เชอร์รี่
เชอรี่ หรือ เชอร์รี่ (Cherry) จัดอยู่ในวงศ์ ROSACEAE ในตระกูลพรุน เช่นเดียวกับ พลัม ลูกท้อ บ๊วย อัลมอนด์ และนางพญาเสือโคร่ง
เชอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ลักษณะผลนั้นมีลักษณะกลม มีขนาดเล็ก เปลือกมีสีแดง สีแดงเข้ม สีส้ม และสีเหลือง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้น ๆ โดยในทั่วไปแล้ว แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีรสหวาน และกลุ่มที่มีรสหวานอมเปรี้ยว โดยแหล่งเพาะปลูกมากที่สุดก็คือในทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ออสเตรเลีย รวมไปถึงในประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นผลไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น นิยมนำมารับประทานสด ๆ หรืออาจจะนำมาคั้นเป็นน้ำไว้ดื่มก็ได้ หรือจะนำไปทำขนมต่าง ๆ เช่น แยม พาย เชื่อม เป็นต้น โดยสายพันธุ์ที่นิยมนำมารับประทานมากที่สุดคือ เชอร์รี่ป่า (Prunus avium)
ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีพิษที่ซ่อนไว้ในเมล็ดอยู่ด้วย ชื่อของพิษนั้นก็คือ ไฮโดรเจนไซยาไนด์ โดยเฉพาะเวลาที่เคี้ยว หรือบดจะผลิตสารนี้โดยอัตโนมัติ แต่เนื่องจากเป็นพิษที่ค่อนข้างอ่อน อย่างมากก็แค่จะทำให้มีอาการปวดศีรษะ เวียนหัว อาเจียน แต่หากได้รับสารพิษนี้มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคไตวาย หรืออาจเกิดอาการชักจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ และสิ่งที่จะต้องระวังอีกเรื่องนั้นก็คือ เชอร์รี่ที่เราเห็นอยู่บนขนมเค้กตามท้องตลาดนั้น ที่เห็นว่ามีสีแดงดูน่ารับประทานส่วนใหญ่แล้วนั้นเกิดจากการนำไปย้อมสีอีกที การเลือกรับประทานก็ควรจะดูให้ดี ๆ เพราะอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดภาวะเสื่อมในไตได้
สรรพคุณของเชอร์รี่
1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
2. ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน
3. มีสรรพคุณช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและความแก่ได้
4. มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
5. มีสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึงร้อยละ 20% เลยทีเดียว
6. มีส่วนช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อหวัดและช่วยรักษาโรคหวัดได้
7. สารโพลีฟีนอล (Pholyphenol) ช่วยป้องกันเซลล์ดีเอ็นเอถูกทำลายได้
8. มีส่วนช่วยลดการผลิตเมลานิน จึงทำให้ผิวพรรณมีความขาวขึ้นได้
9. มีสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
10. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
11. มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้
12. มีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวดได้ แพทย์ในตะวันตกเรียกว่า “แอสไพรินธรรมชาติ”
13. มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบ บรรเทาอาการเจ็บปวด อันเนื่องมาจากการออกกำลังกายหรือกิจกรรมหนัก ๆ ได้
14. มีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาโรคเกาต์ อาการข้ออักเสบ และปวดบวมตามข้อ ได้มากถึง 37% หากรับประทานต่อเนื่องเป็นประจำ
15. สารแอนโทไซยานิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน (แต่ควรรับประทานแต่พอเหมาะ ไม่งั้นจะเป็นเบาหวานซะเองแทนที่จะป้องกัน)
16. มีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
17. มีส่วนช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด (Lycopene)
18. สามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีกว่าการรับประทานยาเสียอีก เพราะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ทำให้อารมณ์ดีมีความสุข
19. มีส่วนช่วยลดอาการแพ้ต่าง ๆ รวมไปถึงโรคภูมิแพ้อีกด้วย
20. มีส่วนช่วยลดระดับของไขมันเลว (LDL)
21. มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ลดความอ่อนล้าจากการออกกำลังกาย
22. มีสรรพคุณช่วยระบายและยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
23. มีสรรพคุณช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้
ประโยชน์ของเชอร์รี่
1. มีฤทธิ์ที่ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้มากขึ้น
2. นอกจากการที่เราจะรับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ก็สามารถนำไปคั้นเป็นน้ำหรือจะนำเอาไปทำขนมต่าง ๆ เช่น แยม พาย เชื่อม ก็สามารถทำได้เช่นกัน
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการของเชอร์รี่หวาน (สีแดง) ต่อ 100 กรัม พลังงาน 63 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารที่ได้รับ |
คาร์โบไฮเดรต | 16 กรัม |
น้ำ | 82.25 กรัม |
น้ำตาล | 12.8 กรัม |
เส้นใย | 2.1 กรัม |
ไขมัน | 0.2 กรัม |
โปรตีน | 1.06 กรัม |
วิตามินเอ | 3 ไมโครกรัม 0% |
เบตาแคโรทีน | 38 ไมโครกรัม 0% |
ลูทีนและซีแซนทีน | 85 ไมโครกรัม |
วิตามินบี 1 | 0.027 มิลลิกรัม 2% |
วิตามินบี 2 | 0.033 มิลลิกรัม 3% |
วิตามินบี 3 | 0.154 มิลลิกรัม 1% |
วิตามินบี 5 | 0.199 มิลลิกรัม 4% |
วิตามินบี 6 | 0.049 มิลลิกรัม 4% |
วิตามินบี 9 | 4 ไมโครกรัม 1% |
โคลีน | 6.1 มิลลิกรัม 1% |
วิตามินซี | 7 มิลลิกรัม 8% |
วิตามินเค | 2.1 ไมโครกรัม 2% |
ธาตุแคลเซียม | 13 มิลลิกรัม 1% |
ธาตุเหล็ก | 0.36 มิลลิกรัม 3% |
ธาตุแมกนีเซียม | 11 มิลลิกรัม 3% |
ธาตุแมงกานีส | 0.07 มิลลิกรัม 3% |
ธาตุฟอสฟอรัส | 21 มิลลิกรัม 3% |
ธาตุโพแทสเซียม | 222 มิลลิกรัม 5% |
ธาตุโซเดียม | 0 มิลลิกรัม 0% |
ธาตุสังกะสี | 0.07 มิลลิกรัม 1% |
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการของเชอร์รี่เปรี้ยว (สีแดง) ต่อ 100 กรัม พลังงาน 50 กิโลแคลอรี
สารอาหาร | ปริมาณสารที่ได้รับ |
คาร์โบไฮเดรต | 12.2 กรัม |
น้ำตาล | 8.5 กรัม |
เส้นใย | 1.6 กรัม |
ไขมัน | 0.3 กรัม |
โปรตีน | 1 กรัม |
วิตามินเอ | 64 ไมโครกรัม 8% |
เบตาแคโรทีน | 770 ไมโครกรัม 7% |
ลูทีนและซีแซนทีน | 85 ไมโครกรัม |
วิตามินบี 1 | 0.03 มิลลิกรัม 3% |
วิตามินบี 2 | 0.04 มิลลิกรัม 3% |
วิตามินบี 3 | 0.4 มิลลิกรัม 3% |
วิตามินบี 5 | 0.143 มิลลิกรัม 3% |
วิตามินบี 6 | 0.044 มิลลิกรัม 3% |
วิตามินบี 9 | 8 ไมโครกรัม 2% |
โคลีน | 6.1 มิลลิกรัม 1% |
วิตามินซี | 10 มิลลิกรัม 12% |
วิตามินเค | 2.1 ไมโครกรัม 2% |
ธาตุแคลเซียม | 16 มิลลิกรัม 2% |
ธาตุเหล็ก | 0.32 มิลลิกรัม 2% |
ธาตุแมกนีเซียม | 9 มิลลิกรัม 3% |
ธาตุแมงกานีส | 0.112 มิลลิกรัม 5% |
ธาตุฟอสฟอรัส | 15 มิลลิกรัม 2% |
ธาตุโพแทสเซียม | 173 มิลลิกรัม 4% |
ธาตุโซเดียม | 3 มิลลิกรัม 0% |
ธาตุสังกะสี | 0.1 มิลลิกรัม 1% |
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth
แหล่งอ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (En), หนังสือพิมพ์สยามดารา, หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
รูปอ้างอิงจาก
1.https://www.rootsplants.co.uk/collections/cherry-trees
2.https://www.allaboutgardening.com/cherry-trees/