radiesse

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวจะยุบตัว และสูญเสียความอิ่มฟู ทำให้ใบหน้าดูโทรม และขาดความสดใส ใครที่ต้องการเติม Volume ให้ผิว ปรับให้ผิวดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง คงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ radiesse ซึ่งเป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพจากโครงสร้างภายในมาบ้าง

บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ radiesse ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น radiesse คืออะไร ? ดีอย่างไร ? มีหลักการทำงานอย่างไร ? ปลอดภัยไหม ? มีกี่รุ่น ? ฉีดตำแหน่งไหน ? เหมาะกับใคร ? เห็นผลเมื่อไหร่ ? และดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างไร ? 


Radiesse คืออะไร ?

radiesse คือ นวัตกรรมฟื้นฟูสุขภาพ และโครงสร้างผิวแบบองค์รวม (Regenerative Biostimulator) ที่คิดค้นและวิจัยโดย Merz Aesthetics จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มเช่นเดียวกับฟิลเลอร์ แต่ต่างกันตรงที่ radiesse ฟิลเลอร์ มีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite Microsphere) ส่วนฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ จะเป็นสารเติมเต็ม ด้วย Hyaluronic Acid หรือ HA

ทำความรู้จักเอกลักษณ์ของ Radiesse ด้วยรหัส 5-5-5

เอกลักษณ์ของ radiesse ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพและโครงสร้างผิว ประดุจดังเสียงหัวเราะ 5-5-5 ที่ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ มีดังนี้

  • 5 = CaHA (คา-ฮ่า)

5 ตัวแรก ของ radiesse ที่มีสารประกอบสำคัญ CaHA Microsphere (คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์) ที่เป็นส่วนประกอบหลัก มีลักษณะเป็นอนุภาคทรงกลมขนาดสม่ำเสมอ 25-45 ไมครอน

โดยทั่วไปสาร CaHA เป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและอยู่ภายในร่างกายของมนุษย์ มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยธรรมชาติ ส่วน CaHA ใน radiesse เป็นสาร CaHA ที่ผลิตขึ้นมาทดแทนสาร CaHA ที่มีอยู่ในร่างกายของเรา มีความปลอดภัยสูง หลังฉีดสามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย และไม่กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อต้าน รวมถึงสามารถย่อยสลายได้เองCaHA (Calcium Hydroxylapatite Microsphere)

ในทางการแพทย์ได้มีการใช้งานสารตัวนี้มายาวนานกว่า 25 ปี มีข้อมูลงานวิจัยรับรองกว่า 250 ฉบับ รวมถึงได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น CE Marking และ U.S. FDA การันตีความปลอดภัย

  • 5 = 5 ประการกระตุ้นการคอลลาเจนเส้นใยผิว 

radiesse กระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิว 5 ประการ

5 ตัวที่ 2 ของ radiesse คือ 5 การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเส้นใยตาข่ายใต้ผิวขึ้นมาใหม่

  • Collagen Type I เพิ่มขึ้น 150% ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิว และปรับผิวให้ดูเด็กลง มีความกระชับและเต่งตึง

คอลลาเจน Type I เป็นชนิดที่มีมากที่สุดในร่างกาย พบมากถึง 90% มีความสำคัญในเรื่องของเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว 

  • Collagen Type III เพิ่มขึ้น 130% ช่วยให้คอลลาเจนในชั้นผิวหนังจัดเรียงใหม่ ปรับให้ผิวเต่งตึง กระชับมากขึ้น ผิวมี Volume และริ้วรอยดูลดลง

คอลลาเจน Type III เป็นคอลลาเจนที่ทำงานร่วมกับคอลลาเจน Type I พบในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด มีบทบาทสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวแน่น กระชับ 

  • Elastin เพิ่มขึ้น 260% ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และความแข็งแรง โดยอิลาสตินเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในโครงสร้างหลักของผิวเช่นเดียวกับคอลลาเจน
  • Angiogenesis ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดขนาดเล็กใต้ชั้นผิว ทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวอย่างทั่วถึง ปรับให้ผิวดูอมชมพู มีเลือดฝาด
  • Proteoglycan ช่วยกระตุ้นการสร้างสารน้ำหล่อเลี้ยงผิว ปรับให้ผิวชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และคืนตัวได้ดี

ผลลัพธ์ผิว 3 ประการจาก radiesse

นอกจากผลลัพธ์ 5 ประการข้างต้น หลังฉีด radiesse ยังให้ผลลัพธ์ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีถึง 3 ผลลัพธ์คือ 

  • Healthier ผิวดูสุขภาพดียิ่งขึ้น ปรับผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ และอิ่มฟูเด้ง
  • Younger ริ้วรอยลดลง ผิวยกกระชับ และดูอ่อนเยาว์
  • Longer ยืดอายุผิวคุณภาพดีได้ยาวนานขึ้น และคงผลลัพธ์ได้นานถึง 24 เดือน
  • 5 = 5 จุดเด่น ที่ช่วยฟื้นฟูผิว

5 ตัวที่ 3 ของ radiesse คือ จุดเด่นทั้ง 5 ประการของการฟื้นฟูผิว คืนความอ่อนเยาว์ ได้แก่

  • สะดวก ตัวยาของ radiesse มาในรูปแบบเจลในหลอดพร้อมฉีด
  • นิยม มียอดขายไปทั่วโลกกว่า 15 ล้านไซริงค์
  • ปลอดภัย ทางการแพทย์ได้ใช้งานสาร CaHA มานานกว่า 25 ปี และมีข้อมูลงานวิจัยรับรองกว่า 250 ฉบับ
  • วางใจ radiesse ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ CE Marking, U.S. FDA และอย.ไทย
  • ถูกใจจากผู้ใช้จริง สูงถึง 90% จากผลการสำรวจหลังจากใช้ 1 ปี

Radiesse มีหลักการทำงานอย่างไร ?

หลักการทำงานของ Radiesse filler หลังจากแพทย์ฉีดตัวยาของ radiesse เข้าไปในระนาบใต้ผิว ตัวยาที่มีส่วนประกอบหลักอย่าง CaHA จะเข้าไป กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาส (Fibroblasts) ให้ผลิตคอลลาเจนรอบ ๆ โครงสร้าง หรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้ และเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวในชั้นลึก ปรับให้ผิวดูอิ่มฟู และดูสุขภาพดี เรียบเนียนขึ้น และ ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ในอนาคตได้ 

radiesse มีหลักการทำงานอย่างไร


Radiesse ปลอดภัยไหม ?

Radiesse มีความปลอดภัย และได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ทั่วโลก การฉีด Radiesse จะมีความปลอดภัยมากขึ้น หากฉีดด้วยตัวยาของแท้ และฉีดกับแพทย์ที่ประสบการณ์สูง 

 ✓ Radiesse ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) มาตรฐาน CE (European Conformity) และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.ไทย) 

 ✓ Radiesse มีใช้งานมาอย่างยาวนาน และมีใช้งานทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งได้รับการรับรองว่าเป็นสารที่เข้ากันได้ดีกับร่างกาย และสามารถสลายออกจากร่างกายด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ 

✓ Radiesse มีข้อมูลการวิจัยรองรับ ซึ่งสาร CaHA ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ radiesse มีการใช้งานในด้านการแพทย์มานานกว่า 25 ปี และมีข้อมูลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์กว่า 250 ฉบับ ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารนี้

✓ Radiesse ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน (Non-immunogecin Properties) เพราะสาร CaHA ของ radiesse มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับสาร CaHA ภายในร่างกายของเรา จึงไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม ที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ


Radiesse มีกี่รุ่น ?

radiesse มีกี่รุ่น

Radiesse มี 2 รุ่น บรรจุมาในรูปแบบไซริงค์ปริมาณ 1.5 CC ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีส่วนประกอบเหมือนกัน คือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ไมโครสเฟียร์ (CaHA) 30% และเจลคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (CMC) 70% ทำหน้าที่นำพา CaHA เข้าสู่ตำแหน่งที่ฉีด 

สำหรับความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่น คือ

  • Radiesse Filler ® ไม่มีส่วนผสมของยาชา
  • Radiesse ® (+) หรือ Radiesse ® Plus มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine)

ฉีด Radiesse ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ฉีด radiesse ตำแหน่งไหนได้บ้าง

การฉีด Radiesse filler นิยมฉีดเพื่อเติม Volume ให้กับผิว แก้ปัญหารอยพับ และร่องลึกบนใบหน้า ซึ่งจุดที่นิยมฉีด มีดังนี้

  • ใบหน้า ช่วยเพิ่ม Volume โดยรวมให้ผิว ทดแทนผิวที่ยุบตัว และปรับให้ผิวกระชับขึ้นครับ สามารถใช้แก้ปัญหาริ้วรอย หรือเติมเต็มหลุมสิวตื้น ๆ ได้
  • หน้าแก้ม ช่วยยกกระชับผิวบริเวณหน้าแก้ม จากอายุที่เพิ่มขึ้น ปรับให้ผิวดูเต่งตึง และหน้าดูเด็กลง
  • ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก ริ้วรอยร่องแก้มและร่องน้ำหมากจะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ การฉีด radiesse ช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียน ร่องริ้วรอยดูตื้นขึ้น ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์ 
  • หลังมือ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การสูญเสียไขมันบริเวณหลังมือ ทำให้สามารถมองเห็นเส้นเอ็นและเส้นเลือดได้ชัดเจน หลายคนจึงนิยมฉีด radiesse ที่มือ เพื่อปรับให้ผิวดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ฉีด radiesse ในจุดที่ต้องการความละเอียดอ่อน เช่น ใต้ผิวหนังกล้ามเนื้อรอบดวงตา ร่องระหว่างคิ้ว จมูก ปาก หรือรอบปาก 

แต่ถ้าใครมีความกังวลใจในจุดเหล่านี้ สามารถเลือกทำหัตถการอื่น ๆ ได้ครับ เช่น ฉีดฟิลเลอร์, ทำ Hifu หรือทำ Ulthera เพื่อแก้ปัญหาได้ 


ฉีด Radiesse เหมาะกับใครบ้าง ?

