แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล ประโยชน์ต่อสุขภาพ
แอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็น น้ำส้มสายชูหมักที่ผลิตจากแอปเปิ้ลสดหมักรวมกับยีสต์ มีเอนไซม์และแร่ธาตุจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากที่สุด

แอปเปิ้ลไซเดอร์

น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล ( Apple Cider Vinegar หรือ ACV ) หรือ แอปเปิ้ลไซเดอร์ คือ น้ำส้มสายชูหมักที่ผลิตจากการนำน้ำแอปเปิ้ลสดหรือน้ำแอปเปิ้ลมาหมักรวมกับยีสต์ จนกลายเป็นแอลกอฮอล์ โดยในกระบวนการนี้จะเกิดกรดอะซิติก ( Acetic Acid ) หรือกรดน้ำส้ม ซึ่งเป็นสารชีวภาพจากการบ่มหรือหมัก ทำให้แอปเปิ้ลไซเดอร์มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นเฉพาะตัว และมีประโยชน์มากมาย ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ เช่น เพคติน ( Pectin ) ไบไอติน ( Biotin ) กรดโฟลิก วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 โซเดียม แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก

ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์

  1. ช่วยลดความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
  2. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  3. ช่วยระบบย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  4. ช่วยลดน้ำหนักและ ช่วยลดความอยากอาหาร
  5. ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
  6. ช่วยความจำให้ดีขึ้น
  7. แก้โรคคัน กำจัดรังแค แก้ผมแตกปลาย
  8. ช่วยชะลอการเจริญของเซลล์มะเร็ง
  9. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย

รู้จักมาเธอร์คุณประโยชน์ที่คาดไม่ถึง

มาเธอร์ ( Mother  ) คือส่วนที่มีสารอาหารมากที่สุด และดีต่อระบบย่อยอาหารอย่างมาก สิ่งนี้ทำให้น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล แตกต่างจากน้ำส้มสายชูทั่วไปในท้องตลาด มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง มีรสเปรี้ยวจัด มีสีเหลืองคล้ายน้ำชา มีเส้นใยบาง ๆ ลอยอยู่ ซึ่งไม่มีการผ่านความร้อนจึงยังคงเอนไซม์และแร่ธาตุจากธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน 

วิธีทำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์

วัตถุดิบ และอุกรณ์

  1. แอปเปิ้ล 6 ผล เลือกที่ค่อนข้างมีรสเปรี้ยวอมหวาน และไม่หวานจนเกินไป
  2. หัวเชื้อหรือแม่เชื้อ ( mother หรือ มาเธอร์ ) 2 ช้อนโต๊ะ ( ผงยีสต์ละลายน้ำหรือน้ำหัวเชื้อไซเดอร์เข้มข้นที่มีเส้นใย ) หรือไม่มีจะไม่ใส่ก็ได้
  3. น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำสะอาด
  5. โหลแก้ว
  6. ผ้าขาวบาง
  7. ยางสำหรับรัดปากโหล

ขั้นตอนการทำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์

  1. ล้างแอปเปิ้ลให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง 
  2. ผ่าแอปเปิ้ลเป็นชิ้น ( ผลละ 8-12 ชิ้น ) ใส่ในโหล
  3. ใส่น้ำผึ้งและหัวเชื้อลงไปในโหล ( หัวเชื้อจะช่วยเร่งในกระบวนการหมักให้เร็วขึ้น )
  4. เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมแอปเปิ้ล
  5. ปิดโหลด้วยผ้าขาวบาง วางไว้ในที่ที่มีอาการสถ่ายเทสะดวก มีอุณภูมิอุ่นๆ และไม่ให้สัมผัสแสงแดด เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 
  6. เมื่อกระบวนการหมักดำเนินอย่างถูกต้องจะเกิดฟองหรือฝ้า ให้เปิดฝาและหมั่นคนส่วนผสมทุกวัน หากมีราขาวๆขึ้นให้ช้อนออก (ราสีขาวไม่อันตราย ถ้าเป็นราสีดำหรือเทาให้เททิ้งทั้งหมดแล้วเริ่มทำใหม่)
  7. เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ สีของน้ำจะเข้มข้นขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นให้กรองเอาแต่น้ำใส่ขวดโหลที่แห้งและสะอาด แล้วปิดปากขวดโหลด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง แล้ววางไว้ในที่ที่มีอาการสถ่ายเทสะดวก มีอุณภูมิอุ่นๆ และไม่ให้สัมผัสแสงแดด เป็นเวลาอีก 2 สัปดาห์ ( รวมเวลาลาการหมักทั้งสิ้น 1 เดือน )
  8. ลองชิมรสชาติ ว่ามีรสชาติของน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือไม่
  9. เมื่อครบกระบวนการหมัก อาจมีวุ้นสีขาวขุ่น นิ่มๆ เกิดขึ้นด้านบน เราสามารถใช้เป็นหัวเชื้อในการหมักครั้งต่อไปได้
  10. หลังจากนั้นนำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่เรียบร้อยแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อหยุดกระบวนการหมัก

น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีเอนไซม์ครบถ้วนจากธรรมชาติ และยังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในทางวิทยาศาสตร์ว่า เป็นหนึ่งในอาหารธรรมชาติที่ดี ต่อสุขภาพ ยังมีส่วนช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายของมนุษย์สามารถรักษาและซ่อมแซมตัวเองได้

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม