มะเร็งตับอ่อน ( Pancreatic Cancer )

0
7319
โรคมะเร็งตับอ่อน (Pancreatic Cancer)
การที่มีเชื้อมะเร็งเกิดขึ้นกับเซลล์ของตับอ่อน หากไม่มีการรักษาจะสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ มักไม่ค่อยแสดงอาการออกมาในช่วงระยะแรก
โรคมะเร็งตับอ่อน (Pancreatic Cancer)
การที่มีเชื้อมะเร็งเกิดขึ้นกับเซลล์ของตับอ่อน หากไม่มีการรักษาจะสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ มักไม่ค่อยแสดงอาการออกมาในช่วงระยะแรก

มะเร็งตับอ่อน

มะเร็งตับอ่อน ( Pancreatic Cancer ) คือ เนื้องอกร้ายหรือมะเร็งซึ่งเกิดขึ้นจากเซลล์ของตับอ่อน อาการในระยะแรกมักไม่เฉพาะเจาะจงหรือไม่มีอาการแสดงเลย จนกระทั่งเป็นมากจะแสดงอาการ เช่น ปวดท้องหรือปวดหลังเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง ตัวเหลือง ตาเหลือง ( ดีซ่าน ) เกิดที่ตับอ่อน ตับอ่อนประกอบด้วยเซลล์ 2 ชนิด คือ เซลล์ต่อมมีท่อ (Exocrine Gland) ซึ่งสร้างและปล่อยเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และเซลล์ต่อมไร้ท่อ (Endocrine cells) ซึ่งผลิตและปล่อยฮอร์โมนที่สำคัญเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง โรคมะเร็งตับอ่อนอาจพบได้ไม่มากเหมือนโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ แต่ก็มีปริมาณที่น้อยเช่นกัน ส่วนมากโรคนี้มักจะพบได้ในผู้ใหญ่ ที่มีอายุอยู่ในช่วง 40 ปี ขึ้นไป และพบได้ในเพศชายมากว่าเพศหญิง

ชนิดของมะเร็งตับอ่อน

มะเร็งตับอ่อนมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิดมาก แต่ชนิดที่พบได้เป็นส่วนใหญ่คือ ชนิดที่ชื่อว่า  อะดีโนคาร์ซิโนมา ( Adenocarcinoma ) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้เป็นส่วนใหญ่ประมาณ 90-95% ของโรคมะเร็งตับอ่อนทั้งหมด โรคมะเร็งตับอ่อนชนิดนี้จะมีความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับปานกลาง

ลักษณะของตับอ่อน

เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ มีลักษณะเป็นต่อมขนาดใหญ่ มีรูปร่างยาวรีคล้ายใบไม้ ประกอบด้วยส่วนหัว ส่วนกลาง และส่วนหาง โดยมีลำไส้เล็ก ล้อมอยู่ในส่วนหัวของตับอ่อน อยู่ลึกเข้าไปในช่องท้องด้านหลัง ใกล้กับกระเพราะอาหาร ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่มีเพียงชิ้นเดียวในร่างกาย ตับอ่อนจะมีหน้าที่หลักเกี่ยว ข้องกับระบบทางเดินอาหาร คอยสร้างน้ำย่อยมาใช้ในการช่วยย่อยอาหารที่ได้ทานเข้าไป โดยหลั่งน้ำย่อยเข้าไปในลำไส้เล็ก ผ่านทางท่อตับอ่อน และตับอ่อน ยังมีหน้าที่ในส่วนของระบบต่อมไร้ท่อด้วย เป็นผู้สร้างฮอร์โมนต่างๆให้ร่างกาย เช่น ฮอร์โมนอินซูลิน ฮอร์โมนกลูคาก้อน ที่เป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด นอกจากนี้ ยังสร้างฮอร์โมนอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอีกมากมายด้วย

สาเหตุของมะเร็งตับอ่อน

ในปัจจุบันยังทางการแพทย์คงไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจน ของการเกิดโรคมะเร็งตับอ่อนได้  แต่ทั้งนี้ก็เชื่อกันว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุหลักๆ ดังต่อไปนี้

1. การสูบบุหรี่ เนื่องจากสารบางตัวในสูบบุหรี่จะเป็นตัวไปกระตุ้นการเกิดเชื้อมะเร็งตับอ่อนในร่างกาย

2. ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน หรือ โรคเบาหวาน จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับอ่อนมากกว่าคนปกติทั่วไป

3. การบริโภคอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เช่น อาหารทอด หนังสัตว์ อาจก่อมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น

4. มะเร็งตับอ่อนอาจเกิดจากความผิดปกติจากพันธุกรรมบางชนิด ทั้งชนิดถ่ายทอดได้และชนิดไม่ถ่ายทอด ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับการแบ่งตัว และการตายของเซลล์ปกติ

5. มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังเกี่ยวกับตับอ่อนมาก่อน เช่น การอักเสบเรื้อรังของตับอ่อน

6. การได้รับสารก่อมะเร็งบางชนิดอย่างเป็นประจำและต่อเนื่องเป็นเวลานาน

โรคมะเร็งตับอ่อน คือ การที่มีเชื้อมะเร็งเกิดขึ้นกับเซลล์ของตับอ่อน หากไม่มีการรักษาจะสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆผู้ป่วยมักจะรู้ตัวเมื่อก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่แล้ว เนื่องจากมักจะไม่ค่อยแสดงอาการออกมาในช่วงระยะแรก

ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งตับอ่อน

  • ผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปมีอัตราความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน
  • เคยมีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับมะเร็งตับอ่อน
  • การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
  • ผู้ที่มีประวัติเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นเวลานานมีโอกาสเป็นมะเร็งตับอ่อนเพิ่มขึ้น
  • การอักเสบของตับอ่อนในระยะยาว ส่งผลต่อความเสี่ยงการเกิดมะเร็งตับอ่อนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่จัด

อาการของมะเร็งตับอ่อน

โรคมะเร็งตับอ่อนนี้ มักจะไม่แสดงอาการออกมาในระยะแรก ผู้ป่วยจะยังคงใช้ชีวิตได้ตามคนปกติทั่วไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โรคมะเร็งตับอ่อนจะไม่มีอาการเฉพาะ แต่จะเป็นอาการเหมือนการอักเสบของตับอ่อนหรือโรคทางเดินอาหารทั่วไป จึงทำให้มักตรวจพบโรคนี้ในระยะที่มะเร็งแพร่กระจายแล้ว

โดยอาการทั่วไปที่พบได้ของโรคนี้คือ
1. รู้สึกปวดท้องบ่อย โดยจะเป็นๆ หายๆ  เรื้อรัง

2. น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

3. มีอาการตาและตัวเหลือง ซึ่งมีสาเหตุมาจาก ก้อนเนื้อมะเร็งไปอุดตันบริเวณท่อน้ำดี

4. มีอาการปวดหลังเรื้อรัง และจะมีอาการปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รักษาด้วยวิธีปกติไม่หาย

5. อุจาระ มีลักษณะผิดปกติไปจากเดิม มีสีซีด เนื่องจากก้อนมะเร็งอุดกั้นทางเดินน้ำดี

6. คลื่นไส้และอาเจียนบ่อยๆ เนื่องจากลำไส้อุดกั้นจากก้อนมะเร็ง

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งตับอ่อน

มะเร็งตับอ่อนเป็นโรคมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่วินิจฉัยได้ยาก เนื่องจากผู้ป่วยมักไม่มีอาการใดๆแสดงออกมาในขณะที่ก้อนมะเร็งยังมีขนาดเล็กอยู่ ยังคงใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ และผู้ป่วยมักจะทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคนี้เมื่อมีอาการของโรคที่เป็นมากแล้ว ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่และเริ่มรุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ  แต่ในทางการแพทย์ก็สามารถที่จะตรวจและวินิจฉัยโรคนี้ได้จาก วิธีต่างๆ ดังนี้