การฉีด Radiesse จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเหล่านี้  

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือรอยเหี่ยวย่น ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ และหลังมือ 
  • ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องมุมปาก
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือมีรูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่เริ่มมีอายุ ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยตามวัย เพิ่มคอลลาเจนให้ผิว ปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์
  • ผู้ที่ผิวหน้าขาดคอลลาเจน ต้องการเพิ่ม Volume ให้กับผิว ปรับให้ผิวดูอิ่มฟู และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต

ข้อควรระวัง การฉีด Radiesse 

การฉีด Radiesse มีข้อควรระวังในบางกลุ่ม เช่น  

  • ผู้ที่ประวัติการแพ้ส่วนประกอบของ radiesse และแพ้ยาชา
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้รุนแรง หรือเคยมีภาวะช็อกจากการแพ้อย่างรุนแรง
  • ผู้ที่ผิวหนังมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูน หรือคีย์ลอยด์สูง
  • ผู้ที่มีการอักเสบ หรือติดเชื้อในผิวหนังตำแหน่งที่จะทำหัตถการ ควรรอให้ผิวกลับเป็นปกติก่อนครับ
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร 

Radiesse เห็นผลเมื่อไหร่ ?

ผลลัพธ์หลังการฉีด radiesse จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

  • ผลลัพธ์ทันที หลังการฉีด radiesse สามารถเห็นผลได้ทันที รู้สึกผิวกระชับ และริ้วรอยดูจางลง 
  • ผลลัพธ์ระยะเริ่มต้น ในช่วง 1 เดือนแรก ตัวยาของ radiesse จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาส และเกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ช่วยซ่อมแซมชั้นผิว และปรับให้ผิวแน่นมากขึ้น
  • ผลลัพธ์ระยะยาว ใน 3-6 เดือน เมื่อโครงสร้างผิวมีคอลลาเจนหนาแน่น และมีความแข็งแรงมากขึ้น จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเต็มที่ว่า ผิวยกกระชับ ยืดหยุ่น และมีสุขภาพดีคล้ายผิวเด็ก โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

หลังฉีด Radiesse ดูแลตัวเองอย่างไร ?

หลังฉีด radiesse ดูแลตัวเองอย่างไร

หลังฉีด radiesse สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยมีแนวทางการดูแลตัวเองที่แนะนำ เพื่อช่วยยืดอายุผลลัพธ์หลังฉีด ดังนี้

  • หลังฉีด radiesse สามารถพบอาการบวมเล็กน้อยเป็นปกติ สามารถยุบได้เองใน 72 ชั่วโมง แนะนำให้หลีกเลี่ยงการจับ แตะ ลูบในจุดที่ฉีด
  • งดแต่งหน้า 12 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายสนิท
  • งดหัตถการความร้อนสูง และซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หากรู้สึกมีก้อนใต้ผิวหนัง สามารถกดนวด เพื่อลดอาการได้ครับ
  • ในบางคนหลังฉีดอาจมีรอยช้ำ หรือรอยแดงในบริเวณที่ฉีด เป็นอาการที่สามารถพบได้เช่นกัน เพราะการฉีด radiesse จะฉีดกระจายไปทั่วใบหน้า สามารถประคบเย็น ทาและกินยาที่ช่วยลดอาการช้ำได้ 
  • หากมีการตรวจรักษาร่างกายอื่น ๆ ในจุดที่ฉีด radiesse แนะนำให้แจ้งแพทย์ที่ทำการรักษา

สรุป

Radiesse เป็นนวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน และฟื้นฟูสุขภาพผิวจนถึงระดับโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยปรับให้ผิวมีความยืดหยุ่นได้ อ่อนเยาว์คล้ายผิวเด็ก ถือเป็นตัวช่วยที่ดี สำหรับผู้ต้องการลดอายุผิว คงความอ่อนเยาว์ของผิวให้ยาวนานขึ้น    

ผู้ที่สนใจ ก่อนการฉีด radiesse แนะนำให้ทุกคนศึกษาข้อมูลของหัตถการให้ครบถ้วน รวมถึงให้ความสำคัญกับการเลือกคลินิกความงามที่มีใบอนุญาตถูกต้อง เช็กตัวยา Radiesse ของแท้ และฉีดกับแพทย์ประสบการณ์สูง เพื่อให้ได้รับการบริการที่ปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