ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผาก พร้อมปรับโหงวเฮ้ง ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง ?

0
1399
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

“หน้าผาก” ถือเป็นบริเวณหนึ่งที่มีความสำคัญต่อรูปลักษณ์ของใบหน้า ถ้ามีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากแคบ ยุบ บุ๋ม ดูไม่สมดุล หรือมีริ้วรอย ก็อาจส่งผลต่อความมั่นใจ รวมไปถึงเรื่องของดวงชะตาตามความเชื่อด้านศาตร์โหงวเฮ้งได้ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเหล่านี้ สามารถทำได้ด้วยการ “ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก”

ใครที่สนใจอยากแก้ปัญหาและปรับโหงวเฮ้ง ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ในบทความนี้ ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ไว้อย่างละเอียด เช่น ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ช่วยอะไร เหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร อันตรายไหม ใช้กี่ CC ราคาเท่าไหร่ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้ก่อนทำ สามารถติดตามอ่านด้านล่างได้เลยค่ะ

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การใช้สารเติมเต็มชนิดไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปบริเวณหน้าผากเพื่อเพิ่ม Volume และทำให้หน้าผากดูนูนขึ้น หรือปรับรูปทรงหน้าผากให้ดูเต็มขึ้น เต่งตึงขึ้น เรียบเนียนขึ้น แก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หรือแก้ริ้วรอยบนหน้าผาก

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยอะไร ?

  • ช่วยเติมเต็มหน้าผาก ที่มีปัญหาหน้าผากยุบ บุ๋ม ทำให้หน้าผากดูเต็ม เต่งตึงขึ้น เรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบน แคบ ทำให้หน้าผากดูมีมิติ ใบหน้าดูมีเอกลักษณ์มากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผาก ทำให้ริ้วรอยบนหน้าผากดูจางลง
  • ช่วยปรับรูปทรงหน้าผาก เช่น ยกหน้าผากให้สูงขึ้น ปรับหน้าผากให้ดูโค้งมน
  • ช่วยปรับโหงวเฮ้งหน้าผากโดยรวมให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น มีมิติ ดูสดใสมากขึ้น

 


 

การมีหน้าผากสวย ดีอย่างไร ?

หน้าผากเป็นส่วนสำคัญของใบหน้า เพราะเป็นบริเวณที่กว้างและเห็นได้ชัด การมีหน้าผากสวยจะช่วยส่งผลดีต่อรูปลักษณ์โดยรวมของใบหน้า ดังนี้

หน้าผากสวย ดีอย่างไร

  • ช่วยเสริมความงามของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสมส่วน โดดเด่น และน่ามองยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ใบหน้าดูมีสง่าราศี หน้าผากที่กว้างและโหนกนูน ตามศาสตร์โหงวเฮ้งเชื่อกันว่าเป็นลักษณะของคนที่ฉลาด มีความรู้ มีปัญญา และประสบความสำเร็จในชีวิต
  • ช่วยเสริมบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของใบหน้า
  • ช่วยเสริมให้ทรงผมดูสวยและโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่ชอบมัดผมเป็นประจำ เช่น การมัดผมหางม้า การมัดผมบัน การมัดผมเปีย
  • ช่วยทำให้ใบหน้าด้านข้างดูสวย มีเสน่ห์ สมส่วนกับใบหน้า

 


 

เรื่องหน้าผาก กับ โหงวเฮ้ง

ในศาสตร์โหงวเฮ้ง หน้าผากถือเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งบนใบหน้า เพราะเป็นจุดบ่งบอกถึงสติปัญญา ความจำ และอนาคตของบุคคลนั้น ๆ

