hifu


Hifu 

หนึ่งในนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ทำแล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีด คือการทำ Hifu ครับ เพราะพลังงานของเครื่องที่ยิงลงไป สามารถลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS ที่เป็นผิวหนังชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า หลังทำผิวที่หย่อนคล้อยจะดูยกกระชับ และสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ ในขณะที่การผ่าตัดดึงหน้าไม่สามารถทำได้ครับ

สำหรับใครที่ต้องการกระชับผิวพร้อมกระตุ้นคอลลาเจน ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำการทำ Hifu ครับ Hifu คืออะไร ? ช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ? นิยมทำตำแหน่งไหน ใช้กี่ช็อต/ไลน์ ? hifu มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไร กี่วันเห็นผล ? เปรียบเทียบ HIfu กับหัตถการอื่น ๆ 


Hifu คืออะไร ?

กระบวนการทำงานของ hifu

Hifu (Hight intensity focus ultrasound) คือเครื่องมือยกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงลงไปในชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อให้ผิวเกิดการหดตัว คล้ายกับการผ่าตัดดึงหน้า หลังทำผิวจะดูยกกระชับ ริ้วรอยลดลง ช่วยลดเหนียง ลดแก้มห้อย และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ในขณะที่การผ่าตัดดึงหน้าไม่สามารถทำได้

Hifu/ไฮฟู่  ปัจจุบันมีออกมาจำหน่ายหลายยี่ห้อครับ ยี่ห้อที่ดีและได้รับความนิยมที่สุดคือ Ulthera ซึ่งเป็นเครื่อง Original ของ Hifu รองลงมาคือ Ultraformer III และเครื่อง hifu อื่น ๆ เช่น Exilis Elite, Smazlift, Sygmalift, Lifthera และ Contlex แต่ละยี่ห้อจะมีเทคโนโลยีที่ต่างกันไปตามเกรดของคุณภาพครับ ซึ่งในบทความนี้หมอจะกล่าวถึง Hifu ยี่ห้อ Ultraformer III เป็นหลักครับ


เครื่อง Hifu Ultraformer III คือ ?

Ultraformer III คืออะไร

Hifu Ultraformer III เป็นเครื่องยกกระชับที่ทำงานด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ระบบ Macrofocus ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นผิว มีรอบพลังงานไวที่สุดเมื่อเทียบกับ Hifu ยี่ห้ออื่น ๆ ตามท้องตลาด มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้พลังงานได้สูงเต็มที่โดยไม่ทำร้ายผิวหนัง และผิวที่สร้างขึ้นมาใหม่จะมีความแน่นขึ้น กระชับขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผิวยกกระชับ   รูขุมขนดีขึ้น ผิวเนียนนุ่มขึ้น หน้าเรียบเนียนใสและอ่อนเยาว์ครับ


Hifu ช่วยอะไรบ้าง ?

  • ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิว 
  • ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ทำให้คิ้วยกขึ้น 
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก รวมถึงริ้วรอยรอบดวงตา 
  • ช่วยปรับหน้าเรียว V-shape เก็บกรอบหน้า ลดเหนียง ลดคาง 2 ชั้น 
  • ช่วยกระชับต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย 
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว คงความอ่อนเยาว์ ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้างในเวลาเดียวกัน

Hifu เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ แก้มตก แก้มห้อย หน้าไม่ได้รูป
  • คนที่มีริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยใต้ตา ร่องแก้ม ริ้วรอยมุมปาก ร่องน้ำหมาก 
  • คนที่มีเหนียงใต้คาง มีคางสองชั้น ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย มีกรอบหน้าชัดขึ้น
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้า แต่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น 
  • คนที่ต้องการปรับสภาพผิวหน้า กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว คงความอ่อนเยาว์

Hifu มีข้อดี – ข้อเสีย อย่างไร ?

  • เป็นคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำร้ายผิวชั้นนอก ไม่เกิดผิวไหม้
  • มีหลายหัวยิงให้เลือกใช้ ลงลึกครอบคลุมทุกชั้นผิว ผลลัพธ์แม่นยำ ตรงจุด
  • มีหัวยิงพิเศษ Cherry Pink ที่เป็นหัวใหม่ล่าสุด สามารถยิงลงลึกถึง 2.0 mm และมีรูปทรงหัวยิงที่เล็ก เรียว บาง ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ยกคิ้ว ยกหนังตาตก แก้ปัญหาร่องแก้ม
  • เหมาะสำหรับคนที่กลัวเข็ม เพราะไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ปัญหาผิว ใบหน้าหย่อนคล้อยได้แม่นยำ ตรงจุด
  • ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียว V Shape ลดแก้ม ลดเหนียงแล้ว Hifu ยังสามารถทำในจุดอื่น ๆ ที่ต้องการให้ยกกระชับ  เช่น แก้ม, เหนียง, กรอบหน้า, ร่องแก้ม, ใต้ตา, เปลือกตาบน, หน้าผาก รวมถึงลำตัว เช่น  ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง และสะโพก 
  • หลังทำสามารถใช้หน้าได้เลย ไม่มีรอยแดง ไม่มีแผล ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และมีขั้นตอนการทำไม่นาน ประมาณ 30-50 นาที
  • เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20% และเห็นผลเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 5-6 เดือน สามารถมาทำเพิ่มได้เรื่อย ๆ เพื่อคงสภาพผิว
  • ข้อเสียพบได้น้อย ส่วนมากจะพบในคนที่ใช้เครื่องปลอม เครื่องเกรดต่ำ ทำ Hifu กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีประสบการณ์การใช้เครื่อง

ทำ Hifu ตำแหน่งไหนได้บ้าง แต่ละตำแหน่งใช้กี่ช็อต/ไลน์ ?

  • แก้ม หรือ เหนียง ประมาณ 100 line
  • แก้ม และ เหนียง ประมาณ 300 line
  • ใต้ตา และ ร่องแก้ม ประมาณ 300 line
  • ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน ประมาณ 700 line
  • ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา ประมาณ 1,000 line 

การทำ Hifu ถ้าเลือกใช้จำนวนไลน์ที่ไม่เหมาะสมกับปัญหา ใช้น้อยเกินไป อาจทำให้เห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนและอยู่ได้สั้นลง หรือในเคสที่มีเนื้อแก้มน้อย แก้มตอบ แต่มีร่องแก้มลึก หากใช้จำนวนช็อตเยอะก็จะยิ่งทำให้แก้มดูตอบกว่าเดิม


Hifu รีวิว

รีวิว ทำ Hifu Ultraformer III ก่อน-หลังทำ

hifu รีวิวhifu รีวิว

รีวิว hifu ยกกระชับผิว ย้อนวัย

รีวิว Hifuยกกระชับหน้าหย่อนคล้อย คงความอ่อนเยาว์


ทำ Hifu กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?

โดยทั่วไปการทำ Hifu จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน และสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปี ถ้าใช้ค่าพลังงานที่สูง ขึ้นอยู่กับคนไข้สามารถทนเจ็บได้หรือไม่ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังทำ หากดูแลตามคำแนะนำของหมอ ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้นครับ


ทำ Hifu เจ็บไหม  มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

การทำ Hifu เจ็บครับ แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ เครื่อง Hifu เกรดดี จะต้องทำแล้วเจ็บ หลังทำจึงอาจมีอาการบวมได้เป็นเรื่องปกติ แต่ได้ผลดี ผิวยกกระชับและอยู่ได้นานขึ้น เพราะหลักการทำงานของ Hifu คือจะต้องยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ  SMAS เพื่อให้ผิวยกกระชับ เต่งตึงขึ้น

หากคนไข้กลัวเจ็บมาก ๆ ไม่สามารถทนเจ็บได้ก็เลือกระดับที่ทนไหว แล้วใช้ความถี่ในการทำไฮฟู่แทนก็จะได้ผลเหมือนกันครับ


การดูแลตัวเองก่อน – หลังทำ Hifu

การดูแลตัวเอง ก่อนทำ Hifu 

การเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer III ไม่ได้ยุ่งยากหรือซับซ้อนครับ เหมือนกับการทำทรีทเมนต์ผิวทั่วไป คนไข้สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  • หากทำเลเซอร์เป็นประจำ ควรเว้นระยะก่อนทำ Hifu ประมาณ 2 สัปดาห์
  • หากคนไข้ฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม มาก่อน ควรเว้นระยะก่อนทำ Hifu อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ผิวฟื้นฟูเต็มที่
  • สามารถทำทรีทเม้นท์บำรุงผิวก่อนการทำ Hifu ได้
  • งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ 3-7 วัน
  • สำหรับผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโรคเริม หรือมีปัญหาติดเชื้อที่ผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำ

การดูแลตัวเอง หลังทำ Hifu 

  • สามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า spf สูง เพื่อป้องกันแสงแดดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • หากคนไข้มีอาการผิวตึง ปวดบริเวณใบหน้า สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
  • หลีกเลี่ยงการออกแดด 1-2 สัปดาห์ เพื่อฟื้นฟูให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว
  • ไม่ควรนวด กด หรือถูกบริเวณใบหน้าแรง ๆ 
  • งดสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เพราะอาจทำให้กระบวนการกระตุ้นคอลลาเจน ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร อันไหนดีกว่ากัน ?

Hifu กับ Botox ทั้งคู่เป็นหัตถการที่หวังผลในเรื่องลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียวได้เหมือนกันครับ แต่มีข้อแตกต่างกันในเรื่องหลักการทำงาน ข้อดี-ข้อเสีย รวมไปถึงระยะเวลาเห็นผล

  • Hifu จะทำงานด้วยการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง โดยคลื่นจะมีลักษณะคล้ายจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรง ซึ่งคลื่นนี้จะไปทำให้ชั้นไขมันและชั้น SMAS เกิดการหดตัวด้วยความร้อน 60°C-70°C โดยที่ไม่ทำให้ผิวไหม้ หลักการคล้าย ๆ กับเนื้อที่เราวางลงบนกระทะร้อน ๆ เนื้อจะหดครับ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวจะมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง และช่วยปรับรูปหน้าเรียววีเชฟได้
  • โบท็อกซ์ (Botox) จะเป็นการฉีดตัวยา “Botulinum Toxin A” เข้าไปที่ชั้นกล้ามเนื้อ ตัวยาจะออกฤทธิ์จับกับปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว ผิวบริเวณนั้นจึงขยับได้น้อยลง และไม่เกิดการพับ จึงช่วยลดริ้วรอยได้ ในคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อก็สามารถฉีดโบท็อกเพื่อให้กรามเล็กลง หน้าดูเรียวขึ้นครับ 

สรุปแล้ว Hifu กับ Botox อันไหนดีกว่ากัน ? คำตอบ คือดีทั้งคู่ครับ ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีปัญหาอะไรและต้องการแก้อย่างไร เช่น คนไข้มีปัญหาริ้วรอยที่ไม่ลึกมากตรงบริเวณหน้าผาก หางตา การฉีดโบท็อกอย่างเดียวก็เพียงพอครับ แต่ในเคสที่ดื้อโบท็อก ก็สามารถใช้ Hifu เพื่อช่วยในการลดริ้วรอยได้

ทั้งนี้รวมไปถึงความคุ้มค่าอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย เช่น งบประมาณ จำนวนครั้งที่ต้องทำ ระยะเวลาเห็นผลซึ่งต้องวิเคราะห์เป็นรายบุคคลครับ


เปรียบเทียบ Hifu VS Thermage VS Ulthera ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี ?

Hifu VS Thermage VS Ulthera ต่างกันอย่างไร

Hifu Thermage และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวเหมือนกันครับ แต่จะมีความต่างกันที่หลักการทำงาน ขนาดของจุดที่ focus และระดับพลังงานที่ลงลึกในชั้นผิว ซึ่งจะมีผลต่อผลลัพธ์หลังทำ หมอจะอธิบายความแตกต่างของทั้ง 3 เครื่องแบบเข้าใจง่าย ดังนี้ครับ

Hifu กับ Ulthera เป็นเครื่องยกกระชับที่มีหลักการทำงานเหมือนกันครับ ทั้งการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ระดับพลังงานที่ลงลึกได้ถึงผิวชั้น smas และเด่นเรื่องยกกระชับ ยกแก้ม ลดความหย่อนคล้อย กระตุ้นคอลลาเจน แต่มีความต่างกันเล็กน้อยตรงที่ Ulthera มีขนาดจุดโฟกัสที่ใหญ่กว่าอยู่ที่ 1 mm. ในขณะที่ Hifu มีขนาดจุดโฟกัส 0.5-1 mm. และ Ulthera จะมีหน้าจอแสดงระดับความลึกของจุดที่ยิงผ่านหน้าจอเครื่องแบบ Real Time 

