![silicone gel - ซิลิโคนเจล ยารักษารอยแผลเป็นให้จางลงได้ ซิลิโคนเจล รักษาแผลเป็น](https://amprohealth.com/wp-content/uploads/2024/04/silicone-gel-1024x683.jpg)
อาการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก มีหลายสิ่งรอบตัวที่ล้วนทำให้เกิดแผลเป็นได้ เช่น อุบัติเหตุต่าง ๆ, การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด, การเป็นสิว เป็นต้น
สำหรับอาการบาดเจ็บบนผิวหนังที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมจะนำมาซึ่งปัญหาของการมีรอยแผลเป็นที่คอยทำลายความมั่นใจในบุคลิกของตนเองยามเมื่อปรากฏบนส่วนที่สำคัญของร่างกาย เช่น ใบหน้า ลำคอ แขน ขา ทำให้ดูไม่สวยงามและอาจเกิดอาการคันอีกด้วย
แต่การดูแลรักษาเบื้องต้นที่เหมาะสมก็สามารถช่วยรักษาแผลเป็นให้จางลง ยกตัวอย่างเช่น การใช้ซิลิโคนเจล ที่จะช่วยลบรอยแผลเป็นบนผิวหนัง ซึ่งมันมีสรรพคุณอะไร และมีวิธีอะไรอีกบ้างที่ช่วยลบรอยแผลเป็นได้ หาคำตอบได้จากบทความนี้
สารบัญบทความ
- การปฐมพยาบาลสำหรับแผลหลายประเภท
- รอยแผลเป็นคืออะไร เกิดได้อย่างไร
- รักษารอยแผล ด้วยวิธีใด เหมาะกับแผลประเภทไหน
- สรุปประโยชน์จากซิลิโคนเจล
การปฐมพยาบาลสำหรับแผลหลายประเภท
การรักษาแผลเป็นที่ดีที่สุด คือ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่รอยจะลุกลามจนกลายเป็นรอยแผลเป็น ซึ่งตัวการที่ไปเร่งให้เกิดรอยแผลเป็น คือ อาการแผลติดเชื้อ,รับประทานอาหารปรุงไม่สุก, อาหารหมักดอง, สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งต้องระมัดระวัง หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
การรักษาความสะอาดเป็นขั้นตอนแรกของการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่จะช่วยให้แผลหายไวยิ่งขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการอักเสบที่ทำให้หายยากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ๆ ในช่วงที่มีแผลใหม่ภายในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกแผลจะได้ไม่เกิดการปริแตก สุดท้ายเมื่อแผลหายสนิทก็สามารถใช้ซิลิโคนเจลรักษาหากเกิดรอยแผลเป็นขึ้น
ซึ่งแผลก็มีอยู่หลายแบบ โดยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับรอยแผลต่าง ๆ มีดังนี
แผลถลอก
ทำให้เกิดเป็นแผลเป็นทั่วไป ช่วงแรกจะมีสีคล้ำแต่สุดท้ายก็จะกลับมาเรียบเนียน และจางลงเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่านไปจนกลายเป็นแผลเป็นที่ดูไม่เด่นชัดนัก การดูแลรักษาให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ ทาครีมทาแผลเป็นรอยดำ
แผลจากความร้อน (ไฟไหม้ ท่อไอเสีย น้ำร้อนลวก)
แผลที่มีสาเหตุมาจากความร้อน เช่น ไฟไหม้ ท่อไอเสีย น้ำร้อนลวก จะทำให้ผิวหนังที่อยู่รอบบาดแผลเกิดการหดตัวและดึงรั้ง มีลักษณะเป็นรอยแผลขรุขระ ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ดูคล้าย ๆ กับถูกดึงรั้ง การใช้แผ่นแปะซิลิโคนเจลบนแผลเพื่อรักษาความชุ่มชื้นสามารถลดรอยแผลเป็นให้จางลงได้
