12 วิธีบริหารหุ่นสวยด้วย ไคโรแพรกติก ( Chiropractic )

0
4130
12 บริหารหน้าเรียวเล็ก ขาสวย บิลท์หุ่นสวย ด้วย“ไคโรแพรกติก”
ไคโรแพรกติกเป็นการจัดกระดูกเพื่อดูแลรักษาสุขภาพและป้องกันโรคต่างๆที่สามารถทำได้เองที่บ้าน
12 บริหารหน้าเรียวเล็ก ขาสวย บิลท์หุ่นสวย ด้วย“ไคโรแพรกติก”
ไคโรแพรกติก เป็นการจัดกระดูกเพื่อดูแลรักษาสุขภาพและป้องกันโรคต่างๆที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

ไคโรแพรกติก ( Chiropractic )

เชื่อว่าทุกคนอยากจะมีหุ่นสวยสมส่วนกันทั้งสิ้น ปัจจุบันนี้ทางเลือกที่จะสร้างหุ่นสวยตามที่ต้องการมีให้เลือกหลายวิธี ทั้งการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร การกินยาเพื่อสร้างรูปร่างที่ดี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกันไป แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างหุ่นสวย หน้าเรียว ทำให้หุ่นเฟิร์มกระชับ วิธีดังกล่าวคือ ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) 

ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) คือ

ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) หรือแพทย์จัดกระดูก ไคโรแพรกติกเป็นคำที่มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีก ที่หมายถึง “การรักษาด้วยมือ” ที่เรียกเช่นนั้นก็เพราะว่าไคโพรแพรคติก คือ ศาสตร์การรักษาแขนงหนึ่งที่ใช้ในการดูแลสุขภาพ ร่างกายของมนุษย์และป้องงกันโรคต่าง ๆ ด้วยของมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญจะพุ่งความสนใจไปที่ความสัมพันธ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสรีระวิทยาและความสมบูรณ์โครงสร้างร่างกายทุกส่วน โดยที่ผู้เชี่ยวชาญจะทำการพิจารณาแบบองค์รวมถึงความสมบูรณ์ของระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างของกระดูกสันหลัง ว่ามีความสมบูรณ์หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นย่างไร พร้อมทั้งทำการตรวจรักษาระบบที่มีความเกี่ยวข้องกับประสาท รวมถึงการดูแลกระดูกส่วนสันหลังและกระดูกที่บริเวณข้อต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย เพื่อที่จะทำให้ระบบของประสาทสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยที่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรับประทานยา ทำการใช้เข็มเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบหรือทำการผ่าตัดอวัยวะส่วนใดของ ร่างกายเลยแม้แต่น้อย แต่ยังสามารถรักษาความผิดปกติที่เกิดขึ้นของกระดูกโครงสร้าง ระบบของการเคลื่อนไหวร่างกาย (Structure and Biomechanic) การรักษานี้สามารถรักษาได้แม้แต่ในกรณีที่มีการเกิดความคลาดเคลื่อนจากตำแหน่งตามธรรมชาติของส่วนข้อและกระดูกสันหลังหรือแม้แต่ส่วนของข้อที่กระดูกสันหลังก็สามารถรักษาได้เช่นกัน โดยเฉพาะส่วนของกระดูกสันหลังนี้เป็นส่วนที่นิยมทำการรักษาด้วยวิธีนี้ เพราะว่ากระดูกสันหลังนับเป็นบริเวณศูนย์กลางของในการสร้างสมดุลของร่างกาย ควบคุมการทรงตัว การดำเนินกิจวัตรประจำวันทุกอย่าง ดังนั้นถ้ากระดูกสันหลังเกิดมีการผิดรูปทรงตามธรรมชาติก็ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นในบริเวณนั้น อาจจะมีผลกระทบต่อระบบประสาท ซึ่งควบคุมร่างกายทั้งหมดของร่างกาย โดยผู้เชี่ยวชาญนี้จะไม่บุคคลที่เรียนแพทย์มาโดยเฉพาะแต่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น แต่บุคคลทั่วไปก็จะให้คำเรียกว่าแพทย์ เพราะเป็นผู้ที่ทำการรักษาเช่นเดียวกับแพทย์ที่ทำการรักษาโรคเช่นเดียวกัน

ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) คือ ศาสตร์การรักษาแขนงหนึ่งที่ใช้ในการดูแลสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญจะให้ความสนใจไปที่ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับสรีระวิทยาและความสมบูรณ์โครงสร้างร่างกายทุกส่วน

