เปรียบเทียบ Coolsculpting Elite Vs รุ่นเดิม แตกต่างกันอย่างไร ? แบบไหนคุ้ม!

0
1363
Coolsculpting Elite

Coolsculpting Elite

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในวงการความงามไม่เคยหยุดนิ่ง และล่าสุดกับ “Coolsculpting Elite รุ่นใหม่” กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในหมู่ผู้ที่ต้องการสลายไขมันด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่รุ่นใหม่นี้มีดี แตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างไร ? ทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ? บทความนี้จะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบค่ะ


ทำความรู้จัก CoolSculpting Elite

CoolSculpting Elite

CoolSculpting Elite คือเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น รุ่นล่าสุดจาก Zeltiq Aesthetics ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ในปี 2022 ว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน


หลักการทำงาน CoolSculpting Elite

หลักการทำงาน CoolSculpting Elite

CoolSculpting Elite ใช้หลักการทำงานเหมือนกับรุ่นเดิม คือทำงานโดยการปล่อยพลังงานความเย็นในระดับ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เซลล์ไขมันเกิดการตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการทางธรรมชาติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์อื่น ๆ ในร่างกาย


ข้อดี CoolSculpting Elite

CoolSculpting Elite มีข้อดีหลายข้อ ได้แก่:

✔ มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยสามารถลดปริมาณไขมันได้ประมาณ 20-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง

✔ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นภายใน 3-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์สูงสุดภายใน 3 เดือน

✔ ใช้เวลาในการทำเพียง 35-75 นาทีต่อบริเวณ ทำให้สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว

✔ ไม่ก่อให้เกิดแผล รอยช้ำ หรืออาการบวมช้ำ เนื่องจากเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น

✔ ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำ CoolSculpting Elite สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที

✔ หัวแอปพลิเคเตอร์ให้เลือกใช้งานถึง 7 ชนิด ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของร่างกายแต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

✔ มีหัวแอปพลิเคเตอร์แบบ 2 in 1 สามารถทำงานพร้อมกันได้ 2 จุด ทำให้ลดระยะเวลาในการสลายไขมันลงได้


สิ่งที่ Coolsculpting Elite พัฒนาขึ้นจาก Coolsculpting รุ่นเดิม

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ Coolsculpting รุ่นเดิม Vs Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด

คุณสมบัติ

Coolsculpting รุ่นเดิม

Coolsculpting Elite

หลักการ สลายไขมันด้วยความเย็น

(Cryolipolysis)

สลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis)
อุณภูมิที่ใช้ในการสลายไขมัน -11°C -11°C ถึง – 13°C
หัวแอปพลิเคเตอร์ เล็กกว่าและมี 5 หัว ใหญ่ขึ้น 18% และมี 7 หัว
รูปทรงหัวแอปพลิเคเตอร์ เรียบ โค้งเว้า
ระบบควบคุมอุณหภูมิ แม่นยำ แม่นยำยิ่งขึ้น
ประสิทธิภาพ กำจัดไขมันได้ กำจัดไขมันได้มากขึ้น
ลดอาการบวมช้ำ ดี ดีขึ้น
ลดความเสี่ยง

ในการเกิดผลข้างเคียง

ดี ดีขึ้น
ราคา ต่ำกว่า สูงกว่า

 

จากตารางโดยสรุปแล้ว Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด พัฒนาขึ้นจาก Coolsculpting รุ่นเดิม มีอยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ

  1. หัวดูดไขมัน (Applicator): ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 18% เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิม ทำให้สามารถครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้นได้ และมีรูปทรงโค้งเว้ามากขึ้น ช่วยให้แนบสนิทกับผิวและครอบคลุมบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงได้ดีขึ้น มีให้เลือกถึง 7 แบบเมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิมที่มี 5 แบบ ทำให้สามารถครอบคลุมบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้หลากหลายมากขึ้น
    • หัวดูดไขมัน (Applicator) Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด 7 แบบ:

หัวแอปพลิเคเตอร์ Coolsculpting  Elite  รุ่นล่าสุด

    1. Curve 80 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันบริเวณเหนือหัวเข่า นมน้อย และเหนียง
    2. Curve 120 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันบริเวณต้นขาด้านใน แขน หน้าท้อง รักแร้ลงมาถึงเอว
    3. Curve 150  หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง บั้นท้าย
    4. Curve 240  หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมัน ลดสัดส่วนให้กระชับมากยิ่งขึ้น
    5. Flat 125 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณ ต้นขาด้านใน แขน และใบหน้า
    6. Flat 165 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้ในบริเวณหน้าท้องส่วนบน และส่วนล่าง
    7. Surface 150 หัวแอปพลิเคเตอร์ ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และต้นขาด้านนอก
  1. อุณหภูมิ: Coolsculpting Elite สามารถส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็ง -11 ถึง -13 °C เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิมที่ส่งความเย็นในระดับ -11 °C ทำให้สามารถกำจัดไขมันได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังนั้น โดยรวมแล้ว Coolsculpting Elite มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันมากขึ้น และครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิม


Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด กับ Coolsculpting รุ่นเดิม เหมาะกับใคร ?

Coolsculpting Elite และ Coolsculpting รุ่นเดิม ต่างก็เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

แต่ Coolsculpting Elite อาจมีข้อดีเหนือกว่าในด้านประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันและครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง เช่น บริเวณหน้าท้องด้านข้าง ต้นแขนด้านหลัง ต้นขาด้านใน เป็นต้น

ส่วน Coolsculpting รุ่นเดิม ยังคงมีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันที่ดี เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการกำจัดไขมันในบริเวณที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น บริเวณหน้าท้องด้านหน้า ต้นแขนด้านหน้า ต้นขาด้านหน้า เป็นต้น

ดังนั้น การเลือกว่าจะทำ Coolsculpting รุ่นใดนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณเป็นหลัก เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสัดส่วนและวิเคราะห์ปัญหาไขมันสะสม


ผลลัพธ์หลังการทำ CoolSculpting Elite

หลังการทำ CoolSculpting Elite เซลล์ไขมันที่โดนความเย็นจะเข้าสู่กระบวนการตายอย่างช้า ๆ ร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบน้ำเหลือง ผลลัพธ์ของการทำ CoolSculpting จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 3 เดือน

ทั้งนี้ ผลลัพธ์หลังการทำ CoolSculpting Elite อาจแตกต่างจาก CoolSculpting รุ่นเดิมเล็กน้อย เนื่องจากมีการพัฒนาหัวดูดไขมันและระบบความเย็นในการกำจัดไขมัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เคยทำ Coolsculpting รุ่นเดิมมาแล้ว และเห็นผลลัพธ์ที่พอใจ ก็อาจไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อทำ Coolsculpting Elite รุ่นใหม่ก็ได้ เพราะแม้ว่า Coolsculpting Elite รุ่นใหม่จะพัฒนาขึ้นจากเดิมด้วยการอัปเกรดอุปกรณ์เพิ่มขึ้นมา แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ก็ถือว่าต่างจากรุ่นเดิมเพียงเล็กน้อย


รีวิว ผลลัพธ์หลังทำ Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด Vs Coolsculpting รุ่นเดิม

รีวิว ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด

รีวิว Coolsculpting Elite

 รีวิว ผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ coolsculpting รุ่นเดิม

รีวิว Coolsculpting
จากรีวิวข้างต้น จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์หลังทำ Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด และรุ่นเดิม จะใกล้เคียงกัน โดยสามารถลดไขมันได้ประมาณ 20-25% ต่อการทำ 1 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์จะคงอยู่ถาวร ยกเว้นในกรณีที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก เซลล์ไขมันใหม่อาจกลับมาสะสมในบริเวณที่ทำ Coolsculpting ได้


ผลข้างเคียงหลังทำ CoolSculpting Elite

ผลข้างเคียงหลังทำ CoolSculpting Elite ก็จะเหมือนกับรุ่นเดิมเช่นกัน คือจะมีอาการปวดระบม คล้าย ๆ การปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย และอาจมีรอยเขียวช้ำเล็กน้อย ในคนที่ผิวช้ำง่าย หรือชาบริเวณที่ทำ เนื่องจากผิวหนังได้รับความเย็นติดลบและแรงดูดจากเครื่อง อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงหลังทำ CoolSculpting Elite รุ่นล่าสุดหรือรุ่นเดิม สามารถลดน้อยลงได้โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด


ความปลอดภัยของ CoolSculpting Elite

CoolSculpting Elite ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยไว้เหมือนกับเครื่อง CoolSculpting รุ่นเดิม คือการมีระบบตรวจจับความเย็นในชั้นผิว (Freeze Detect Technology) ที่แม่นยำมากขึ้น หากระบบพบว่ามีความเย็นบนชั้นผิวมากเกินไปจะหยุดการทำงานของเครื่องทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผิวไหม้จากความเย็น