แผลจากของมีคม
แผลที่เกิดจากของมีคม เช่น แผลผ่าตัด จะมีลักษณะนูนขึ้นมาจากพื้นผิวหนังระดับปกติ เพราะคอลลาเจนถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากเกินไป แต่ขอบเขตการเกิดนั้นจะเป็นไปในขอบเขตของบาดแผลเท่านั้น เราควรป้องกันการติดเชื้อ ทำความสะอาดรักษาแผลจนหายสนิทก่อนที่จะใช้ยาซิลิโคนเจลเพื่อทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็กลงและดูกลมกลืนกับผิวมากที่สุด
แผลจากสัตว์เลี้ยง
การปฐมพยาบาลขั้นต้นหลังสัตว์เลี้ยงกัดก็คือการล้างแผลจนสะอาด แล้วทำการสำรวจความรุนแรงของแผล โดยระดับความรุนแรง ประเมินได้ดังนี้
- แผลไม่รุนแรง ให้ใช้ครีมทาแผลฆ่าเชื้อแล้วปิดแผล ควรทำแผลทุกวันจนหาย
- แผลไม่ใหญ่มาก แต่มีอาการปวด หลังล้างแผลทำความสะอาด ให้รีบไปพบแพทย์
- แผลฉีกขาดเลือดเยอะ ควรล้างแผลทำความสะอาด ห้ามเลือดแล้วรีบไปพบแพทย์
รอยแผลเป็นเกิดได้อย่างไร
รอยแผลเป็นนั้นเกิดจากกระบวนการตามธรรมชาติเมื่อผิวหนังได้รับบาดเจ็บก็จะมีการสมานและปิดแผลเพื่อแทนที่ผิวบาดเจ็บหรือเสียหาย รอยแผลเป็นจะเกิดในช่วงที่มีการปรับสภาพหลังแผลปิดสนิทประมาณ 2-3 สัปดาห์ จำนวนคอลลาเจนที่ไม่เป็นระเบียบและมีจำนวนมากจะทำให้เส้นใยไม่ยืดหยุ่นเพียงพอจึงเกิดเป็นรอยแผลเป็น
นอกจากนี้แล้วรอยแผลเป็นยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิดดังนี้
- แผลเป็นปกติ (normal) มีลักษณะเรียบ ซีด จะค่อย ๆ จางลงตามเวลา
- แผลเป็นที่มีลักษณะโตนูน จะมีอยู่ 2 แบบคือ แผลเป็นนูนเกิน (hypertrophic scar) และแผลเป็นคีลอยด์
- แผลเป็นที่ลึกบุ๋มลงไป (depressed scar) มีลักษณะเป็นร่องหรือรูบุ๋มลงไปใต้ผิวหนัง
- แผลเป็นที่มีการหดรั้งร่วมด้วย (scar contracture) ลักษณะของแผลจะดึงรั้งผิวโดยรอบให้ดูผิดรูป
รอยแผลเป็นที่กล่าวเบื้องต้นนี้สามารถทำให้ลดเลือน เรียบเนียน จางลงได้ทั้งนี้ขึ้นกับขนาด และความลึก แต่ไม่สามารถทำให้หายไปหมดได้ การรักษาแผลเป็นอาจทำได้ด้วยตัวเองโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรอยแผลเป็นที่มีขายในท้องตลาด เช่นซิลิโคนเจลที่เป็นทั้งแผ่นแปะและยาทานั่นเอง
รักษารอยแผล ด้วยวิธีใด เหมาะกับแผลประเภทไหน
เพื่อจะได้ลบรอยแผลเป็นที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การผ่าตัด ทำเลเซอร์ อุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นสิว ฯลฯ คนไข้สามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งในการรักษาแผลเป็นที่เราจะมาแนะนำให้รู้จักดังต่อไปนี้เพื่อเป็นการลดรอยแผลเป็น หรืออาจเป็นหลาย ๆ วิธีร่วมกันได้
โดยทั่วไปแล้วถ้าบาดแผลเกิดลึกถึงชั้นหนังแท้ หรือเป็นแผลติดเชื้อถึงชั้นหนังแท้ ก็อาจจะทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นได้ สำหรับวิธีลดรอยแผลเป็น จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าสามารถใช้ซิลิโคนเจลได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธี โดยสามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะสมกับแผลซึ่งเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน หรืออาจใช้หลายวิธีร่วมกันก็ได้เพื่อให้รอยแผลจางลงให้มากที่สุด