นอกจากการรักษาแบบ ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) จะสามารถรักษาระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้แล้ว ยังสามารถที่จะช่วยในด้านของความงามได้อีกด้วย ที่เป็นนั้นก็เพราะว่าเมื่อระบบของร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะสมดุลแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานของทุกระบบจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้ท่วงท่าสง่างามและถ้าทำเป็นประจำจนเป็นนิสัยแล้ว จะทำให้กล้ามเนื้อกระชับ ระบบการขับของเสียภายในร่างกายทำงานขับของเสียออกมาอย่างทรงประสิทธิภาพ ผิวพรรณที่เคยหม่นหมองจะกลับมาเปล่งปลังมีน้ำมีนวล และสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัย
ในการรักษาแบบ ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) จะเน้นไปทางการออกท่าทางเพื่อทำการจัดการระบบและโครงสร้างของกระดูก ซึ่งบางท่าสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่บางท่าไม่สามารถทำได้เองต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ท่า ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) ที่สามารถปฏิบัติได้เองที่บ้านได้

ท่าที่ 1 ท่านอนหงายเอียงคอ

อุปรณ์ที่ใช้ : หมอน
เริ่มจากท่านอนหงายบนพื้นราบ ศีรษะหนุนหมอน ลำตัวและขา ลำตัวและขาวางแนบกับพื้น ขาทั้งสองข้างแนบชิดกัน ยกมือทั้งสองข้างมาจำที่หมอน ทำการเอียงศีรษะไปด้านขวาช้า ๆ อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำการเอียงหน้ากลับมาตำแหน่งเดิม แล้วทำการเอียงศีรษะไปด้านซ้าย อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำซ้ำ ข้างละ 10 รอบ

ท่าที่ 2 ท่านอนคว่ำเอียงคอ

อุปกรณ์ที่ใช้ : หมอนสำหรับหนุ่นศีรษะ
เริ่มจากทำการนอนคว่ำหน้า หน้าหนุนหมอน ลำตัวและขาวางแนบกับพื้น ขาทั้งสองข้างแนบชิดกัน ยกมือทั้งสองข้างมาจำที่หมอน ทำการเอียงศีรษะไปด้านขวาช้า ๆ อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำการเอียงหน้ากลับมาตำแหน่งเดิม แล้วทำการเอียงศีรษะไปด้านซ้าย อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำซ้ำ ข้างละ 10 รอบ

ท่าที่ 3 ท่ายืดบริเวณต้นคอด้วยผ้าขนหนู

อุปกรณ์ที่ใช้ : ผ้าขนหนูขนาดความยาวประมาณ 1 ฟุต

เริ่มจากท่านั่งหรือยืนก็ได้ ทำการมวนผ้าพันคอเป็นวงกลม วงไว้บนต้นคอ โดยให้ต้นคออยู่ที่บริเวณตรงกลางของผ้าขนหนู นำมือทั้งสองข้างมาจับที่บริเวณปลายของผ้าขนหนู ค่อย ๆ ทำการแหงนหน้าขึ้น ให้ตามองขึ้นไปที่เพดาน ทำการหันหน้าไปด้านซ้าย อยู่ในท่านี้ 10 วินาที หันหน้ากลับมามองตรงขึ้นเพดาน ทำการเอียงหน้าไปด้านขวา อยู่ในท่านี้ 10 วินาที หันหน้ากลับมามองตรงขึ้นเพดาน ทำซ้ำ 10 รอบ 

ท่าที่ 4 ท่านอนคว่ำ งอเข่าพร้อมกับบิดสะโพก

อุปกรณ์ที่ใช้ : แผ่นยางยืด
เริ่มจากการนำแผ่นยางยืดมาผูกที่บริเวณสะโพก นอนคว่ำหน้า มือทั้งสองข้างจับที่เสาหรือจุดยืด ขาทั้งสองข้างแนบชิดกันยกปลายเท้าขึ้นจนกระทั้งน่องตั้งฉากกับพื้น
ทำการเอนขาไปด้านขวาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเอนได้ การทำในครั้งแรกอาจจะไม่สามารถเอนจนขาไปแนบกับพื้นได้ แต่ถ้าทำอย่างต่อเนื่องน่องจะสามารถเอนไปแนบกับพื้นได้ อยู่ในท่านี้ 10 วินาที
ทำการยกน่องกลับเข้าสู่ท่าเริ่มต้น และเอนน่องไปทางด้านซ้าย อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 รอบ

ท่าที่ 5 ท่ายืนโน้มตัวไปด้านหลัง

เริ่มจากยืนตัวตรง หลังตรง ขาแยกออกจากกันเท่ากับความกว้างของไหล่ แขนทั้งสองข้างวางแนบลำตัว ทำการเอนตัวไปข้างขวาโดยที่หน้ายังมองตรงไปข้างหน้า การเอนตัวให้ค่อย ๆ ทำการเอนและให้เอนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเอนได้ การเอนในครั้งแรกอาจจะเอนได้เพียงเล็กน้อย แต่ถ้าทำอย่างต่อเนื่องจะสามารถเอนได้มากขึ้น อยู่ในท่านี้ 10 วินาที
ทำการเอนตัวกลับมาให้อยู่ในท่ายืนตัวตรง หลังตรง และทำการเอนไปด้านซ้ายโดยที่หน้ายังมองตรงไปข้างหน้า การเอนตัวให้ค่อย ๆ ทำการเอนและให้เอนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเอนได้ อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 รอบ

ท่าที่ 6 ท่ายืนบิวเอวแขนโอบรอบลำตัว

เริ่มจากยืนตัวตรง หลังตรง ขาแยกออกจากกันเท่ากับความกว้างของไหล่ กางแขนทั้งสองข้างให้ขนานกับพื้น หมุนลำตัวพร้อมกับเหวี่ยงแขนไปด้านขวาให้ได้มากที่สุด การบิดหรือหมุนลำตัวในครั้งแรกอาจจะหมุนได้เพียงเล็กน้อย แต่ถ้าทำอย่างต่อเนื่องจะสามารถหมุนได้ได้มากขึ้น อยู่ในท่านี้ 10 วินาที
ทำการหมุนลำตัวตัวกลับมาให้อยู่ในท่ายืนตัวตรง หลังตรง และทำการหมุนลำตัวไปด้านซ้ายโดยที่หน้ายังมองตรงไปข้างหน้า การหมุนลำตัวให้ค่อย ๆ ทำการหมุนลำตัวและให้หมุนลำตัวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะหมุนลำตัวได้ อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 รอบ 

ท่าที่ 7 ท่าพานั่งหมุนลำตัวส่วนบน

อุปกรณ์ที่ใช้ : แผ่นยางยืด
ทำการติดแผ่นยางยืดที่บริเวณสะโพก เริ่มจากนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิง นั่งหลังตรง ตังตรง สายตามองตรงไปด้านหน้า ขาทั้งสองข้างวางชิดกัน ยกแขนขึ้นสูงเสมอไหล่ งอข้อศอกเอาฝ่ามือเข้าหาลำตัว โดยที่ฝ่ามือคว่ำลง หมุนตัวและเหวี่ยงแขนไปทางด้านขวาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยู่ในท่านี้ 10 วินาที หมุนตัวกลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้นแล้วจึงหมุนตัวและเหวี่ยงแขนช้า ๆ ไปด้านซ้าย อยู่ในท่านี้ 10 วินาที หมุนตัวกลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 10 รอบ

ท่าที่ 8 ท่าดัดขาโก่ง

อุปกรณ์ที่ใช้ : ผ้าขนหนูผืนขนาดกลาง และ แผ่นยางยืด
เริ่มจากพับขนหนูสี่ทบ นำแผ่นยางยืดมาพันที่บริเวณหัวเข่า ทำการแยกส้นเท้าออกปลายเท้าชิด งอเข่าเล็กน้อย ที่บริเวณหัวเข่าจะมีช่องว่างเกิดขึ้นให้นำผ้าขนหนูไปวางที่ระหว่างขาทั้งสองข้างที่บริเวณหัวเข่าและออกแรงที่หัวเข่าหนีบผ้าขนหนูให้แน่น ทำการหมุนเข่าเป็นวงกลมช้า ๆ จำนวน 10 รอบ

ท่าที่ 9 นวดขาพร้อมรัดแผ่นยางยืด

อุปกรณ์ที่ใช้ : แผ่นยางยืด หมอนสำหรับหนุนขา

เริ่มจากการนั่งลงบนพื้นราบ เหยียดขาข้างขวาไปด้านหน้า ทำการพันแผ่นยางยืดที่บริเวณน่องจนถึงบริเวณต้นขา ขาข้างซ้ายงอเข่าเหมือนการนั่งขัดสมาธิ ทำการเอนหลังไปด้านหลังโดยใช้มือทั้งสองข้างวางไว้ด้านหลังเพื่อรับน้ำหนักของลำตัว

1.สอดหมอนไปที่บริเวณใต้ข้อเท้า ทำการบิดเท้าขวาได้ด้านขวาและซ้าย

2.สอดหมอนไปที่บริเวณใต้ข้อเข่า ทำการบิดเท้าขวาได้ด้านขวาและซ้าย

3.สอดหมอนไปที่บริเวณใต้ต้นขา ทำการบิดเท้าขวาได้ด้านขวาและซ้าย

4.สอดหมอนไปที่บริเวณใต้โคนขา ทำการบิดเท้าขวาได้ด้านขวาและซ้าย
การเปลี่ยนขา โดยการนำแผ่นยางยืดออกจากขาขวามาพันขาซ้าย เหยียดขาซ้ายไปข้างหน้าและงอขาขวาเหมือนท่านั่งสมาธิ ทำเหมือนกับที่ทำกับขาขวา 

ท่าที่ 10 ท่ายืดอก

เริ่มจากยืนตัวตรงหลังตรง ขาทั้งสองแนบชิดกัน กางแขนออกขนานกับพื้น งอข้อศอกนำฝ่ามือเข้าหาลำตัว ออกแรงดันส่วนของสะบักซ้ายและสะบักขวาเข้าหากัน อยู่ในท่านี้ 10 วินาที

ท่าที่ 11 ท่านอนคว่ำยกส้นเท้า

อุปกรณ์ที่ใช้ :  แผ่นยางยืด
เริ่มจากการรัดแผ่นยางยืดที่บริเวณสะโพก นอนคว่ำหน้า มือทั้งสองข้างประสานกันวางไว้ที่บริเวณปลายคางออกแรงดันปลายเท้ากับพื้นโดยที่ส้นเท้าทำมุม 90 องศากับพื้น
ยกขาขวาขึ้นสูงจากพื้นเป็นเส้นตรงโดยการออกแรงจากบริเวณข้อสะโพก ห้ามงอเข่า อยู่ในท่านี้ 10 วินาที สลับยกเข้าซ้ายขึ้น อยู่ในท่านี้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 รอบ

ท่าที่ 12 ท่ากบว่ายน้ำ

อุปกรณ์ที่ใช้ : หมอนสำหรับรองสะโพก
เริ่มจากนอนคว่ำ หันหน้าไปด้านขวา กางแขนออกแล้วจึงดึงฝ่ามือเข้ามาวางที่ข้าง ๆ ในหน้า นำหมอนมารองที่บริเวณสะโพก และยกขาข้างทั้งสองข้างขึ้น ค่อย ๆ งอเข่าทั้งสองข้างเข้าหาลำตัวอยู่ในท่านี้ 10 วินาทีและยืดขาตรงกลับสู่ท่าเริ่มต้น มีลักษณะคล้ายกับการว่ายท่ากบกลางอากาศ ทำซ้ำ 10 รอบ

การทำการบริหารแบบ ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) ติดตามท่วงท่าที่กล่าวมาข้างต้นนี้ นอกจากจะสามารถทำให้โครงสร้างร่างกายคงรูปทรงตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันอาการปวดที่เกิดจากการผิดปกติของโครงสร้างกระดูกและระบบภายในร่างกาย การออกกายบริหารยังช่วยกระตุ้นให้ระบบการทำงานภายในร่างกายสามารถทำงานได้ดีขึ้น กล้ามเนื้อทุกส่วนมีความยืดหยุ่นลดการเกิดความตึงเครียดเนื่องจากการทำกิจกรรมประจำชีวิต และยังส่งผลให้ร่างกายมีรูปร่างที่สมส่วน ขาเพรียว ใบหน้าเรียวเล็ก กล้ามเนื้อกระชับเต่งตึงและสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้กับผู้ปฏิบัติอีกด้วย จึงถือว่า ไคโรแพรกติก ( Chiropractic ) ไม่ได้เป็นเพียงศาสตร์แห่งการรักษาโรคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นศาสตร์ที่ช่วยเพิ่มความงามให้กับร่างกายได้ด้วย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

โทะชิมะสะ โอตะ. ปรับรูปร่างด้วยมือเปล่า สร้างหุ้นฟิต พิชิตโรค. กรุงเทพฯ : อมรินทร์เฮลท์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2560.

Kaptchuk TJ, Eisenberg DM (November 1998). “Chiropractic: origins, controversies, and contributions”. Arch. Intern. Med. 158 (20): 2215–24. doi:10.1001/archinte.158.20.2215. PMID 9818801.

D.D. Palmer’s Religion of Chiropractic – Letter from D.D. Palmer to P.W. Johnson, D.C., May 4, 1911. In the letter, he often refers to himself with royal third person terminology and also as “Old Dad”.

Martin SC (October 1993). “Chiropractic and the social context of medical technology, 1895-1925”. Technol Cult. 34 (4): 808–34. doi:10.2307/3106416. JSTOR 3106416. PMID 11623404.