1. การสอบถามประวัติอาการ และ การตรวจร่างกาย  เป็นวิธีการตรวจเบื้องต้นที่แพทย์มักใช้

2. การตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวด์   เป็นการตรวจเพื่อให้เห็นโครงสร้างภายในของตับอ่อนและท่อน้ำดี เพื่อที่จะทราบได้ว่ามีการอุดตันหรือไม่

3. การเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ ( CT Scan ) คือการภาพเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อแสดงให้เห็นตำแหน่งและขนาดของจุดเกิดโรค และยังสามารถช่วยวินิจฉัยได้ว่า โรคมีการลุกลามไปยังตับและต่อมน้ำเหลืองหรือไม่

4. การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ( MRI ) เป็นการถ่ายภาพคอมพิวเตอร์อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยทำให้เห็นภาพของอวัยวะภายในและสามารถตรวจพบมะเร็งตับอ่อนได้

5. การตัดชิ้นเนื้อตรวจพิสูจน์ทางพยาธิวิทยา แต่วิธีนี้อาจไม่นิยมทำเนื่องจาก ตับอ่อนจะอยู่ค่อนข้างลึก การตัดชิ้นเนื้อ มีความเสี่ยงต่อการทะลุเข้ายังลำไส้ อาจก่อการอักเสบรุนแรงของช่องท้อง และยังเสี่ยงในการทะลุเข้าหลอดเลือด อาจทำให้มีอาการเลือดออกรุนแรงในช่องท้องได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อนเนื้อด้วย

ระยะการลุกลามของมะเร็งตับอ่อน

มะเร็งตับอ่อนสามารถแบ่งระยะของโรคออกได้เป็น  4 ระยะ เหมือนกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ ดังต่อไปนี้

มะเร็งตับอ่อนระยะที่ 1 : เป็นระยะเริ่มต้นของโรคมะเร็ง โดยที่เชื้อมะเร็งจะอยู่แค่ในตับอ่อนเท่านั้น ยังไม่มีการลุกลามไปภายนอก

มะเร็งตับอ่อนระยะที่ 2 : ก้อนมะเร็งจะเริ่มลุกลามออกไปภายนอกตับอ่อน บริเวณอวัยวะใกล้เคียง แต่ยังไม่มีการลุกลามไปยังไม่เข้าเส้นประสาท และหลอดเลือด

มะเร็งตับอ่อนระยะที่ 3 : ก้อนมะเร็งลุกลามมากขึ้น โดยที่ก้อนมะเร็งจะลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะข้างเคียง หรือเส้นเลือดสำคัญในช่องท้อง หรือลุกลามจนผ่าตัดไม่ได้

มะเร็งตับอ่อนระยะที่ 4 : เชื้อมะเร็งแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย โดยที่พบได้บ่อยๆ คือ ตับ ปอด และ กระดูก เป็นต้น เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้แล้ว

สำหรับผู้ป่วยจะสามารถทราบได้ว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อนนขั้นระยะไหนแล้ว จากการตรวจวินิจฉัยของแพทย์โดยใช้วิธีการต่างๆ หลากหลากวิธี  เพื่อนำข้อมูลที่ได้เหล่านี้ไปใช้ในกระบวนการรักษาต่อไป

การรักษามะเร็งตับอ่อน

ในการรักษามะเร็งตับอ่อนนั้น วิธีในทางการแพทย์จะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธี โดยแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้วิเคราะห์หาแนวทางที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายให้มากที่สุด  เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละรายอาจจะมีปัจจัยในการรักษาแตกต่างกัน เช่น อายุ เพศ  ความแข็งแรงของร่างกาย  ระยะของโรค เป็นต้น โดยปกติแล้ว การรักษาโรคมะเร็งตับอ่อนนี้ แพทย์จะใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดเพียงวิธีเดียวในผู้ป่วยที่เชื้อมะเร็งยังไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ  แต่หากผู้ป่วยอยู่ในระยะที่เชื้อมะเร็งแพร่กระจายแล้ว ก็จะใช้วิธีการผ่าตัด และทำการรักษาต่อเนื่องด้วยการใช้เคมีบำบัด หรือ การใช้รังสีรักษา ส่วนวิธีอื่นๆ อย่าง การให้ยารักษาตรงเป้ายังอยู่อยู่ระหว่างการศึกษาของทางแพทย์ต่อไป

โรคมะเร็งตับอ่อน เป็นชนิดโรคมะเร็งที่มีความรุนแรงของโรคสูง ดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ล้วนแต่มีความอันตรายต่อชีวิตสูงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โอกาสในการรักษาให้หายเป็นปกติจะมีอัตราน้อยกว่าโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็สามารถรักษาให้หายได้หากผู้ป่วย มาพบแพทย์ตั้งแต่เป็นโรคในระยะแรกๆยังไม่มีการแพร่กระจายของโรค โดยในการรักษาต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ว่าจะสามารถผ่าตัดเอาก้อนเนื้อมะเร็งออกได้มากน้อยเพียงใด และยังรวมถึงปัจจัยอื่นๆของผู้ป่วยอย่าง อายุ และ สุขภาพอีกด้วย

การป้องกันมะเร็งตับอ่อน

ในปัจจุบันนี้ ยังคงไม่มีวิธีตรวจคัดกรองให้พบโรคมะเร็งตับอ่อนตั้งแต่ในระยะเริ่มเป็นได้ ซึ่งก็มีข้อแนะนำให้กับคนทั่วๆไปว่า ให้รู้จักดูแลร่างกายของตนเองให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ  และหากมีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้นกับร่างกาย ให้รีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจจะดีที่สุด  ส่วนเรื่องของการป้องกันโรคมะเร็งตับอ่อน ปัจจุบันก็ยังคงไม่มีวิธีหรือยาตัวไหน ที่สามารถจะป้องกันโรคชนิดนี้ได้ ทางทีดีที่สุดที่ควรทำคือ ต้องรู้จักหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆในการก่อให้เกิดมะเร็ง อีกทั้งควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

จะเห็นได้ว่าตับอ่อนเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อร่างกายมาก มีชิ้นเดียวภายในร่างกาย อีกทั้งหากเกิดโรคมะเร็งขึ้นกับตับ อ่อนแล้ว ซึ่งเป็นโรคที่มีความรุนแรงของโรคที่สูงมาก  และยังเป็นโรคที่ไม่มีวิธีในการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น วิธีป้องกัน ดังนั้นเราในฐานะเจ้าของร่างกาย ควรดูแลรักษาสุขภาพของร่างกายและตับอ่อนให้ดีให้แข็งแรงอยู่เสมอ  และหากเป็นผู้ที่มีอายุ 40  ปี ขึ้นไปแล้ว ควรหาโอกาสเข้าตรวจสุขภาพร่างกายอย่างน้อยปีละครั้ง  เพราะหากตรวจพบโรคมะเร็งตับอ่อนตั้งแต่ระยะแรก ก็จะสามารถรักษาให้หายได้เป็นปกตินั่นเอง

ร่วมตอบคำถามกับเรา

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่าง

เอกสารอ้างอิง

พวงทอง ไกรพิบูลย์. ถาม – ตอบ มะเร็งร้ายสารพัดชนิด. กรุงเทพฯ ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2557. 264 หน้า 1.มะเร็ง I.ชื่อเรื่อง. 616.994 ISBN 978-616-08-1170-0

Haffty, B., and Wilson, L. (2009). Handbook of radiation oncology. Singapore: Jones and Bartlett Publishers.

Edge, S. et al. (2010). AJCC: Cancer staging handbook. New York: Springer.