis) |
สลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) |
อุณภูมิที่ใช้ในการสลายไขมัน | -11°C | -11°C ถึง – 13°C |
หัวแอปพลิเคเตอร์ | เล็กกว่าและมี 5 หัว | ใหญ่ขึ้น 18% และมี 7 หัว |
รูปทรงหัวแอปพลิเคเตอร์ | เรียบ | โค้งเว้า |
ระบบควบคุมอุณหภูมิ | แม่นยำ | แม่นยำยิ่งขึ้น |
ประสิทธิภาพ | กำจัดไขมันได้ | กำจัดไขมันได้มากขึ้น |
ลดอาการบวมช้ำ | ดี | ดีขึ้น |
ลดความเสี่ยง
ในการเกิดผลข้างเคียง |
ดี | ดีขึ้น |
ราคา | ต่ำกว่า | สูงกว่า |
จากตารางโดยสรุปแล้ว Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด พัฒนาขึ้นจาก Coolsculpting รุ่นเดิม มีอยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ
- หัวดูดไขมัน (Applicator): ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 18% เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิม ทำให้สามารถครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้นได้ และมีรูปทรงโค้งเว้ามากขึ้น ช่วยให้แนบสนิทกับผิวและครอบคลุมบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงได้ดีขึ้น มีให้เลือกถึง 7 แบบเมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิมที่มี 5 แบบ ทำให้สามารถครอบคลุมบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้หลากหลายมากขึ้น
-
- หัวดูดไขมัน (Applicator) Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด 7 แบบ:
-
- Curve 80 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันบริเวณเหนือหัวเข่า นมน้อย และเหนียง
- Curve 120 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันบริเวณต้นขาด้านใน แขน หน้าท้อง รักแร้ลงมาถึงเอว
- Curve 150 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง บั้นท้าย
- Curve 240 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมัน ลดสัดส่วนให้กระชับมากยิ่งขึ้น
- Flat 125 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณ ต้นขาด้านใน แขน และใบหน้า
- Flat 165 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้ในบริเวณหน้าท้องส่วนบน และส่วนล่าง
- Surface 150 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และต้นขาด้านนอก
- อุณหภูมิ: Coolsculpting Elite สามารถส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -11 ถึง -13 °C เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิมที่ส่งความเย็นในระดับ -11 °C ทำให้สามารถกำจัดไขมันได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้น โดยรวมแล้ว Coolsculpting Elite มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันมากขึ้น และครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิม
Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด กับ Coolsculpting รุ่นเดิม เหมาะกับใคร ?
Coolsculpting Elite และ Coolsculpting รุ่นเดิม ต่างก็เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
แต่ Coolsculpting Elite อาจมีข้อดีเหนือกว่าในด้านประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันและครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง เช่น บริเวณหน้าท้องด้านข้าง ต้นแขนด้านหลัง ต้นขาด้านใน เป็นต้น
ส่วน Coolsculpting รุ่นเดิม ยังคงมีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันที่ดี เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการกำจัดไขมันในบริเวณที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น บริเวณหน้าท้องด้านหน้า ต้นแขนด้านหน้า ต้นขาด้านหน้า เป็นต้น
ดังนั้น การเลือกว่าจะทำ Coolsculpting รุ่นใดนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณเป็นหลัก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสัดส่วนและวิเคราะห์ปัญหาไขมันสะสม
ผลลัพธ์หลังการทำ CoolSculpting Elite
หลังการทำ CoolSculpting Elite เซลล์ไขมันที่โดนความเย็นจะเข้าสู่กระบวนการตายอย่างช้า ๆ ร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบน้ำเหลือง ผลลัพธ์ของการทำ CoolSculpting จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 3 เดือน
ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลังการทำ CoolSculpting Elite อาจแตกต่างจาก CoolSculpting รุ่นเดิมเล็กน้อย เนื่องจากมีการพัฒนาหัวดูดไขมันและระบบความเย็นในการกำจัดไขมัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เคยทำ Coolsculpting รุ่นเดิมมาแล้ว และเห็นผลลัพธ์ที่พอใจ ก็อาจไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อทำ Coolsculpting Elite รุ่นใหม่ก็ได้ เพราะแม้ว่า Coolsculpting Elite รุ่นใหม่จะพัฒนาขึ้นจากเดิมด้วยการอัปเกรดอุปกรณ์เพิ่มขึ้นมา แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ก็ถือว่าต่างจากรุ่นเดิมเพียงเล็กน้อย
รีวิว ผลลัพธ์หลังทำ Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด Vs Coolsculpting รุ่นเดิม
รีวิว ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด
รีวิว ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ coolsculpting รุ่นเดิม
จากรีวิวข้างต้น จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์หลังทำ Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด และรุ่นเดิม จะใกล้เคียงกัน โดยสามารถลดไขมันได้ประมาณ 20-25% ต่อการทำ 1 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์จะคงอยู่ถาวร ยกเว้นในกรณีที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก เซลล์ไขมันใหม่อาจกลับมาสะสมในบริเวณที่ทำ Coolsculpting ได้
ผลข้างเคียงหลังทำ CoolSculpting Elite
ผลข้างเคียงหลังทำ CoolSculpting Elite ก็จะเหมือนกับรุ่นเดิมเช่นกัน คือจะมีอาการปวดระบม คล้าย ๆ การปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย และอาจมีรอยเขียวช้ำเล็กน้อย ในคนที่ผิวช้ำง่าย หรือชาบริเวณที่ทำ เนื่องจากผิวหนังได้รับความเย็นติดลบและแรงดูดจากเครื่อง อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงหลังทำ CoolSculpting Elite รุ่นล่าสุดหรือรุ่นเดิม สามารถลดน้อยลงได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ความปลอดภัยของ CoolSculpting Elite
CoolSculpting Elite ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยไว้เหมือนกับเครื่อง CoolSculpting รุ่นเดิม คือการมีระบบตรวจจับความเย็นในชั้นผิว (Freeze Detect Technology) ที่แม่นยำมากขึ้น หากระบบพบว่ามีความเย็นบนชั้นผิวมากเกินไปจะหยุดการทำงานของเครื่องทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผิวไหม้จากความเย็น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีเครื่องเลียนแบบ CoolSculpting เกรดต่ำยี่ห้ออื่น ๆ อย่างแพร่หลายในท้องตลาด ก่อนตัดสินใจทำแนะนำให้ระมัดระวังและตรวจสอบให้ดีว่าเป็น CoolSculpting ของแท้ได้มาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากมีความเสี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงเรื่องผิวไหม้จากความเย็นได้ง่ายค่ะ
การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting Elite
สำหรับการเตรียมตัวก่อนไปทำ Coolsculpting Elite ไม่มีขั้นตอนอะไรมาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และแต่งกายสบาย ๆ ที่สามารถถอดออกได้ง่าย เพื่อพร้อมสำหรับการทำ
ขั้นตอนการทำ CoolSculpting Elite
ขั้นตอนการทำของ CoolSculpting Elite จะเหมือนตอนทำกับรุ่นเดิมทุกอย่าง ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสัดส่วนและวิเคราะห์ปัญหาไขมันสะสม
- แพทย์ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำ CoolSculpting เพื่อสุขอนามัยที่ดี
- แพทย์วางหัวแอปพลิเคเตอร์ บนบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน
- แพทย์เริ่มทำ CoolSculpting หัวแอปพลิเคเตอร์จะปล่อยความเย็นลงไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ในอุณหภูมิ -11°C ถึง -13°C เป็นเวลา 35-75 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่ทำ
- แพทย์ถอดหัวดูดไขมัน (Applicator) ออก
- แพทย์นวดก้อนไขมันที่โดนแช่แข็งเพื่อให้เซลล์ไขมันถูกทำลาย
การดูแลตัวเองหลังทำ CoolSculpting Elite
- ทานยาแก้ปวด หากหลังทำมีอาการบวม แดง ปวด
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอประมาณ 8 แก้วต่อวัน และงดออกกำลังกายประมาณ 1-2 สัปดาห์
- อาจปวดบริเวณที่ทำ 2-3 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- งดแป้ง งดหวาน งดของทอด ของมัน หรืออาหารที่ทำให้ไขมันสะสม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและอาการทุกอย่างดีขึ้น
เลือกทำ CoolSculpting Elite ที่ไหนดี ?
เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย การเลือกทำ CoolSculpting Elite ที่ไหนดีนั้น ควรศึกษาข้อมูลคลินิกและข้อมูลเกี่ยวกับ Coolsculpting Elite อย่างรอบคอบ ได้แก่
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกจากเว็บไซต์ รีวิว แหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของคลินิก
- ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงในการทำ CoolSculpting Elite มาอย่างยาวนานเพื่อประเมินสัดส่วนและวิเคราะห์ปัญหาไขมันสะสม จากนั้นจึงวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคนเปรียบเทียบราคาและโปรโมชัน ของแต่ละคลินิกก่อนตัดสินใจ
- เปรียบเทียบราคาและโปรโมชัน ของแต่ละคลินิกก่อนตัดสินใจ
- สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเครื่อง CoolSculpting Elite ว่าคลินิกเลือกใช้เครื่อง CoolSculpting Elite ของแท้ ผ่านอย. และนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา กับตัวแทนจำหน่ายของประเทศไทยโดยตรง
- สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการทำและผลลัพธ์ ที่คาดว่าจะได้รับหลังทำ CoolSculpting Elite
- สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียง ที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ CoolSculpting Elite
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
สรุป
Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันมากขึ้น และครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิม แต่ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกันในด้านผลลัพธ์หลังทำ ก็ถือว่ามีความใกล้เคียงกัน หากใครต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน และมีงบประมาณจำกัด Coolsculpting รุ่นเดิม ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีความคุ้มค่า
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำ Coolsculpting รุ่นไหนดี ควรให้แพทย์ประเมินสัดส่วน ปัญหาไขมันสะสม เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคลมากที่สุดค่ะ