ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 11,000-18,000.-/1 cc ถือว่าราคามีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ครับ เพราะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างหลากหลายและเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? ทำไมแต่ละคลินิกราคาต่างกัน ? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? ยี่ห้อไหนที่ได้รับความนิยม ? ราคาเท่าไหร่ ? สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
เริ่มต้นทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนอื่นอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ใต้ตากันให้มากขึ้นครับว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? เนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับเติมใต้ตาเป็นแบบไหน ? เพื่อที่จะได้เข้าใจการเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ ยี่ห้อฟิลเลอร์ ซึ่งจะมีผลต่อราคาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under-eye filler) คือ หัตถการทางการแพทย์ที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตา เช่น ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา เบ้าตาลึกด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid หรือ HA ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเรา เข้าไปยังบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เห็นผลไว ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับเติมใต้ตา
ฟิลเลอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามคุณสมบัติของฟิลเลอร์ คือ ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โดยเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่นกับฟิลเลอร์เนื้อละเอียดครับ
- ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะกับเติมใต้ตาชั้นลึกในเคสที่มีปัญหากระดูกใต้ตายุบตัว ช่วยทดแทนในส่วนของผิวที่ยุบตัวลง
- ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับเติมใต้ตาชั้นตื้นในเคสที่มีปัญหาใต้ตาบริเวณข้างเคียงร่วมด้วย ช่วยเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ รอบเบ้าตา ให้ดูเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
การเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับระดับปัญหาใต้ตาของคนไข้ บางเคสอาจต้องใช้เนื้อฟิลเลอร์ทั้งสองชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ 11,000.-/ 1 cc ขึ้นอยู่กับปัญหา ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และประสบการณ์ของแพทย์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาขึ้นอยู่กับอะไร ? ทำไมแต่ละคลินิกราคาต่างกัน ?
ทำไมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาแต่ละคลินิกต่างกัน ? ราคาขึ้นอยู่กับอะไร ? แบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยดังนี้ครับ
- ระดับปัญหาใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ? ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาใต้ตาของเรา แพทย์จะเป็นผู้ประเมินเป็นรายเคสไปครับ โดยทั่วไปแล้วจะใช้อยู่ที่ประมาณ 2-4 cc หรือถ้ามีปัญหาน้อยใช้ 1 cc ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้แล้วครับ แต่ถ้ามีปัญหาในระดับมาก เช่น กระดูกใต้ตาทรุดตัวลงมาก ๆ ก็อาจจะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากกว่านั้น ราคาก็จะสูงขึ้นตามจำนวน cc ที่ใช้
- รุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้
ด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการการผลิตที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติเด่นและอายุการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งมีตั้งแต่ 6-24 เดือน จึงมีส่วนให้ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีราคาที่ต่างกัน
- เทคนิคการฉีดและประสบการณ์ของแพทย์
หลายคนอาจเกิดความสงสัยครับว่า ทำไมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีราคาสูงกว่าการฉีดจุดอื่นอย่างบริเวณร่องแก้ม ขมับ
เพราะว่าใต้ตาเป็นจุดที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ที่ฉีดจึงต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์หลากหลายเคส สามารถวิเคราะห์ปัญหา ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม และมีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์จึงส่งผลต่อราคาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ครับ
สรุปแล้วหากใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาของแต่ละคลินิกจะไม่ต่างกันมากครับ
หากเจอคลินิกที่มีราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ถูกเกินไปถึงแม้ว่าอยู่ในช่วงโปรโมชัน แนะนำว่าควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่า คลินิกแห่งนั้นใช้ฟิลเลอร์ของแท้หรือว่าฉีดโดยแพทย์จริงหรือไม่ เพราะอาจจะใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์จริง มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมาหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้เลยครับ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้รับความนิยม มียี่ห้อไหนบ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ?
ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับเติมใต้ตา จะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 3 ยี่ห้อ คือ Juvederm Restylane และ Belotero เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ดังที่คลินิกมาตรฐานชั้นนำหลายแห่งนิยมใช้กันครับ ได้รับรองจากอย.อเมริกา และอย. ไทย มีความปลอดภัยสูง โดยแต่ละรุ่น/ยี่ห้อมีราคาดังนี้
ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ | ระยะเวลา | ราคา / 1 cc |
Juvederm Voluma | 18 เดือน | 14,000 บาท |
Juvederm Volite | 8-12 เดือน | 14,000 บาท |
Juvederm Volux | 18-24 เดือน | 18,000 บาท |
Restylane Vital light | 6-12 เดือน | 14,000 บาท |
Restylane Perlane lyft | 12 เดือน | 14,000 บาท |
Restylane Defyne | 18 เดือน | 14,000 บาท |
Restylane Classic | 12 เดือน | 14,000 บาท |
Belotero Volume | 18 เดือน | 11,000 บาท |
Belotero Revive | 6-9 เดือน | 14,000 บาท |
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้เห็นผลชัดเจน ปลอดภัย มีขั้นตอนอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นาน โดยขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายมีดังนี้ครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา วิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน และวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ของแต่ละยี่ห้อเพื่อความปลอดภัยครับ
- งดยาแอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
การประเมินปัญหาก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้จะได้เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและแจ้งความต้องการของคนไข้ รวมถึงหากมีประวัติการแพ้ ยาที่แพ้หรือโรคประจำควรเตรียมข้อมูลไว้แจ้งแพทย์ด้วยครับ
โดยแพทย์จะเริ่มทำการประเมินสภาพผิวและระดับปัญหาใต้ตาของคนไข้ เพราะปัญหาใต้ตาเกิดได้จากสาเหตุครับ บางเคสอาจทำหัตถการอื่นแล้วเห็นผลชัดเจนกว่า หรือต้องทำหัตถการอื่นร่วมด้วย แต่ถ้าหากประเมินแล้วว่าปัญหาใต้ตาของคนไข้สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ได้ แพทย์จะทำการเลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณที่ควรใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ทำความสะอาดใบหน้า
- แปะยาชาและรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที
- ก่อนทำการฉีด แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า คนไข้สามารถตรวจสอบได้
- แพทย์เริ่มฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยขณะฉีดต้องอยู่ในท่านั่งหรือนอนเอียงที่ระดับหัวอยู่สูงกว่าหัวใจ เพื่อไม่ให้เลือดออกมาก
- แพทย์แนะนำข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อลดอาการบวม ป้องกันอาการอักเสบ และให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้ไว
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำครับ โดยอาจมีอาการบวมในจุดที่ฉีดเป็นปกติ ให้เลี่ยงการกด นวด ถูบริเวณใต้ตา อาการเหล่านี้จะหายได้เองใน 7-14 วัน
- ควรอยู่ในที่มีอากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้อาการบวมให้ช้าลง
- งดเลเซอร์ร้อนลงชั้นผิวเป็นเวลา 1 เดือน
- ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ ประมาณ 1.5-2 ลิตร/วัน จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำฟูสวยและอยู่ได้นานขึ้น
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลมากแค่ไหน ?
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 2-4 cc เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ และจะเห็นผลได้อย่างเต็มที่หลังทำ 2 สัปดาห์ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้ว
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 2 cc + Midface 1 cc รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 cc
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 cc รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 4 cc + ร่องแก้ม 2 cc
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาต่างจากการทำหัตถการแบบอื่นไหม ?
- โบท็อกใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,999.- ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกและปริมาณยูนิตที่ใช้ แต่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาได้เพียงอย่างเดียว ถ้าหากมีถุงใต้ตาไม่แนะนำให้ใช้โบท็อกครับ เพราะจะยิ่งทำให้บริเวณใต้ตากล้ามเนื้อหย่อนลง เห็นถุงใต้ตาได้ชัดมากขึ้น
- Hifu Ultraformer ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 9,900.- สามารถช่วยยกกระชับผิวรอบดวงตาที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น โดยใช้เวลาเห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน สำหรับปัญหาถุงใต้ตา Hifu สามารถช่วยยกกระชับได้แต่จะเห็นผลไม่ชัดเจนเท่าการฉีดฟิลเลอร์
- Thermage ริ้วรอยรอบดวงตา ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 29,999.- สามารถช่วยยกกระชับผิว ลดไขมันบริเวณถุงใต้ตาได้เล็กน้อย และมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ดังนั้นหากจะทำเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาเพียงอย่างเดียว อาจไม่คุ้มค่าครับ
- เลเซอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2000.-/ครั้ง สามารถช่วยทำลายเม็ดสี ปรับสภาพผิวบริเวณใต้ตาให้กลับมาสว่างขึ้นได้ แต่อาจจะมีอาการเจ็บปวดระหว่างทำ และจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกได้ครับ
- ฉีดไขมันใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000.- คล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ครับ แต่เป็นการใช้ไขมันตัวเองที่ดูดมาจากบริเวณอื่น ข้อดีคือมีโอกาสแพ้ได้น้อยเพราะใช้ไขมันตัวเอง แต่ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยอาจต้องทำหลายครั้งถึงเห็นผลชัดเจน หรือเสี่ยงผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบได้
- ผ่าตัดถุงใต้ตา ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 18,000.- เป็นการผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาออก ช่วยให้ถุงไขมันใต้ตาลดลง ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่หลังทำจะมีอาการบวมช้ำ หรือเกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อได้หากไม่ได้ดูแลอย่างถูกวิธี รวมถึงต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานครับ
ทั้งฟิลเลอร์ใต้ตา และหัตถการความงามข้างต้นล้วนมีจุดเด่น จุดด้อยที่ต่างกันครับ ราคาก็มีความต่างกันไป จะเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีไหนดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหา ประเมินรูปหน้า และแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคนไข้ครับ
สรุป
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรศึกษาข้อมูล และเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ราคามีความสมเหตุสมผล ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะทำให้ได้ผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัย