โบท็อก

การฉีดโบท็อกคือวิธีลดริ้วรอยที่ได้รับความนิยม และเป็นหัตถการความงามที่หลายคนเลือกทำเป็นอันดับแรก ๆ ครับ เราสามารถเริ่มฉีดโบท็อกได้ตั้งแต่อายุยังน้อยหรือช่วงที่เริ่มมีริ้วรอย จะช่วยให้ผิวเต่งตึง ลดการพับของผิว และชะลอการเกิดริ้วรอยได้อนาคตได้ครับ

ในบทความนี้หมอจะอธิบายว่า โบท็อกต่างจากฉีดฟิลเลอร์อย่างไร ช่วยอะไรบ้าง ? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?  และต้องใช้กี่ unit ราคาเท่าไร ยี่ห้อไหนดี  ระยะเวลาว่าหลังฉีดแล้วกี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม โบท็อกแท้ดูอย่างไร ? 

รวมถึงหากมีแพ้โบท็อก ดื้อโบท็อก ทำอย่างไร  ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ก่อน – หลังฉีดดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อยู่ได้นานที่สุด 


โบท็อก

ริ้วรอยเป็นสิ่งที่คนเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับริ้วรอยบนใบหน้า มักจะเกิดจากการที่เมื่อเราแสดงสีหน้า กล้ามเนื้อจะมีการหดตัวและคลายออก ทำให้เห็นเป็นสีหน้าต่าง ๆ เช่น เวลายิ้ม เวลาโกรธ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ สูญเสียอีลาสติน คอลลาเจน ผิวแห้งและไม่มีความยืดหยุ่น ก็จะส่งผลให้เวลาแสดงสีหน้า ผิวเกิดรอยยับ รอยย่น หากปล่อยทิ้งไว้ริ้วรอยเหล่านี้ก็จะลึกขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

การฉีดโบท็อก ตัวยาจะเข้าไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) โดยจับกับสารสื่อประสาทเพื่อยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณ ลดการหลั่งสารอะเซติลโคลีน (acetylcholine) ซึ่งจะทำให้การหดตัวของกล้ามเนื้อลดลง เมื่อกล้ามเนื้อไม่เกิดการหดตัว ผิวชั้นบนก็จะไม่พับลงตามเวลาเราแสดงสีหน้า ริ้วรอยต่าง ๆ ก็จะจางลงไป ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง


โบท็อก คือ การฉีดสารพิษเข้าร่างกาย จริงไหม ?

โบท็อกไม่ใช่สารพิษครับ Botox เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ซึ่งจริง ๆ มีหลายชนิด แต่ตัวที่นำมาใช้ในการเสริมความงามคือ Botulinum Toxin Type A ฉีดแล้วมีความปลอดภัย ผ่านการวิจัยพัฒนา ทำให้ได้ตัวยาที่ปลอดภัย มีคุณภาพ สามารถใช้ได้ทั้งการฉีดเพื่อความงาม และฉีดเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ  

การออกฤทธิ์ของโบท็อก

โบท็อกเป็นโปรตีนในน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อ ส่วนที่ 1 จะถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์ประสาทและออกฤทธิ์ ส่วนที่ 2 จะไม่ถูกดูดซึมและปลิวออกไปตามกระแสเลือด และขับออกจากร่างกาย


จริง ๆ แล้ว โบท็อก คืออะไร ช่วยอะไรกันแน่ ?

โบท็อกซ์ (Botox) เมื่อฉีดไปแล้วตัวยาจะทำงานกับระบบประสาท มีการออกฤทธิ์ยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ หมายความว่าสามารถออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อได้ทุกจุดที่ฉีดในร่างกายครับ ไม่จำเป็นต้องใช้กับการลดริ้วรอยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หมอสรุปประโยชน์ของโบท็อกเป็นข้อ ๆ ดังนี้

  • ฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย
  • ฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม 
  • ฉีดโบท็อกเพื่อลดกล้ามแขน น่องขา
  • ฉีดโบท็อกเพื่อลดเหงื่อ (รวมถึงภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือรักแร้)
  • ฉีดโบท็อกเพื่อรักษาโรคทางระบบประสาท กล้ามเนื้อ เช่น ไมเกรน ปวดต้นคอหรือหลัง (Office  Syndrome) ตากระตุก หน้ากระตุก ปากเบี้ยว คอบิด หรือภาวะการกัดฟัน 

Filler กับ Botox กับความเข้าใจที่ผิด ๆ

หลายคนอาจเข้าใจว่าฟิลเลอร์กับโบท็อก ใช้ลดริ้วรอยได้เหมือน ๆ กัน แต่จริง ๆ แล้ว ประเภทของริ้วรอยที่เหมาะกับแต่ละหัตถการ และจุดประสงค์ในการฉีดต่างกันครับ

โบท็อก  เหมาะฉีดลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า (Dynamic line) เช่น ริ้วรอยหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว รอยตีนกา ริ้วรอยหางตา และสามารถฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ เช่น ลดกราม ลดกล้ามแขน น่อง

ฟิลเลอร์ : เหมาะฉีดลดริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสีย elastin, collagen, hyaluronic acid (Static line) หรือ ริ้วรอยที่เกิดจากการที่โครงสร้างผิวทรุดตัว ทำให้เกิดเป็นร่องลึก ผิวหนังหย่อนคล้อย เช่น ร่องใต้ตา ถุงใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก และยังนิยมใช้ฉีดปรับรูปหน้า เสริมคาง หน้าผาก ปาก ขมับ 

ทั้งนี้หากต้องการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ไม่จำเป็นต้องเลือกทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง สามารถทำทั้งฟิลเลอร์และโบท็อกร่วมกันได้ จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ


ฉีดโบท็อก อันตรายไหม ? 

การฉีดโบท็อกไม่อันตรายครับ หากฉีดโบท็อกในคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้ตัวยาแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง แต่ก็จะมีข้อห้ามสำหรับคนที่โรคประจำตัวซึ่งส่งผลต่อการฉีดโบท็อก ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อในการกลืน
  • ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น amyotrophic lateral sclerosis (ALS) /Lou Gehrig’s disease / myasthenia gravis / Lambert-Eaton syndrome
  • ผู้ที่กำลังมีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อก

ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อก ที่คลินิกก็จะมีการสอบถามประวัติ โรคประจำตัว และยาที่รับประทานประจำ เพื่อประเมินว่าสามารถฉีดโบท็อกได้หรือไม่

ฉีดโบท็อก อันตรายไหม


โบท็อกปลอม ดื้อโบท็อก อันตรายกว่าที่คิด ?

ขอแยกเป็น 2 กรณีครับ 1. โบท็อกปลอม อันนี้แปลว่าเป็นตัวยาที่ไม่ใช่ Botulinum Toxin เช่น ฉีดน้ำเกลือให้ แต่หลอกว่าเป็นโบท็อก ซึ่งก็จะไม่เห็นผลครับ หากกรณีร้ายแรงที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของสารที่นำมาฉีด ก็อาจจะเกิดอันตรายร้ายแรงได้ เช่น อักเสบ ติดเชื้อ 

กรณีที่ 2. โบท็อกหิ้ว หลายคนยังคิดว่าก็คงเหมือน ๆ กับโบท็อกทั่วไป คือเป็นโบท็อกแท้ แต่ลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจะไม่ผ่านการตรวจสอบจากอย. ไม่รู้ที่มาที่ไปของสารประกอบที่อยู่ในตัวยา นอกจากนี้การนำเข้าโดยแอบเอาใส่กระเป๋าเดินทางมาทำให้ไม่ได้เก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ตัวยาเสื่อมคุณภาพ เห็นผลไม่เต็มที่หรืออยู่ได้สั้นลง ต้องฉีดบ่อย ๆ และเพิ่มความเสี่ยงการดื้อโบท็อกได้ครับ

ผลจากการฉีดโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ที่ไม่ได้มาตรฐาน

  • ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล เช่น กรามไม่เล็กลง ริ้วรอยไม่หายไป 
  • ตัวยาออกฤทธิ์น้อย หมดฤทธิ์ไว
  • ตัวยากระจายโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น ทำให้หนังตาตก ปากเบี้ยว
  • ความไม่บริสุทธิของตัวยา ทำให้เสี่ยงต่อการแพ้ อักเสบ ติดเชื้อ
  • ต้องฉีดโบท็อกบ่อยขึ้น เสี่ยงต่อการดื้อโบท็อก (อาการดื้อโบท็อก ปัจจุบันยังไม่มีทางรักษา)

ดื้อโบท็อก


วิธีตรวจสอบยาโบท็อกของแท้ แต่ละยี่ห้อ ?

  • โบท็อกแท้ต้องมีฝาพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบน หมอต้องแกะกล่องใหม่ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  • มีตัวหนังสือภาษาไทยแสดงเลขที่อย. มีวันผลิตและวันหมดอายุที่กล่องกับขวดตรงกัน
  • มีข้อมูลระบุว่านำเข้าโดยบริษัทใด สามารถตรวจสอบชื่อคลินิกกับบริษัทนำเข้าได้

ฉีดโบท็อก ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ฉีดโบท็อก ตำแหน่งไหนได้บ้าง แต่ละตำแหน่งใช้กี่ Unit

การฉีดโบท็อกหลัก ๆ ที่นิยมจะเป็นการฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า และปรับรูปหน้าลดกรามครับ ส่วนอื่น ๆ จะเป็นเรื่องของการฉีดเพื่อลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน รวมถึงฤทธิ์ของโบท็อกยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน หรือออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยครับ


โบท็อก ยี่ห้อไหนดี ?

