ต้นว่านพญาท้าวเอว แก้อาการโลหิตเป็นพิษ

0
1447
ต้นว่านพญาท้าวเอว
ต้นว่านพญาท้าวเอว แก้อาการโลหิตเป็นพิษ เป็นพรรณไม้ประเภทไม้พุ่มที่พาดพันไปบนต้นไม้ ออกดอกเป็นช่อสีขาว และดอกมีกลิ่นหอม ผลเป็นพวงรูปทรงกลม
ต้นว่านพญาท้าวเอว
เป็นพรรณไม้ประเภทไม้พุ่มที่พาดพันไปบนต้นไม้ ออกดอกเป็นช่อสีขาว และดอกมีกลิ่นหอม ผลเป็นพวงรูปทรงกลม

ว่านพญาท้าวเอว

ว่านพญาท้าวเอวเป็นไม้ป่าของประเทศไทย[1] จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE) ชื่อวิทยาศาสตร์ Oxyceros bispinosus (Griff.) Tirveng. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Randia bispinosa (Griff.) Craib) ชื่ออื่น ๆ พญาท้าวเอว (ภาคตะวันตกเฉียงใต้), ขบเขี้ยว สลักเขี้ยว (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) เป็นต้น[1]

ลักษณะต้นว่านพญาท้าวเอว

  • ต้น
    – เป็นพรรณไม้ประเภทไม้พุ่มที่พาดพันไปบนต้นไม้ชนิดอื่น ๆ
    – ลำต้นจะมีหนามแหลมโค้งขึ้นทั่วลำต้น เมื่อต้นแก่แล้วหนามจะโค้งไปหาลำต้นในลักษณะที่หนามไปล็อกกับตัวลำต้นไว้
    – ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด
  • ใบ
    – ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว โดยใบจะออกเรียงตรงข้ามกัน
    – ลักษณะรูปร่างของใบเป็นรูปวงรีแกมขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายใบแหลม ตรงโคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ
    – แผ่นใบมีเส้นแขนงใบอยู่ที่ประมาณ 6-9 คู่ และมีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ[1]
    – ใบมีขนาดความกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร และมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร
  • ดอก
    – ออกดอกในลักษณะที่เป็นช่อ โดยจะออกดอกที่บริเวณตามซอกใบ
    – แต่ละช่อดอกจะมีดอกย่อยหลายดอกอยู่ภายใน
    – กลีบดอกมีอยู่ 5 กลีบ มีสีเป็นสีขาว และดอกมีกลิ่นหอม [1]
  • ผล
    – ผลมีลักษณะเป็นผลสด ลักษณะรูปร่างของผลจะเป็นรูปทรงกลม โดยจะออกผลในลักษณะที่เป็นพวง ๆ [1]

สรรพคุณของต้นว่านพญาท้าวเอว

1. ตำรับยาพื้นบ้านของล้านนาจะนำลำต้นพญาท้าวเอวมาผสมกับหัวยาข้าวเย็น จากนั้นนำมาต้มกับน้ำใช้สำหรับดื่มเป็นยาแก้อาการปวดเมื่อย (ลำต้น)[1]
2. ลำต้นนำมาฝนผสมกับเหล้าใช้สำหรับทารักษาแผลในปาก (ลำต้น)[1]
3. ลำต้นนำมาฝนผสมกับน้ำปูนใสใช้สำหรับทานเป็นยาแก้งูสวัด และโรคไฟลามทุ่ง (ลำต้น)[1]
4. ตำรับยาพื้นบ้านจะนำลำต้นมาฝนผสมกับน้ำปูนใสใช้ทานเป็นยาแก้อาการท้องเดิน (ลำต้น)[1]
5. นำน้ำมะนาวหรือน้ำซาวข้าวเป็นกระสาย จากนั้นนำเอามาฝนเข้าด้วยกันกับน้ำกระสาย แล้วเอาไปปิดบริเวณที่เป็นแผล โดยจะออกฤทธิ์แก้พิษจากสัตว์กัดต่อย และขบได้ (ลำต้น)[2]
6. นำเอามาฝนผสมกับน้ำเหล้าที่เป็นกระสาย จากนั้นนำมาทาบริเวณที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันจากโรครำมะนาดได้ (ลำต้น)[2]
7. ในบางข้อมูลระบุเอาไว้ว่าให้นำต้นไปแช่ในน้ำให้เปียกชุ่มก่อน จะทำให้ตัวยาของไม้ซึมออกมาได้ จากนั้นจึงค่อยนำมาประคบบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อยไม่นานนักอาการปวดเมื่อยก็จะหายไป

ประโยชน์ของต้นว่านพญาท้าวเอว

1. ในด้านของความเชื่อเป็นไม้มงคล โดยถือกันว่าเป็นว่านเมตตามหานิยมทางแคล้วคลาด ทางเขี้ยวงา ฯลฯ มีไว้สำหรับใช้ป้องกันตัว เชื่อกันว่าสามารถป้องกันสัตว์ร้าย (งู ตะขาบ แมงป่อง ปลาดุกยักษ์แทง ) และอสรพิษกัดได้ รวมถึงคนที่จะมาลอบทำร้าย [3]
2. สามารถนำมาปลูกไว้เป็นไม้ประดับได้ จะทำให้ดูสวยและแปลกตา เนื่องจากต้นมีหนามล็อกลำต้นเอาไว้อยู่

สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “พญาท้าวเอว”. หน้า 160.
2. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 20 คอลัมน์ : การรักษาพื้นบ้าน. (บุญชู ธรรมทัศนานนท์). “ว่านรักษาโรค : ว่านพญาเท้าเอวกายสิทธิ์”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th. [03 ก.ย. 2014].
3. ตลาดพระ. “ว่านพญาท้าวเอวกายสิทธิ์ ของดีจากเมืองใต้”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.taradpra.com. [03 ก.ย. 2014].

อ้างอิงรูปจาก
1.http://www.phytoimages.siu.edu/
2.https://www.flickr.com/