Home สมุนไพร ดองดึง ช่วยแก้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ

ดองดึง ช่วยแก้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ

0
ดองดึง ช่วยแก้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
ดองดึง ช่วยแก้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นไม้เถาล้มลุก ใบเดี่ยว กลีบดอกด้านบนมีสีแดง โคนดอกสีเหลือง เมล็ดกลมสีแดงส้มเป็นจำนวนมาก
ดองดึง
เป็นไม้เถาล้มลุก ใบเดี่ยว กลีบดอกด้านบนมีสีแดง โคนดอกสีเหลือง เมล็ดกลมสีแดงส้มเป็นจำนวนมาก

ดองดึง

ดองดึง เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกาเขตร้อน มีอยู่ทั่วไปในแถบเอเชียเขตร้อน พืชชนิดนี้จะขึ้นตามที่โล่ง ชายป่า และดินปนทราย หรือดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ นิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับ มีการนำมาทำเป็นยาสมุนไพร ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรก็ได้แก่ ส่วนหัว แป้งที่ได้จากหัว เมล็ด และราก ชื่อสามัญ คือ Climbing lily, Turk’s cap, Superb lily, Flame lily, Gloriosa lily ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Gloriosa superba L. จัดอยู่ในวงศ์ดองดึง (COLCHICACEAE) ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ คือ เช่น ก้ามปู (ชัยนาท), หมอยหีย่า (อุดรธานี), พันมหา (นครราชสีมา), คมขวาน หัวขวาน บ้องขวาน (ชลบุรี), ดาวดึงส์ ว่านก้ามปู (ภาคกลาง), มะขาโก้ง (ภาคเหนือ), ดาวดึง หัวขวาน หัวฟาน พันมหา (ภาคอีสาน), ฎงฎึง (เขมร)

ลักษณะของต้นดองดึง

  • ต้น
    – เป็นไม้เถาล้มลุก
    – มีความยาวได้ถึง 5 เมตร
    – มีอายุอยู่ได้หลายปี
    – มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดินเป็นทรงกระบอกโค้ง
  • ใบ
    – มีใบเป็นใบเดี่ยว
    – ออกเรียงสลับกันหรือเรียงเป็นวงรอบข้อ 1-3 ใบ
    – ใบมีความคล้ายรูปหอก มีความยาว 5-15 เซนติเมตร
    – ปลายใบแหลมงอเป็นมือเกาะไม่มีก้าน
  • ดอก
    – เป็นดอกเดี่ยวออกตามซอกใบ
    – กลีบดอกด้านบนมีสีแดง โคนดอกสีเหลือง
    – ดอกมีความยาว 6-10 เซนติเมตร
    – ก้านดอกยาวประมาณ 5 เซนติเมตร
    – มีเกสรตัวผู้ 6 อัน
    – มีก้านยาว 3-5 เซนติเมตร
    – อับเรณูจะยาวประมาณ 1 เซนติเมตร
    – เกสรตัวเมียจะยาวประมาณ 0.3-0.7 เซนติเมตร แยกเป็น 3 แฉก
  • ผล
    – เป็นรูปขอบขนาน
    – มีความยาว 5-10 เซนติเมตร
    – แตกตามรอยประสาน
    – มีเมล็ดกลม ๆ สีแดงส้มเป็นจำนวนมาก

สารโคลชิซีน (Colchicine) จากดองดึง

  • ช่วยรักษาอาการปวดข้อได้เป็นอย่างดี
  • มีฤทธิ์ในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์
  • สามารถนำไปรักษาโรคมะเร็งได้
  • ช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซม ที่มีการนำไปใช้ผสมพันธุ์ให้กับพืชเพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่

ข้อควรระวังของสารโคลชิซีน (Colchicine)

  • ถึงจะมีประโยชน์ แต่ก็ยังมีผลเสียต่อการแบ่งตัวของเซลล์
  • เป็นพิษต่อทางเดินอาหาร
  • เมื่อได้รับสารชนิดนี้เข้าไปในร่างกายในปริมาณมาก หรือประมาณ 3 มิลลิกรัม
  • อาการเป็นพิษจะแสดงออกมาหลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง
  • จะมีอาการแสบร้อนในปากและลำคอ
  • ทำให้คอแห้ง กระหายน้ำ
  • รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
  • มีอาการเจ็บปวดตามตัว
  • ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ
  • คลื่นหัวใจผิดปกติจนวัดไม่ได้
  • อาจจะมีอาการไตวายเฉียบพลัน
  • ปากและผิวหนังชา
  • กลืนไม่ลง มีอาการชัก
  • อุจจาระร่วงอย่างแรง
  • อุจจาระมีเลือดปน
  • ปวดท้องปวดเบ่ง
  • มีอาการคลื่นไส้ ปั่นป่วนในท้องและอาเจียนอย่างรุนแรง
  • ทำให้ร่างกายเสียน้ำมาก
  • อาจส่งผลทำให้หมดสติได้
  • หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน อาจเสียชีวิตได้ภายใน 3-20 ชั่วโมง
  • อุณหภูมิของร่างกายก็จะต่ำลงและเสียชีวิตในที่สุด
  • ฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ของสารโคลชิซีน หลังจากได้รับพิษเข้าไปประมาณ 10 ชั่วโมงจะเป็นช่วงที่มีอาการหนักสุด
  • การขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกายก็จะเป็นไปอย่างช้า ๆ
  • พิษของสารชนิดนี้เกิดจากการรับประทานเข้าไปแต่ละครั้งก็จะถูกสะสมไว้ในร่างกาย
  • พิษจะปะปนออกมากับน้ำนมของสัตว์ที่ได้สารนี้เข้าไปด้วย ซึ่งจะเป็นพิษต่อคนที่กินนมเข้าไปด้วย
  • สารโคลชิซีนก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอีกหลายชนิด

เคสตัวอย่างที่รับประทานหัว

  1. มีผู้เสียชีวิตจากการได้รับสารโคลชิซีนจากหัว
    – มีอาการไตวายเฉียบพลัน ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ลำไส้อักเสบ คลื่นหัวใจผิดปกติจนไม่สามารถวัดได้
  2. ผู้ป่วยที่รับประทานหัวต้ม
    – หลังจากรับประทาน 2 ชั่วโมงก็เริ่มมีอาการอาเจียน อีก 8 ชั่วโมงต่อมาก็มีอาการถ่ายเป็นน้ำอย่างรุนแรงและท้องเสียตลอดทั้งคืน มีอาการหมดสติ หัวใจเต้นเร็ว ขาดน้ำ แพทย์ได้รักษาด้วยการให้น้ำเกลือและยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยจึงมีอาการดีขึ้น
  3. ผู้เสียชีวิตหลังจากรับประทานหัวเป็นอาหารเพราะคิดว่าเป็นหัวกลอย
    – หลังจากรับประทานไป 2 ชั่วโมงก็เริ่มมีอาการท้องเสีย อาเจียน มีอาการขาดน้ำ มีความดันเลือดต่ำวัดค่าไม่ได้ อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ หัวใจเต้นเร็ว เมื่อถึงวันที่ 4 ก็เสียชีวิตลงเพราะหัวใจล้มเหลว หายใจไม่ได้
  4. ผู้เสียชีวิต 3 รายจากการรับประทานหัว
    – เข้าใจผิดว่าเป็นสมุนไพรที่ใช้รักษาอาการท้องอืด แก้ปวดเมื่อย โดยนำไปต้มแล้วนำมารับประทานคนละ 1 แก้ว หลังจากนั้นก็มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรงและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น

การแก้พิษเบื้องต้น

  • ต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อล้างท้องให้เร็วที่สุด
  • รักษาปริมาณอิเล็กโทรไลต์ให้สมดุลเพื่อป้องกันการช็อก
  • อาจจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดอย่าง meperidine (50-100 mg.) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
  • จะใช้ meperidine ร่วมกับ atropine เพื่อช่วยลดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
  • ควรจะมีเครื่องช่วยหายใจในกรณีที่กล้ามเนื้อเกิดอัมพาต หรือมีภาวะการหายใจล้มเหลวหรืออาการช็อก

สรรพคุณของรากและหัวดองดึง

  • ช่วยขับพยาธิสำหรับสัตว์พาหนะ
  • ช่วยรักษาโรคลมเข้าข้อหรือรูมาติสซั่ม
  • ช่วยรักษาโรคลมจับโปง หรือโรคปวดเข่า
  • ช่วยแก้อาการหัวเข่าปวดบวมได้
  • ช่วยแก้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  • ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้
  • ช่วยรักษาโรคคุดทะราด
  • ช่วยรักษาโรคติดต่อเรื้อรังที่เป็นแผลตามผิวหนัง
  • ช่วยแก้พิษงู พิษแมงป่อง ตะขาบกัด
  • ช่วยรักษาโรคเรื้อน
  • ช่วยรักษาบาดแผล
  • ช่วยแก้โรคผิวหนัง
  • ช่วยแก้โรคหนองใน
  • ช่วยรักษากามโรค
  • ช่วยขับลมในกระเพาะ
  • ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ
  • ช่วยลดเสมหะ แก้เสมหะ
  • ช่วยแก้ลมพรรดึก
  • ช่วยรักษาโรคมะเร็งได้

ประโยชน์ของดองดึง

  • สารสกัดจากหัวและราก สามารถนำมาใช้สำหรับการเปลี่ยนแปลงพันธุ์พืชเพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ได้
  • เหง้าหรือหัว สามารถนำมาใช้มาสกัดสารและทำเป็นยาเม็ดไว้สำหรับรักษาโรคเกาต์ (Gout) หรืออาการปวดข้อได้

สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth

แหล่งอ้างอิง
1. สุดยอดสมุนไพรธรรมชาติที่ควรรู้. ศักดิ์ บวร. ปีที่พิมพ์ ม.ค.2543. สำนักพิมพ์สมิต, www.rspg.or.th, ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, สำนักงานข้อมูลสมุนไพรมหาวิทยาลัยมหิดล
2. https://medthai.com

อ้างอิงรูปจาก
1. https://www.walmart.com
2. https://www.gardeningknowhow.com