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีเครื่องเลียนแบบ CoolSculpting เกรดต่ำยี่ห้ออื่น ๆ อย่างแพร่หลายในท้องตลาด ก่อนตัดสินใจทำแนะนำให้ระมัดระวังและตรวจสอบให้ดีว่าเป็น CoolSculpting ของแท้ได้มาตรฐานหรือไม่  เนื่องจากมีความเสี่ยงอันตรายจากผลข้างเคียงเรื่องผิวไหม้จากความเย็นได้ง่ายค่ะ


การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting Elite

สำหรับการเตรียมตัวก่อนไปทำ Coolsculpting Elite ไม่มีขั้นตอนอะไรมาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และแต่งกายสบาย ๆ ที่สามารถถอดออกได้ง่าย เพื่อพร้อมสำหรับการทำ


ขั้นตอนการทำ CoolSculpting Elite

ขั้นตอนการทำ CoolSculpting

ขั้นตอนการทำของ CoolSculpting Elite จะเหมือนตอนทำกับรุ่นเดิมทุกอย่าง ดังนี้

  1. ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสัดส่วนและวิเคราะห์ปัญหาไขมันสะสม
  2. แพทย์ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำ CoolSculpting เพื่อสุขอนามัยที่ดี
  3. แพทย์วางหัวแอปพลิเคเตอร์ บนบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน
  4. แพทย์เริ่มทำ CoolSculpting หัวแอปพลิเคเตอร์จะปล่อยความเย็นลงไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ในอุณหภูมิ -11°C ถึง -13°C เป็นเวลา 35-75 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่ทำ
  5. แพทย์ถอดหัวดูดไขมัน (Applicator) ออก
  6. แพทย์นวดก้อนไขมันที่โดนแช่แข็งเพื่อให้เซลล์ไขมันถูกทำลาย

การดูแลตัวเองหลังทำ CoolSculpting Elite

  • ทานยาแก้ปวด หากหลังทำมีอาการบวม แดง ปวด
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอประมาณ 8 แก้วต่อวัน และงดออกกำลังกายประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • อาจปวดบริเวณที่ทำ 2-3 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • งดแป้ง งดหวาน งดของทอด ของมัน หรืออาหารที่ทำให้ไขมันสะสม
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและอาการทุกอย่างดีขึ้น

เลือกทำ CoolSculpting Elite ที่ไหนดี ?

เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย การเลือกทำ CoolSculpting Elite ที่ไหนดีนั้น ควรศึกษาข้อมูลคลินิกและข้อมูลเกี่ยวกับ Coolsculpting Elite อย่างรอบคอบ ได้แก่

  1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกจากเว็บไซต์ รีวิว แหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของคลินิก
  2. ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงในการทำ CoolSculpting Elite มาอย่างยาวนานเพื่อประเมินสัดส่วนและวิเคราะห์ปัญหาไขมันสะสม จากนั้นจึงวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคนเปรียบเทียบราคาและโปรโมชัน ของแต่ละคลินิกก่อนตัดสินใจ
  3. เปรียบเทียบราคาและโปรโมชัน ของแต่ละคลินิกก่อนตัดสินใจ
  4. สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเครื่อง CoolSculpting Elite ว่าคลินิกเลือกใช้เครื่อง CoolSculpting Elite ของแท้ ผ่านอย. และนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา กับตัวแทนจำหน่ายของประเทศไทยโดยตรง
  5. สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการทำและผลลัพธ์ ที่คาดว่าจะได้รับหลังทำ CoolSculpting Elite
  6. สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียง ที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ CoolSculpting Elite
  7. อ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

สรุป

Coolsculpting Elite รุ่นล่าสุด เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันมากขึ้น และครอบคลุมบริเวณที่กว้างขึ้น เมื่อเทียบกับ Coolsculpting รุ่นเดิม แต่ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกันในด้านผลลัพธ์หลังทำ ก็ถือว่ามีความใกล้เคียงกัน หากใครต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน และมีงบประมาณจำกัด Coolsculpting รุ่นเดิม ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีความคุ้มค่า

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำ Coolsculpting รุ่นไหนดี ควรให้แพทย์ประเมินสัดส่วน ปัญหาไขมันสะสม เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคลมากที่สุดค่ะ