Ulthera SPT

สำหรับใครที่อยากแก้ปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบนใบหน้า แต่ไม่อยากผ่าตัด หรือฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย Ulthera SPT ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากครับ เพราะเป็นเครื่องยกกระชับ ที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ จึงไม่ก่อให้เกิดบาดแผลบนผิวชั้นนอก และยังมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบการรักษาให้มีความเฉพาะกับปัญหาผิวของคนไข้แต่ละคนได้ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Ulthera SPT ให้มากขึ้น ว่า Ulthera SPT คืออะไร ? มีหลักการทำงานอย่างไร ? สามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ไลน์ ถึงจะเห็นผล ? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ? และแตกต่างจากเครื่องยกกระชับอื่น ๆ อย่างไร ?


Ulthera SPT คืออะไร ?

Ulthera SPT คืออะไร

Ulthera SPT คือ เครื่องมือยกกระชับผิว รูปแบบไม่ใช้เข็มหรือมีดผ่าตัด (Non-Invasive Skin Tightening & Lifting Treatment) ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และอย.ไทย โดยเครื่องจะส่งคลื่นอัลตราซาวนด์ลงไปในชั้นผิว เพื่อทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวนั้น ๆ หดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ช่วยปรับให้ผิวกระชับ และริ้วรอยดูจางลงครับ

จุดเด่นของการทำ Ulthera SPT คือ สามารถออกแบบการรักษาให้มีความเหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคนได้ครับ จึงช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แม่นยำ และลดโอกาสยิงพลังงานพลาดไปยังบริเวณกล้ามเนื้อ หรือกระดูก ซึ่ง SPT ย่อมาจาก

  • S – See Ulthera SPT มีหน้าจอแสดงผล เพื่อให้แพทย์สามารถมองเห็นปัญหาของทุกชั้นผิวได้อย่างชัดเจน และติดตามการรักษาได้แบบ Real Time ทำให้สามารถยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
  • P – Plan ช่วยให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาผิวในแต่ละชั้นได้ดียิ่งขึ้น จึงสามารถออกแบบการรักษา ที่มีความเฉพาะกับคนไข้แต่ละคนได้ ทำให้ผลลัพธ์การยกกระชับด้วยเครื่อง Ulthera SPT มีประสิทธิภาพมาก
  • T – Treat เทคโนโลยี MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) ซึ่งส่งคลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูงเข้าไปยังผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นผิวชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี 

หลักการทำงานของเครื่อง Ulthera SPT 

หลักการทำงาน Ulthera SPT

เครื่อง Ulthera SPT ยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ที่มีความจำเพาะเจาะจง (Micro focused Ultrasound) ลงไปยังชั้นผิวในระดับความลึกต่าง ๆ ด้วยลักษณะพลังงานที่เป็นจุดขนาด 1 mm เรียงต่อกันเป็นเส้นคล้ายจุดไข่ปลา ทำให้เกิดความร้อน 60-70°C คอลลาเจนในชั้นผิวจึงหดตัว และผิวยกกระชับขึ้นประมาณ 30% หลังทำ นอกจากนี้ความร้อนยังทำลายคอลลาเจนบางส่วน ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวขึ้นมาใหม่ เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน ผิวจึงยิ่งแน่นและกระชับมากขึ้นครับ 

โดย Ulthera SPT จะโฟกัสการยิงพลังงานในชั้นผิวที่มีคอลลาเจนมากที่สุดครับ ซึ่งสามารถยิงพลังงานกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ในทุกชั้นผิว ไม่ใช่การยกกระชับในผิวชั้น SMAS เพียงอย่างเดียว ทำให้เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพมาก ซึ่ง Ulthera SPT มีหัวยิงที่หลากหลาย เพื่อใช้แก้ปัญหาผิวในชั้นที่แตกต่างกัน คือ

  • หัว 1.5 mm สามารถใช้ส่งพลังงานไปที่ยังชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นหนังกำพร้า นิยมใช้เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยในผิวชั้นบน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับให้ผิวแน่นมากขึ้น
  • หัว 3 mm สามารถใช้ส่งพลังงานลงไปที่ชั้นไขมัน (Subcutanious Tissue) ซึ่งมีคอลลาเจนแนวตั้ง จึงช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณกรอบตาและหน้าผากได้ นอกจากนี้ในบริเวณใบหน้าที่ชั้นผิวบาง ยังสามารถใช้หัว 3 mm เพื่อยกกระชับที่ผิวชั้น SMAS ได้อีกด้วย
  • หัว 4.5 mm สามารถใช้ส่งพลังงานไปที่ผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นผิวชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เมื่อผิวชั้นนี้ตึงกระชับ ก็จะส่งผลให้ผิวชั้นบนดูเต่งตึงไปด้วย จึงถือเป็นชั้นผิวที่มีความสำคัญต่อการยกกระชับเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้หัว 4.5 mm ในการยกกระชับบริเวณแก้ม เหนียง หรือลำคอได้อีกด้วย

Ulthera SPT ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

Ulthera SPT ตำแหน่งไหนได้บ้าง

Ulthera SPT ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ ซึ่งเป็นคลื่นที่ใช้งานในทางการแพทย์มาอย่างยาวนานครับ และมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก รวมถึงยังไม่ทำอันตรายต่อดวงตาอีกด้วย จึงสามารถใช้เครื่อง Ulthera SPT ได้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้า และจุดอื่น ๆ ในร่างกาย โดยตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

  • Ulthera SPT รอบดวงตา นิยมใช้เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณรอบดวงตา ลดถุงใต้ตา และยกคิ้ว รวมถึงยังสามารถแก้หนังตาตก สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น และดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
  • Ulthera SPT แก้มและกรอบหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม เก็บกรอบหน้าให้ชัด และยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวได้รูปวีเชฟ 
  • Ulthera SPT ผิวทั่วหน้า นิยมใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยทั่วใบหน้า เช่น ร่องแก้ม หรือร่องมุมปาก รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับให้ผิวดูอิ่มฟู และดูสุขภาพดีขึ้น
  • Ulthera SPT คางและลำคอ ใช้เก็บคางสองชั้น ทำให้เหนียงดูลดลง และยังช่วยกระชับผิวบริเวณลำคอ ให้เรียบเนียน
  • Ulthera SPT หน้าอก ท้องแขน และหน้าท้อง ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับขึ้น 

Ulthera SPT ใช้กี่ช็อต (Shot) / กี่ไลน์ (Line) ถึงจะเห็นผล ?

Ulthera SPT นิยมนับเป็นไลน์ (Line) ครับ เพราะเครื่องจะส่งพลังงานที่มีลักษณะเป็นจุดขนาดเท่า ๆ กัน เรียงต่อกันเป็นเส้นคล้ายจุดไข่ปลา โดยใน 1 ไลน์ จะมีความยาวประมาณ 2.5 cm และประกอบไปด้วยจุดพลังงานจำนวน 15-25 จุด 

การทำ Ulthera SPT ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จำเป็นต้องใช้จำนวนไลน์ให้เหมาะสมกับจุดที่ต้องการแก้ไขครับ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพผิว และความคาดหวังของคนไข้แต่ละคน โดยทั่วไปในแต่ละตำแหน่งจะใช้จำนวนไลน์ ดังนี้

  • Ulthera SPT รอบดวงตา ใช้  200 Line
  • Ulthera SPT แก้ม ใช้ 300 Line
  • Ulthera SPT แก้มและเหนียง ใช้ 500 Line
  • Ulthera SPT ทั่วใบหน้า ใช้ 700 Line
  • Ulthera SPT ทั่วใบหน้าและลำคอ ใช้ 1000 Line

Ulthera SPT มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?