โหงวเฮ้งหน้าผาก

  • ลักษณะหน้าผากที่ดีตามศาสตร์โหงวเฮ้งศาสตร์ คือ หน้าผากกว้าง โหนกนูน เรียบเนียน สว่างใส ปราศจากรอยเหี่ยวย่น รอยบุ๋ม หรือรอยนูน เชื่อว่าคนที่มีหน้าผากลักษณะนี้จะมีสติปัญญาดี เจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ได้รับการสนับสนุนจากผู้คน
  • ลักษณะหน้าผากที่ไม่ดีตามศาสตร์โหงวเฮ้งศาสตร์ คือ หน้าผากแคบ หน้าผากต่ำ หน้าผากมีรอยบุ๋ม หน้าผากมีรอยนูน หรือหน้าผากมีรอยเหี่ยวย่น เชื่อว่าคนที่มีหน้าผากลักษณะนี้จะมีสติปัญญาไม่ดี มีปัญหาด้านการเงิน มีปัญหาด้านสุขภาพ มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ ต้องเจอแต่เรื่องอุบัติเหตุ ขาดคนอุปถัมภ์

 


 

สัดส่วนหน้าผากสวย

สัดส่วนหน้าผากสวย โดยทั่วไปจะมีความกว้างประมาณ 3 ส่วน ของความกว้างของใบหน้าทั้งหมด และมีความสูงประมาณ 1.5 ส่วน ของความสูงของใบหน้าทั้งหมด นอกจากนี้ หน้าผากที่สวยควรมีลักษณะโค้งมน เรียบเนียน ปราศจากรอยเหี่ยวย่น รอยบุ๋ม หรือรอยนูน

สัดส่วนหน้าผากสวย

วิธีการวัดสัดส่วนหน้าผาก

  1. ใช้เทปวัดวัดความกว้างของใบหน้า โดยวัดจากขมับด้านหนึ่งถึงขมับอีกด้านหนึ่ง
  2. ใช้เทปวัดวัดความสูงของใบหน้า โดยวัดจากแนวไรผมถึงแนวสันจมูก
  3. คำนวณสัดส่วนความกว้างหน้าผาก โดยหารความกว้างใบหน้าด้วย 3
  4. คำนวณสัดส่วนความสูงหน้าผาก โดยหารความสูงใบหน้าด้วย 1.5

ตัวอย่างการคำนวณสัดส่วนหน้าผาก

หากความกว้างใบหน้าเท่ากับ 12 เซนติเมตร ความสูงใบหน้าเท่ากับ 10 เซนติเมตร

  • สัดส่วนความกว้างหน้าผาก = 12 เซนติเมตร / 3 = 4 เซนติเมตร
  • สัดส่วนความสูงหน้าผาก = 10 เซนติเมตร / 1.5 = 6.67 เซนติเมตร

ดังนั้น หน้าผากที่สวยควรมีความกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร และมีความสูงประมาณ 6.67 เซนติเมตร

หากใครมีลักษณะไม่สมส่วนตามหลักการข้างต้น สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์มากประสบการณ์เพื่อฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับทรงหน้าผากให้สมส่วนและนูนสวยขึ้นได้ค่ะ

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากแบน หน้าผากเป็นคลื่น หน้าผากไม่เท่ากัน หน้าผากเป็นริ้วรอย ร่องลึก หรือคนที่ไม่อยากผ่าตัดเสริมหน้าผาก รวมถึงคนที่อยากปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น

 


 

วิธีเช็กปัญหาหน้าผาก

วิธีเช็กปัญหาหน้าผาก

วิธีเช็กว่าตัวเองมีปัญหาหน้าผากแบน หรือไม่ ?

วิธีการสังเกตว่าหน้าผากของตัวเองแบนหรือไม่ สามารถเช็กได้จากภาพถ่ายด้านข้างของใบหน้า โดยดูว่าบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้วมีลักษณะราบเรียบหรือลาดลงแบบเส้นตรง หากมีลักษณะดังกล่าว แสดงว่าหน้าผากอาจแบน

วิธีเช็กว่าตัวเองมีปัญหาหน้าผากแคบ หรือไม่ ?

วิธีการสังเกตว่าหน้าผากของตัวเองแคบหรือไม่ สามารถเช็กได้จากภาพถ่ายด้านข้างของใบหน้า โดยดูว่าบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้วมีลักษณะแคบหรือแคบลงแบบเส้นตรง หากมีลักษณะดังกล่าว แสดงว่าหน้าผากอาจแคบ

วิธีเช็กว่าตัวเองหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หรือไม่ ?

วิธีสังเกตว่าหน้าผากของตัวเองยุบหรือบุ๋มหรือไม่ ทำได้โดย

  1. ยืนตรง มองกระจก สังเกตบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้ว
  2. กดเบา ๆ บริเวณหน้าผาก หากกดแล้วเห็นรอยบุ๋มหรือรอยย่น แสดงว่าหน้าผากอาจยุบหรือบุ๋ม
  3. ถ่ายรูปหน้าด้านข้าง สังเกตบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้ว หากมีลักษณะยุบลงไปหรือมีรอยบุ๋ม แสดงว่าหน้าผากอาจยุบหรือบุ๋ม

วิธีเช็กว่าตัวเองหน้าผากไม่เท่ากัน หรือไม่ ?

วิธีสังเกตว่าหน้าผากของตัวเองยุบหรือบุ๋มหรือไม่ ทำได้โดย

  1. ยืนตรง มองกระจก สังเกตบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้ว
  2. กดเบา ๆ บริเวณหน้าผาก หากกดแล้วเห็นรอยบุ๋มหรือรอยย่นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง แสดงว่าหน้าผากอาจไม่เท่ากัน
  3. ถ่ายรูปหน้าด้านข้าง สังเกตบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้ว หากมีลักษณะไม่เท่ากันทั้งสองข้าง แสดงว่าหน้าผากอาจไม่เท่ากัน

วิธีเช็กว่าตัวเองหน้าผากเป็นคลื่น หรือไม่ ?

วิธีการสังเกตว่าหน้าผากของตัวเองเป็นคลื่นหรือไม่ สามารถเช็กได้จากภาพถ่ายด้านข้างของใบหน้า โดยดูว่าบริเวณหน้าผากตั้งแต่โคนผมจนถึงคิ้วมีลักษณะไม่เรียบเนียน มีลักษณะเป็นคลื่น ๆ คล้ายคลื่นบนน้ำ หากมีลักษณะดังกล่าว แสดงว่าหน้าผากอาจเป็นคลื่น

วิธีเช็กว่าตัวเองหน้าผากมีริ้วรอย ร่องลึก หรือไม่ ?

วิธีเช็กว่าหน้าผากตัวเองมีริ้วรอย ร่องลึก หรือไม่ มีดังนี้

  1. ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
  2. นั่งหน้ากระจก มองหน้าผากตัวเองตรง ๆ
  3. สังเกตบริเวณหน้าผากว่ามีเส้นริ้วรอยหรือร่องลึกหรือไม่
  4. หากมีเส้นริ้วรอยหรือร่องลึก ให้สังเกตลักษณะของเส้นริ้วรอยหรือร่องลึก

ลักษณะของเส้นริ้วรอยหรือร่องลึก สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles) มีลักษณะเป็นเส้นริ้วรอยบาง ๆ เกิดบนผิวชั้นหนังกำพร้า มีสาเหตุจากผิวขาดความชุ่มชื้น มีการชะล้างทำความสะอาดผิวที่รุนแรงเกินไป หรือจากมลภาวะ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ

ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles)

  • ริ้วรอยลึก (Deep wrinkles) มีลักษณะเป็นเส้นริ้วรอยลึก มองเห็นได้ชัดเจน เกิดบนผิวชั้นหนังแท้ มีสาเหตุจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้นริ้วรอยลึก (Deep wrinkles)

หากสังเกตพบว่าหน้าผากมีริ้วรอยหรือร่องลึก ควรรีบหาวิธีป้องกันและแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือฉีดโบท็อกหน้าผาก เพื่อไม่ให้ริ้วรอยหรือร่องลึกมีความรุนแรงมากขึ้น

ทั้งนี้ หากลองเช็กด้วยตัวเองแล้วยังไม่แน่ใจว่าตัวเองมีปัญหาหน้าผากแบบไหน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อขอคำแนะนำค่ะ

 


 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่เหมาะกับใคร ?