โบท็อกแต่ละยี่ห้อ จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีการผลิตครับ หมอจะประเมินและแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคน 

โบท็อกอเมริกา (Allergan)

มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด (3,500 งานวิจัย since 1989) จุดเด่นคือมีการพัฒนามาเพื่อทำให้เกิดโอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ โบท็อกยี่ห้อ Allergan ยาจะกระจายตัวแคบที่สุด หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีที่สุด

โบท็อกเกาหลี (Nabota/Astox/Neuronox)

Nabota Botox ได้รับความนิยมมากในประเทศไทยครับ เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา (U.S.FDA approved 2018) จุดเด่นคือเน้นพัฒนาให้ตัวยาออกฤทธิ์ไว เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลโบท็อกแบบเร่งด่วน

Aestox เป็นโบท็อกที่พยายามพัฒนาให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไว แต่คงผลลัพธ์ได้สั้นกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่นเล็กน้อย แต่ราคาไม่สูงเท่า เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลไว และมีงบประมาณจำกัด

Neuronox เป็นโบท็อกที่ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ยากระจายตัวแคบ ฉีดแล้วเห็นผลดี และลดโอกาสของการดื้อยาได้ ถือว่าเป็นโบท็อกเกาหลี ที่แพทย์และคลินิกความงามทั่วประเทศให้การยอมรับถึงประสิทธิภาพ มีงานวิจัยรองรับ ในราคาที่เข้าถึงได้

โบท็อกอังกฤษ (Dysport)

โบท็อก Dysport จุดเด่นคือยากระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ เหมาะกับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง ที่มีพื้นที่กว้าง และเหมาะกับการฉีดโบท็อกด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้า 

ในการฉีด Dysport ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีความระมัดระวังสูงในการฉีด เพราะยากระจายตัวกว้าง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ยากระจายตัวไปโดนกล้ามเนื้อมัดที่ไม่ต้องการ ทำให้ตาตก ปากเบี้ยวหรือยิ้มไม่สุด

โบท็อกเยอรมัน (Xeomin)

จะเน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan และ Dysport มารวมกัน โดยคุณสมบัติต่าง ๆ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างอเมริกากับอังกฤษครับ ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงและไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ฉีดแล้วหน้าไม่ดูแข็งตึง นอกจากนี้คือมีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อโบท็อก ฉีดแล้วได้ผล (โดยที่เคสนั้น ๆ ต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)


ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ให้เห็นผลและปลอดภัยพิจารณาอะไรบ้าง ?

  • เลือกคลินิกได้มาตรฐานตาม ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และแสดงใบอนุญาตอย่างชัดเจน สังเกตได้ง่าย
  • เป็นแพทย์จริง สามารถนำชื่อ-นามสกุล เข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ของแพทยสภาได้ และมีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อก 
  • มีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถลบหรือแก้ไขได้ เช่น Facebook Review, Pantip
  • ใช้โบท็อกแท้ ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ ก่อนฉีดหมอแกะกล่องใหม่ ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  • มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถปรึกษาหมอได้โดยตรง และมีการแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

โบท็อก ราคา

โบท็อก ราคาจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ ปริมาณโบท็อกที่ใช้ และจุดที่ฉีดครับ ถ้าเป็นโบท็อกฝั่งอเมริกา ยุโรป ก็จะมีราคาสูงกว่าโบท็อกเกาหลี 

ส่วนปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขครับ เช่น ลดกรามหน้าเรียว ราคาจะอยู่ที่ 6,999/100 U หรือ ฉีดลดริ้วรอยทั่วหน้า ปรับหน้าเรียว ราคาจะอยู่ที่ 9,000/100 U แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ช่วยประเมินและเลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมกับปัญหารวมถึงงบประมาณของแต่ละคนครับ


ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม กี่เดือนต้องฉีดซ้ำ ?

ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล

  • หลังฉีดโบลดริ้วรอย โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์ หลังฉีด 3-4 วัน คนไข้จะรู้สึกตึง ๆ ที่หน้า และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ 
  • หลังฉีดโบลิฟท์กรอบหน้า เหนียง คอ โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์ หลังฉีด 3-4 วัน ผิวจะเริ่มตึงกระชับขึ้น และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์
  • หลังฉีดโบลดกราม โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์ หลังฉีด 14 วัน คนไข้จะรู้สึกว่ากรามเริ่มนิ่ม และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน

โบท็อกจะอยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคนร่วมด้วย) หากผลของโบท็อกเริ่มคลาย สามารถฉีดเพิ่มได้ครับ แต่ไม่ควรฉีดถี่เกินไป ขั้นต่ำควรเว้น 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างนานเกินไป (เกิน 5-6 เดือน) เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานปกติ และอาจจะต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้นในการฉีดเพื่อให้เห็นผล


สำคัญ ! ห้ามทำหลังฉีดโบท็อก

หลังฉีดโบท็อก

  • หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3 ชม. งดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกย่อยสลายไว คือความร้อน และการไหลเวียนของเลือด (Metabolism)
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก งดสูบบุหรี่
  • งดอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า ผลไม้ดอง
  • งดอาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง หรือต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ

ทั้งนี้แนะนำให้งดในช่วง 2 สัปดาห์แรกสำคัญที่สุดครับ เพื่อให้ตัวยาได้ออกฤทธิ์เต็มที่ หลังจากนั้นข้อห้ามเหล่านี้ก็อาจส่งผลบ้าง แต่ไม่มาก คนไข้ที่มีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ร้อนที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 สัปดาห์ จึงจะทำต่อได้ครับ


ผลข้างเคียง ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง ?

  • ปริมาณโบท็อกซ์ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง
  • ฉีดโบท็อกไม่ถูกตำแหน่ง อาจทำให้โบท็อกไปโดนกล้ามเนื้อมัดที่ไม่ต้องการ ทำให้ตาตก ปากเบี้ยว หน้าไม่เท่ากัน
  • ฉีดโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ไม่เห็นผล หรืออยู่ได้สั้นลง เสี่ยงต่อการดื้อโบท็อกมากขึ้น และอาจมีผลข้างเคียงที่อันตรายตามมา เช่น แพ้ อักเสบ ติดเชื้อ
  • ฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า หรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้เพียงพอ ห้องทำหัตถการไม่สะอาด ห้ามฉีดเด็ดขาด

หากฉีดโบท็อกแท้ แล้วมีผลข้างเคียงที่เกิดการเทคนิคการฉีด เช่น ตาตก ปากเบี้ยว จริง ๆ แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ตัวยาจะหมดฤทธิ์ ใบหน้าก็จะกลับมาเป็นปกติครับ หรือจะเร่งการสลายด้วยการใช้ความร้อนช่วยก็ได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อให้ประเมินและแก้ไขเป็นรายบุคคล


โบท็อก VS ร้อยไหม VS เมโสแฟต VS เครื่องยกกระชับ เปรียบเทียบกันชัด ๆ

  • โบท็อก VS ร้อยไหม : การร้อยไหมจะช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ แก้มย้อย แก้มห้อย เป็นปัญหามาจากโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยลงตามอายุที่มากขึ้น โบท็อกจะช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และกระชับผิวเล็กน้อยเท่านั้นครับ
  • โบท็อก VS เมโสแฟต : ทั้งสองหัตถการมีจุดประสงค์ในการใช้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ โบท็อกช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อ ส่วนเมโสแฟตจะเป็นการฉีดเพื่อลดไขมัน ลดแก้ม ลดเหนียง
  • โบท็อก VS เครื่องยกกระชับ : เครื่องมือยกกระชับ เช่น Hifu Ulthera Thermage จะเป็นการใช้คลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุ ส่งพลังงานไปใต้ผิวเพื่อให้เกิดความร้อน เนื้อเยื่อจะหดตัวและยกกระชับขึ้น เป็นการแก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวจากชั้นลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวคุณภาพดีขึ้น ต่างจากโบท็อกที่แก้ปัญหาริ้วรอยจากกล้ามเนื้อครับ

แต่ละหัตถการจะใช้ลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้าจากปัญหาที่ต่างกันครับ แต่จริง ๆ แล้วสามารถทำหัตถการร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ต้องอยู่ในการดูแลและพิจารณาลำดับหัตถการของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยนะครับ


ฉีดโบท็อก คือทางออกสำหรับใครบ้าง ?

การฉีดโบท็อกเป็นทางออกสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย หรือต้องการปรับรูปหน้า โดยที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ถือว่าเป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง และเป็นเบสิคในการเสริมความงามที่หลาย ๆ คนเลือกทำเป็นอย่างแรก ๆ มีความปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อย หลังฉีดโบท็อกสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ


สรุป

สำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอย การฉีดโบท็อกตั้งแต่อายุน้อย จะช่วยรักษาคุณภาพของผิวไว้ได้ด้วยครับ เพราะเมื่อผิวไม่เกิดการพับบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ในจุดเดิม ก็จะทำให้เกิดริ้วรอยได้ยากขึ้น ช่วยยืดเวลาในการเกิดริ้วรอยออกไปได้ รวมถึงยังเป็นหัตถการที่แก้ปัญหาได้หลากหลาย สามารถปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม หรือปรับลดขนาดกล้ามเนื้อในจุดต่าง ๆ ให้เรียวสวยขึ้นได้

ทั้งนี้การฉีดโบท็อก ไม่ใช่ว่าจะฉีดกับใครก็ได้ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยมากที่สุดครับ