Ulthera SPT ข้อดี

Ulthera SPT ข้อดี

  • หลังทำ Ulthera SPT สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 30% และผิวจะยกกระชับมากขึ้นใน 2-3 เดือน เมื่อร่างกายได้สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมา
  • Ulthera SPT เป็นการยกกระชับที่ไม่ก่อให้เกิดบาดแผลบริเวณผิวชั้นนอก ซึ่งไม่ใช่การผ่าตัดหรือการฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การทำ Ulthera SPT ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต ซึ่งการผ่าตัดทำไม่ได้
  • Ulthera SPT สามารถใช้ทำได้ทั่วทั้งใบหน้า และร่างกาย
  • การทำ Ulthera SPT เพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1 ปี สำหรับใครที่ต้องการยกกระชับผิวให้มากขึ้น สามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุก 3 เดือนครับ จึงถือเป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าคลินิกบ่อย ๆ
  • สามารถทำ Ulthera SPT ร่วมกับหัตถการหรือเครื่องมืออื่น ๆ ได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และชัดเจนมากขึ้น เช่น Hifu, Thermage หรือฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ที่มากประสบการณ์ก่อน ซึ่งจะช่วยวางแผน และจัดลำดับหัตถการได้อย่างเหมาะสม
  • Ulthera SPT สามารถออกแบบโปรแกรมการรักษาให้มีความเฉพาะกับแต่ละบุคคล และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะเครื่องมีหน้าจอแสดงปัญหาผิวแต่ละชั้นครับ
  • Ulthera SPT มีหน้าจอแสดงผลแบบ Real Time แพทย์จะปรับระดับพลังงานได้อย่างเหมาะสม และแม่นยำ ลดโอกาสยิงพลังงานพลาดไปโดนกล้ามเนื้อ หรือกระดูก จึงช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างทำลงได้

Ulthera SPT ข้อเสีย

  • บางคนอาจรู้สึกเจ็บระหว่างทำ Ulthera SPT แต่เป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนไหวครับ โดยทางคลินิกความงามจะทายาชาให้ก่อนทำ สำหรับใครที่ทนความเจ็บไม่ไหว สามารถปรับลดพลังงานของเครื่องลง และทำหัตถการให้บ่อยขึ้นแทนได้ครับ
  • หลังทำ Ulthera SPT อาจเกิดรอยแดงหรืออาการบวมในตำแหน่งที่ทำได้ แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองใน 1 ชั่วโมง
  • บางคนอาจมีอาการผิวบวมหรือระบมเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์หลังทำ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของแต่ละคนด้วยครับ

Ulthera SPT vs Ulthera vs Hifu Ultraformer III vs Thermage FLX แตกต่างกันอย่างไร ?

หลาย ๆ คนที่กำลังมองหาเครื่องยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็ม (Non-Invasive Skin Tightening & Lifting Treatment) อาจจะสงสัยว่า Ulthera SPT แตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ อย่างไร ? ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้จะเปรียบเทียบเครื่อง Ulthera SPT กับเครื่องยกกระชับยอดนิยมอื่น ๆ เช่น Hifu Ultraformer III และ Thermage FLX 

Ulthera SPT vs Ulthera

Ulthera SPT

ในความเป็นจริงแล้ว เครื่อง Ulthera จะมีเพียง 1 รุ่นเท่านั้น คือ เครื่อง Ulthera SPT ครับ หรือบางคนอาจรู้จักในชื่อ New Ulthera การเรียกเครื่องว่า Ulthera SPT จึงเป็นการเน้นย้ำถึงหลักการทำงานของเครื่อง ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นปัญหาผิวในทุกชั้นแบบ Real Time จึงสามารถวางแผน และออกแบบการรักษาผิวของคนไข้แต่ละคน ได้อย่างตรงจุด และแม่นยำ เพื่อการยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่อง Ulthera SPT ของแท้ที่มีความปลอดภัย จะผ่านการรับรองจาก U.S. FDA และ อย.ไทย รวมถึงยังมีใช้ไปกว่า 75 ประเทศทั่วโลก ในประเทศไทยจะนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ (Merz Aesthetics) สามารถตรวจสอบรายชื่อคลินิกความงามที่ใช้เครื่องแท้ได้จากเว็บไซต์ของบริษัท หรือโทร. 02-229-9696

Ulthera SPT vs Hifu Ultraformer III

Ulthera SPT ต่างจาก Hifu Ultraformer III

Ulthera SPT และ Hifu Ultraformer III มีหลักการทำงานของเครื่องเช่นเดียวกันครับ โดยจะส่งคลื่นอัลตราซาวนด์ ที่จุดพลังงานเรียงต่อกันเป็นเส้นคล้ายจุดไข่ปลาลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่ขนาดของจุดพลังงาน ระยะเวลาของผลลัพธ์หลังทำ และความแม่นยำครับ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้

  • Ulthera SPT จุดพลังงานมีขนาด 1 mm ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้ผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานถึง 1 ปี นอกจากนี้ยังมีหน้าจอที่แสดงระดับความลึกของผิวแต่ละชั้น จึงยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำมากกว่า และออกแบบการรักษาให้มีความเฉพาะกับโครงสร้างผิวของแต่ละคนได้
  • Hifu Ultraformer III จุดพลังงานระหว่าง 0.5-1 mm ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้เพียง 6 เดือน โดยในการยิงพลังงานของคนไข้ทุกคนจะเหมือนกันครับ ทั้งนี้ราคาค่าบริการของ Hifu Ultraformer III จะมีความย่อมเยามากกว่า Ulthera SPT

Ulthera SPT vs Thermage FLX

Ulthera SPT ต่างจาก Thermage FLX

Ulthera SPT และ Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว ที่ก่อให้เกิดความร้อนในชั้นผิวทั้งคู่ครับ แต่จะใช้พลังงาน และมีหลักการทำงานของเครื่องที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • Ulthera SPT ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ ส่งจุดพลังงานลงไปในชั้นผิวที่ระดับความลึกต่าง ๆ โดยสามารถลงได้ลึกถึงผิวชั้น SMAS สำหรับการยิงในแต่ละไลน์ พลังงานจะโฟกัสทีละชั้นผิวตามหัวยิงที่เลือกใช้
  • Thermage FLX ใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) โดยจะปล่อยพลังงานตั้งแต่ผิวชั้นหนังกำพร้าลงลึกถึงชั้นไขมันในการยิงแต่ละช็อต (Shot) เครื่อง Thermage FLX จะมีจุดเด่นในเรื่องการลดไขมันส่วนเกิน และเพิ่มคุณภาพผิว ปรับให้ผิวดูสุขภาพดีมากกว่าการยกกระชับ

หลาย ๆ คนจะเห็นว่า เทคโนโลยียกกระชับแต่ละเครื่องจะมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับหัตถการใด แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ที่มากประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยประเมินสภาพผิว และปัญหาบนใบหน้าที่ต้องการแก้ไข รวมถึงช่วยเลือกหัตถการที่เหมาะสม และสอดคล้องกับงบประมาณของแต่ละคนได้


สรุป

Ulthera SPT ซึ่งใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ในการยกกระชับผิว ถือเป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด หรือไม่อยากฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกายเป็นอย่างมาก รวมถึงผู้ที่ไม่มีเวลาเข้าคลินิกความงาม เพราะการทำ Ulthera SPT เพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี 

สำหรับใครที่ต้องการทำ Ulthera SPT ให้มีประสิทธิภาพ แนะนำให้เลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ใช้เครื่องของแท้ และทำหัตถการกับแพทย์หรือ Specialist ที่ผ่านเทรนนิงการใช้งานเครื่องอย่างถูกต้อง