ส่วน Thermage จะเป็นเครื่องยกกระชับที่ทำงานด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) มีขนาดจุดโฟกัสที่ 3-4 cm2 ลงลึกจากผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน พลังงานที่ปล่อยออกมาจะส่งผ่านความร้อนแบบ Column ทำให้สามารถสร้างความร้อนใต้ผิวหนังได้ลึกและทั่วถึงมากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ จึงเด่นในการช่วยสลายไขมันสะสม 

สรุป Hifu VS Thermage VS Ulthera ต่างกันอย่างไร ? ความต่างในด้านผลลัพธ์การยกกระชับ ทำให้หน้ายก แก้มยก Hifu กับ Ulthera จะทำได้ดีกว่า Thermage ครับ เพราะพลังงานที่ยิงจะเป็นเส้นตรงเรียงกัน จึงสามารถยกกระชับผิวในทิศทางของเส้นที่ยิงได้ แต่ Thermage พลังงานเป็นวงกว้าง ครอบคลุมทั้งชั้นผิว ทิศทางพลังงานไม่ชัดเจน จึงเด่นในเรื่องลดไขมัน และช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม แต่การยกกระชับทำได้ไม่ดีเท่า Hifu กับ Ulthera 

สรุป Ultraformer III vs Ulthera vs Thermage เครื่องไหนคุ้มค่ากว่ากัน ? ถ้าคนไข้มีงบประมาณปานกลาง ทนเจ็บได้ระดับปานกลาง หมอแนะนำเป็น Hifu แต่ถ้ามีงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกหน่อย และอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นเป็นปี ทนเจ็บได้มากกว่า หมอจะแนะนำ Ulthera ส่วนใครที่สามารถทนเจ็บไหว การทำ Thermage เหมาะสมครับ ทำ 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำด้วยครับ


Hifu ราคาเท่าไหร ?

Hifu ราคาเริ่มต้นที่ 3,999.-/100 ไลน์ครับ นอกจากนี้ราคายังขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกและประสบการณ์ของแพทย์ร่วมด้วยครับ

คนไข้ที่เจอโปรโมชั่น Hifu ราคาถูก หรือเป็นแบบไฮฟู่บุฟเฟ่ต์ ไม่จำกัดจำนวนซ็อตแล้วรู้สึกคุ้มค่า แต่บางทีไฮฟู่ราคาถูกก็อาจไม่ได้ดีเสมอไปครับ เพราะหัวที่ใช้ยิง hifu ย่อมมีต้นทุนตามจำนวน line ที่ใช้ยิง เช่น ต้องทิ้งแล้วเปลี่ยนหัวใหม่เมื่อยิงครบ 20,000 line ดังนั้น หากเป็นหัวยิงคุณภาพดี เป็นไม่ได้เลยที่จะมีราคาถูกมากครับ


ทำ Hifu ที่ไหนดี ?

ทำ Hifu ที่ไหนดี

  • เลือกคลินิกได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบการให้ประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข ติดไว้ในบริเวณที่ที่เปิดเผยและเห็นได้ชัดเจน 
  • ใช้เครื่อง Ultraformer III แท้ มีคุณภาพ 
  • ควรทำ Hifu กับแพทย์มีประสบการณ์ สามารถวางแผนและแก้ไขปัญหาได้เหมาะสมตรงจุด มีความรู้และเทคนิคในการใช้เครื่อง hifu 
  • มีการนัดหมายเพื่อติดตามผลคนไข้ในภายหลัง และมีการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวทั้ง ก่อน – หลังทำไฮฟู่ รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้คนไข้เข้าใจเป็นอย่างดี 
  • คลินิกควรมีช่องทางไว้สำหรับติดต่อได้สะดวก โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ คนไข้จะได้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับคุณหมอที่ทำเคสของตนเองได้โดยตรงอย่างทันการณ์

สรุป

Hifu Ultraformer III เป็นนวัตกรรมความงามที่ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิว ลดริ้วรอยแห่งวัย และเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้าได้อย่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจน สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เหมาะสำหรับคนที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