หมามุ่ย
ชื่อสามัญ คือ Mucuna ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Mucuna pruriens (L.) DC. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ คือ Mucuna pruriens var. pruriens จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE) ชื่ออื่น ๆ บะเหยือง หมาเหยือง (ภาคเหนือ) โพล่ยู (กาญจนบุรี) กล้ออือแซ (แม่ฮ่องสอน) ตำแย
ลักษณะต้นหมามุ่ย
- ต้น
– เป็นพืชเถา
– ผลเป็นฝักยาว คล้ายกับถั่วลันเตา
– มีขนสีน้ำตาลอมทองหรือแดงปกคลุมที่ฝัก
– ขนหลุดร่วงได้ง่าย ปลิวตามลมและเป็นพิษ
– ขนเต็มไปด้วยสารเซโรโทนิน (Serotonin)
– เมื่อสัมผัสขนจะทำให้เกิดอาการคัน แพ้ระคายเคืองอย่างรุนแรง
– ฝักจะออกในช่วงฤดูหนาวจนถึงฤดูแล้ง - เมล็ด
– มีสารแอลโดปา (L-Dopa)
– เป็นสารที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อระบบสืบพันธุ์
– เป็นสารสื่อประสาทซึ่งมีส่วนช่วยรักษาโรคพาร์กินสันได้
– ต้องใช้ในรูปแบบที่ผ่านการสกัดมาเป็นยาเม็ด
– ร่างกายไม่สามารถรับสารในรูปของเมล็ดสดหรือแปรรูปได้
วิธีการรักษาพิษ
- ให้รีบกำจัดขนพิษออกจากบริเวณที่สัมผัส
- ใช้เทียนไขลนไฟให้อ่อนตัวหรือใช้ข้าวเหนียวนำมาคลึงจนเนื้อข้าวเหนียวกลืนกัน
- นำมาคลึงบริเวณที่สัมผัสขนหลายครั้ง ๆ จนหมด
- หากยังมีอาการแดงแสบร้อนหรือคันอยู่ ให้ใช้โลชั่นคาลาไมน์มาทา
- ใช้สเตียรอยด์พร้อมกับรับประทานยาแก้แพ้ อาการก็จะดีขึ้น
คำแนะนำในการรับประทาน
- รศ.ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลระบุว่า
– เมล็ดสายพันธุ์อินเดียและจีน สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้
– ผู้ที่กำลังสนใจและต้องการรับประทาน ไม่ควรรับประทานแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
– ยังไม่มีผลงานวิจัยรองรับแน่ชัดว่าสายพันธุ์ไทยไม่เป็นหมามุ่ยสปีชีส์ใด หรือมีผลข้างเคียงหรืออันตรายต่อร่างกายหรือไม่ - เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และผู้ป่วยทางจิตเวชไม่ควรรับประทาน
- การนำเมล็ดมาทำเป็นยาสมุนไพรรับประทานเอง
– ต้องมีความระมัดระวังไม่ให้สัมผัสโดยตรง
– แต่ไม่แนะนำให้เก็บมารับประทานเอง จนกว่าจะได้รับการยืนยันสายพันธุ์ที่แน่นอน
– เนื่องจากมีหลายสายพันธุ์
– มีสายพันธุ์จีนและอินเดียที่สามารถทำเป็นยาได้
– แต่สายพันธุ์ไทยนั้น ยังไม่ระบุแน่ชัด
– ซื้อแบบสำเร็จรูปรับประทานจะมีความปลอดภัยมากกว่า - วิธีการเก็บ
– ให้เลือกเก็บจากต้นที่มีฝักแก่
– ให้ฉีดน้ำให้เปียก เพื่อป้องกันไม่ให้ขนอ่อนของฝักฟุ้งกระจาย
– จากนั้นก็สวมถุงมือป้องกันแล้วค่อย ๆ เก็บฝัก
– เมื่อได้มาให้นำเมล็ดมาคั่วไฟ
– แล้วนำไปล้างน้ำ ก่อนนำไปคั่วไฟอีกรอบ
– ต้องคั่วให้สุกเท่านั้น
– หากคั่วไม่สุกแล้วนำไปรับประทานอาจจะเกิดสารพิษได้ - วิธีการรับประทาน
– สามารถนำเมล็ดนำมาบดให้เป็นผง ผสมกับชาหรือกาแฟได้
– หากชงกับน้ำร้อนเปล่า ๆ รสจะออกเปรี้ยวมันนิด ๆ
– สามารถรับประทานกับข้าวเหนียวได้ - ปริมาณการรับประทานที่แนะนำ
– ผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ ให้รับประทาน 3 เมล็ดต่อวัน
– ผู้ที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ ให้รับประทานวันละ 20-25 เม็ด ไม่เกิน 3 เดือน
สรรพคุณของหมามุ่ย
- เมล็ด ช่วยแก้พิษแมงป่อง
- เมล็ด ใช้เป็นยาฝาดสมาน
- ราก ช่วยถอนพิษ ล้างพิษ
- ราก ช่วยแก้อาการคัน
- ราก ช่วยแก้อาการไอ
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
- ช่วยผ่อนคลายความเครียด
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและมวลของกล้ามเนื้อ
- ช่วยรักษาโรคพาร์กินสัน
- ช่วยรักษาภาวะการมีบุตรยากทั้งชายและหญิง
- ช่วยให้ช่องคลอดกระชับมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มปริมาณของฮอร์โมนเพศ
- ช่วยทำให้หน้าอกเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
- ช่วยทำให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาอวัยวะเพศแข็งตัวช้า
- ช่วยยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์
- ช่วยแก้ปัญหาการหลั่งเร็วได้
- ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศ
- ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำอสุจิ
- ช่วยปรับคุณภาพของน้ำเชื้อให้ดีมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ดีมากยิ่งขึ้น
- ช่วยบำรุงกำลัง ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย
- ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพิ่มความกระฉับกระเฉง
- ช่วยทำให้นอนหลับสบาย จิตใจเบิกบานแจ่มใส
สั่งซื้อ อาหารเสริม สำหรับผู้ป่วย เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth
แหล่งอ้างอิง
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว, รศ.ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์, เว็บไซต์ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
อ้างอิงรูปจาก
1. https://www.supersmart.com/en/blog/brain-nutrition/the-benefits-mucuna-pruriens-for-the-nervous-system-reproductive-health-s301
2. https://medthai.com/