การเลเซอร์แผลเป็น (Laser therapy)
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แพทย์ต้องเป็นผู้รักษาด้วยการยิงเลเซอร์ส่งพลังงานความร้อนผ่านชั้นผิวลงไปทำลายเนื้อเยื่อที่นูนขึ้นมาให้เรียบขึ้น
การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Intralesional corticosteroid)
เป็นวิธีลดรอยแผลเป็นนูนใหญ่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยแพทย์จะเป็นผู้ฉีดยาสเตียรอยด์ไปยังแผลนูนโดยตรง ตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะช่วยลดอาการอักเสบที่ทำให้เกิดแผลคีลอยด์ได้ ช่วยให้แผลนุ่ม ยุบ และแบนราบในที่สุด วิธีนี้จะเห็นผลก็ต่อเมื่อทำภายใน 1 ปีหลังจากบาดเจ็บมีแผลการใช้งาน : ควรฉีดประมาณ 1 ครั้งต่อเดือน ความถี่จะขึ้นอยู่กับอาการตอบสนองของยา
การผ่าตัดแผลเป็น
การใช้วิธีผ่าตัดเป็นการลดรอยแผลเป็นเพื่อให้ดูดีขึ้น สำหรับการผ่าตัดนั้นทำได้ 2 วิธีคือ ผ่าตัดออกเป็นเส้นตรง หรือตัดออกเป็นรูปซิกแซกเพื่อเอาแผลเก่าออกแล้วเย็บเป็นแผลใหม่อีกครั้ง หรือ ผ่าตัดเพื่อลดขนาดของแผลเป็นให้เล็กลง อาจมีการผ่าตัดมากกว่า 1 ครั้งก็ได้ ปกติแล้วจะใช้ร่วมกับการฉีดยา หรือปิดด้วยแผ่นซิลิโคนเจลแผ่นก็ได้
การใช้แผ่นซิลิโคนเจล (Silicone gel sheet)
เป็นวิธีรักษาแผลเป็นด้วยการปิดแผ่นซิลิโคนเจลบนแผลที่ปิดสนิทแล้ว หรือหลังจากที่ได้ตัดไหมเรียบร้อยแล้ว วิธีนี้จะช่วยรักษาความชุ่มชื้น ลดอาการอักเสบ ลดการสร้างคอลลาเจนของเซลล์ผิวหนังที่เป็นสาเหตุให้เกิดเป็นรอยแผลนูนเกิน ทั้งยังสามารถปรับสีของผิวบริเวณแผลเป็นให้จางลง และแบนราบลงได้ด้วย
การใช้งาน : ให้แปะแผ่นซิลิโคนเจลต่อเนื่องอย่างน้อยวันละ 12 ชั่วโมงเป็นเวลานานอย่างน้อย 6-12 เดือน
การใช้ผลิตภัณฑ์ซิลิโคนเจลลดรอยแผลเป็น
ผลิตภัณฑ์ซิลิโคนเจลที่เป็นยาทารอยแผลเป็นนั้นเป็นได้ทั้งเจลทาแผลเป็น และครีมทาแผลเป็น การดูแลด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายสะดวกสบายเพราะหาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป มีวิธีการใช้ง่าย การพกพาก็สะดวก เพียงแต่ต้องเลือกซื้อซิลิโคนเจลที่เหมาะกับแผลเป็นที่มีด้วย
การใช้งาน : ให้ทาต้องทาเช้าเย็นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6-12 เดือนหลังแผลหาย
สรุปประโยชน์จากซิลิโคนเจล
สำหรับซิลิโคนเจลนั้นไม่ว่าจะเป็นยาทารอยแผลเป็นหรือแบบแผ่นแปะก็จะมีคุณสมบัติเหมือน ๆ กันคือ ช่วยรักษารอยแผลเป็นนูนให้แลดูเรียบเนียนขึ้น ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยลดความเจ็บปวดได้ เพียงแต่ว่าแบบชนิดทาสามารถลดอาการคันได้ดีกว่าแบบแปะ นอกเหนือจากนี้ควรดูแลแผลให้สะอาดและชุ่มชื้นอยู่เสมอ ห้ามกด บีบ แคะตุ่มสิว