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้สารไฮยาลูโรนิคแอซิด : ถึงแม้ว่าสารไฮยาลูโรนิคแอซิดเป็นสารประกอบธรรมชาติที่พบได้ในร่างกาย แต่หากผู้ใดแพ้สารนี้ อาจเกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นแดง บวม คัน หายใจลำบาก
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเลือดออกผิดปกติ : การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดการเลือดออกได้ หากผู้ใดมีปัญหาเลือดออกผิดปกติ อาจทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน : เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร : เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพของทารกได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการ

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม

ถึงแม้ว่าหน้าผากจะเป็นบริเวณที่ใกล้เคียงกับดวงตาและเส้นประสาท การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัยค่ะ หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่านมาตรฐาน อย. ฉีดฟิลเลอร์ด้วยความระมัดระวังและแม่นยำ โดยคำนึงถึงตำแหน่งและปริมาณของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทและดวงตา

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่อันตรายก็อาจเกิดขึ้นได้ หากทำกับแพทย์ขาดประสบการณ์ อย่างหมอเถื่อน พยาบาล ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เป็นก้อน ตาบอด เนื้อตาย แพ้ฟิลเลอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่อันตรายอาจเกิดขึ้นได้หากคนไข้มีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้

ดังนั้น ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรเลือกฉีดกับแพทย์มีประสบการณ์เท่านั้น รวมถึงใช้ฟิลเลอร์แท้ ทำภายใต้คลินิกที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ และเช็กว่าตัวเองมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคใดข้างต้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้กี่ CC ?

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดหน้าผากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปัญหาที่ต้องการแก้ไข สภาพผิวหน้า และเทคนิคการฉีดของแพทย์

โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ที่ประมาณ 1-5 CC ดังนี้

  • 1-2 CC : ใช้ในการแก้ไขร่องเหนือคิ้วหรือร่องลึกบริเวณหน้าผากเล็กน้อย
  • 2-5 CC : ใช้ในการแก้ไขหน้าผากยุบหรือแบน
  • 5 CC ขึ้นไป : ใช้ในการแก้ไขหน้าผากยุบมากหรือต้องการปรับโหงวเฮ้ง

อย่างไรก็ดี แพทย์ผู้มีประสบการณ์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้กับคนไข้แต่ละเคส โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้น

 


 

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับฉีดฟิลเลอร์ผาก

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านอย. เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มี 2 ยี่ห้อ/รุ่นที่แนะนำ ได้แก่

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นไหน

  • Juvederm Volbella  : ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา มีลักษณะเนื้อนิ่ม โมเลกุลเล็ก ละเอียด เหมาะกับการฉีดเติมเต็มผิวบริเวณหน้าผากที่บางมาก ฉีดแล้วไม่ทำให้เป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นไหน

  • Restylane Vital : ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน มีลักษณะเนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก ลดริ้วรอย ร่องลึกตื้น ๆ ให้ผลลัพธ์เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ

การเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรปรึกษาแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจฉีด โดยแพทย์จะประเมินสภาพผิวและความต้องการของคนไข้ และเลือกฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 14,000-16,000 บาท/CC ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ และเทคนิคการฉีดของแพทย์

 


 

วิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ให้หน้าผากสวย แบบปลอดภัย

  1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่สนใจจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือรีวิวจากคนไข้ที่เคยฉีด
  2. สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก เช่น มาตรฐานของคลินิก เอกสารและใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ความปลอดภัยของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีด และราคา
  3. นัดหมายเพื่อปรึกษากับแพทย์ผู้มากประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการในการฉีดฟิลเลอร์
  4. เลือกคลินิกที่มีแพทย์มากประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  5. สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอย่างละเอียด

 


 

แนวทางการดูแลตัวเองก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • งดยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช้สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) ยาละลายลิ่มเลือด (thrombolytics) ยารักษาโรคภูมิแพ้ (antihistamine) และยาทาผลัดเซลล์ผิว (retinoid) เนื่องจากยาเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเลือดออกหรือช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เนื่องจากการสูบบุหรี่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเลือดออกหรือช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์
  • แต่งกายให้เหมาะสม เช่น สวมเสื้อผ้าที่หลวมสบาย ไม่รัดรูป เพื่อสะดวกในการฉีดฟิลเลอร์และลดการเสียดสีบริเวณที่ฉีด

 


 

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ทำความสะอาดบริเวณหน้าผากให้สะอาด
  • ทายาชาหรือฉีดยาชาบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  • แพทย์ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเข้าไปบริเวณที่ต้องการ
  • แพทย์นวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเบา ๆ เพื่อปรับรูปทรงหน้าผากและให้ฟิลเลอร์กระจายตัวทั่วบริเวณหน้าผาก

 


 

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ผลข้างเคียงทั่วไป มักพบได้บ่อยและหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ เช่น รอยบวม รอยช้ำ รอยเข็ม อาการปวด ระคายเคือง อาการชา เป็นต้น

ผลข้างเคียงที่รุนแรง พบได้น้อย แต่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เป็นก้อน ตาบอด เนื้อตาย แพ้ฟิลเลอร์ มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์ปลอม  ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หากพบผลข้างเคียงเหล่านี้หลังฉีด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

 


 

แนวทางการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 

  • หลีกเลี่ยงการจับ ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงภายใน 12 ชั่วโมงแรก

1 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่ออกมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า หรือใช้อะไรที่กดทับหน้าผาก อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • สามารถประคบเย็นเบา ๆ เพื่อลดอาการบวมและช้ำได้ตามต้องการ หากแพทย์แนะนำ

2 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า และการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน
  • หลีกเลี่ยงการนวดใบหน้า
  • หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือการบีบบริเวณที่ฉีด

 


 

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เห็นผลในกี่วัน ?

ฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลทันทีหลังฉีด แต่อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 7-14 วัน เมื่ออาการบวมช้ำยุบลง ฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น

 


 

ฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์หน้าผาก จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองของคนไข้

 


 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS ผ่าตัดเสริมหน้าผาก ต่างกันอย่างไร ?

ความแตกต่างระหว่างการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับการผ่าตัดเสริมหน้าผาก

ปัจจัย การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
วิธีการ การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณหน้าผาก การผ่าตัดเพื่อใส่แผ่นซิลิโคนหรือวัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ เข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณหน้าผาก
ระยะเวลาเห็นผล เห็นผลทันที ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
ระยะเวลาพักฟื้น ไม่ต้องพักฟื้น ต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
ผลลัพธ์ อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี อยู่ได้ถาวร
ค่าใช้จ่าย เริ่มต้นประมาณ 14,000 บาท เริ่มต้นประมาณ 50,000 บาท
ความเสี่ยง อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เป็นก้อน หากทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์ปลอม มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น เลือดออก บวมช้ำ ติดเชื้อ ซิลิโคนทะลุ
ความยืดหยุ่น สามารถปรับระดับความนูนได้ตลอดเวลา หรือฉีดสลายออกได้ หากไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ สามารถปรับระดับความนูนได้ ถ้าไม่พึงพอใจต้องผ่าตัดใส่ซิลิโคนใหม่

ฉีดฟิลเลอร์ หน้าผาก VS เสริมหน้าผาก เลือกยังไงดี ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและการผ่าตัดเสริมหน้าผากเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหน้าผากได้ทั้งสองวิธี แต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกทำวิธีใดวิธีหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ งบประมาณ ระยะเวลาพักฟื้น และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ผู้มากประสบการณ์ เพื่อขอคำแนะนำและประเมินแนวทางการแก้ไขปัญหาหน้าผากที่เหมาะสม


สรุป

สำหรับใครที่ต้องการมีหน้าผากสวยสมส่วน มีโหงวเฮ้ง น่ามอง การปรับรูปทรงหน้าผากด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนั้น สามารถช่วยเพิ่มมิติที่สวยงามให้กับหน้าผากได้เป็นอย่างดี และเป็นที่นิยมมาก ๆ เพราะสามารถทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับการเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเจ็บตัว และต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว

ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์สูง ภายในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ รวมถึงใช้ฟิลเลอร์ของแท้ มีมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย. เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีความปลอดภัย