ต้นกูดพร้าว
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Cyathea latebrosa (Wall. ex Hook.) Copel. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ คือ Alsophila latebrosa Wall. ex Hook., Dichorexia latebrosa (Wall. ex Hook.) C. Presl) จัดอยู่ในวงศ์ CYATHEACEAE[1] ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ คือ กูดต้น (ภาคเหนือ), มหาสดำ (ภาคตะวันออกเฉียงใต้), กูดพร้าว (เชียงใหม่)[1] บางแห่งเรียกว่า “กูดต้นดอยสุเทพ“
ลักษณะของกูดพร้าว
- ต้น
– เป็นเฟิร์นต้นที่มีลำต้นตั้งตรง
– สูงได้ถึง 3-5 เมตร
– ตามลำต้นมีเกล็ดขึ้นปกคลุม
– มีรอยก้านใบที่หลุดร่วงไป
– รากเป็นเส้นแข็งสีดำ
– มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ในประเทศจีนตอนใต้ กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
– ในประเทศไทยสามารถพบได้ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
– สามารถพบขึ้นได้ตามไหล่เขาในป่าดิบเขา บนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลต่ำกว่า 1,000 เมตร - ใบ
– เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น
– ออกรวมกันเป็นกลุ่มบริเวณใกล้ยอด
– แกนกลางของใบประกอบไม่เรียบ
– มีตุ่มขรุขระทางด้านล่าง
– ด้านบนมีขนและเกล็ดขึ้นประปราย
– ก้านใบเป็นสีน้ำตาลปนเหลืองหรือสีน้ำตาลเข้ม
– มีความยาวได้ 40 เซนติเมตร
– มีหนามสั้น ๆ ที่โคนมีเกล็ดสีน้ำตาลเป็นมัน
– มีความกว้าง 1 มิลลิเมตร และยาว 2 เซนติเมตร
– ด้านบนมีขน
– กลุ่มใบย่อยถัดขึ้นมาจะเป็นรูปขอบขนานแคบ
– ปลายเรียวแหลมและมีติ่งยาว มีความกว้าง 14 เซนติเมตร และยาว 40 เซนติเมตร
– แกนกลุ่มใบย่อยมีเกล็ดแบนสีน้ำตาลทางด้านล่าง
– ใบย่อยจะมีมากกว่า 25 คู่ เรียงห่างกัน 1.6 เซนติเมตร
– ใบย่อยเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก มีความกว้าง 1.7 เซนติเมตร และยาว 7 เซนติเมตร
– ปลายเรียวแหลม
– โคนกึ่งตัด
– ขอบหยักเว้าลึกเกือบถึงเส้นกลางใบย่อย มีความกว้าง 3 มิลลิเมตร และยาว 1 เซนติเมตร ปลายมน
– ขอบเรียบหรือจักเป็นฟันเลื่อย
– เส้นกลางใบย่อยมีขนทางด้านบน
– แผ่นใบบาง
– ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม
– ผิวใบด้านล่างเป็นสีเขียวอ่อน
– เส้นใบแยกสาขาออกเป็นคู่ 7-8 คู่
– ไม่มีก้านใบย่อย - สปอร์
– กลุ่มอับสปอร์จะมีรูปร่างเกือบกลม
– อยู่บนเส้นใบทั้งสองข้าง
– จะอยู่ตรงเส้นกลางใบย่อย
– เยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์เป็นเกล็ดเล็ก
– อยู่ที่ฐานของกลุ่มอับสปอร์
สรรพคุณ และประโยชน์ของกูดพร้าว
- แพทย์แผนชนบทจะนำเนื้อไม้ สามารถนำมาทำเป็นยาแก้ไข้ได้[2]
- สามารถนำมาใช้ฝนเป็นยาทาแก้ฝีได้[2]
- ช่วยแก้อักเสบ และแก้อาการบวม [2]
- ลำต้น สามารถนำมาใช้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ได้[1]
สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth
เอกสารอ้างอิง
1. ข้อมูลพรรณไม้, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. “กูด พร้าว”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.rspg.or.th/plants_data/. [27 ส.ค. 2015].
2. หนังสือคำอธิบายตำราพระโอสถพระนารายณ์. (ชยันต์ พิเชียรสุนทร, แม้นมาศ ชวลิต, วิเชียร จีรวงส์). “กูด พร้าว”. หน้า 519.
อ้างอิงรูปจาก
1.https://powo.science.kew.org/
2.https://www.flickr.com/