ลักษณะและสรรพคุณของขางคันนา

0
1376
ขางคันนา
ลักษณะและสรรพคุณของขางคันนา เป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว ต้นสีเขียวอ่อนมีขนสีขาวปกคลุมแน่น ดอกสีม่วงหรือสีม่วงปนขาวนวล ฝักมีขนคอดเป็นข้อ
ขางคันนา
เป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว ต้นสีเขียวอ่อนมีขนสีขาวปกคลุมแน่น ดอกสีม่วงหรือสีม่วงปนขาวนวล ฝักมีขนคอดเป็นข้อ

ขางคันนา

ขางคันนา สมุนไพรมีรสเมาเฝื่อน มีอายุสั้น เลื้อยไปตามพื้นดินหรือตั้งขนานไปกับพื้น ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Desmodium heterocarpon var. strigosum Meeuwen อยู่วงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่วงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)[1],[2] ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น พึงฮวย (จังหวัดชุมพร), หญ้าตืดหมา (จังหวัดลำปาง), เส่งช้างโชก (กะเหรี่ยง, จังหวัดลำปาง), ขางคันนาแดง (จังหวัดเชียงใหม่), อีเหนียวใหญ่ (จังหวัดชัยภูมิ) [1],[2] สามารถพบขึ้นได้ในจังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี, นราธิวาส, สงขลา, ขอนแก่น, นครศรีธรรมราช, เพชรบูรณ์, กาญจนบุรี, นครราชสีมา, ยะลา, พัทลุง ที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 76-892 เมตร[1],[2]

ลักษณะขางคันนา

  • ต้น เป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว ลำต้นตั้งกึ่งตั้งและกึ่งตั้งกึ่งเลื้อยถึงกึ่งแผ่คลุมดิน สามารถสูงได้ถึงประมาณ 50-175 เซนติเมตร และอาจสูงถึง 2 เมตร ลำต้นมีลักษณะเป็นสีเขียวอ่อน ตรงที่โดนแสงแดดมักจะเป็นสีน้ำตาลแดงเข้ม ด้านล่างที่ไม่โดนแสงนั้นจะเป็นสีเขียวอ่อน ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.8-5.2 มิลลิเมตร จะมีขนสีขาวปกคลุมหนาแน่น
  • ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยมีอยู่ 3 ใบ จะออกเรียงสลับกัน ใบย่อยด้านบนสุดเป็นรูปไข่กลับแกมใบหอกหรือรูปไข่กลับ กว้างประมาณ 1.6-2.8 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-3.5 เซนติเมตร ใบย่อยด้านข้างเป็นรูปไข่กลับ หรือรูปวงรี กว้างประมาณ 1.1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.3-4 เซนติเมตร แผ่นใบมีลักษณะเป็นสีเขียวถึงค่อนข้างเขียวเข้ม ที่หลังใบจะมีขนสีขาวปกคลุมอย่างหนาแน่น ที่ด้านหน้าใบจะไม่ขน แต่สามารถพบได้บางสายพันธุ์ที่มีขนเล็กขึ้นกระจายตามเส้นใบ แผ่นใบด้านหน้า ก้านใบมีความยาวประมาณ 1.4-2.2 เซนติเมตร หูใบมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม[1],[2]
  • ดอก ออกเป็นช่อที่ตรงปลายยอดและที่ตามซอกใบ ช่อดอกมีความยาวประมาณ 4.3-5.8 เซนติเมตร มีดอกย่อยอยู่ประมาณ 43-90 ดอก ออกดอกแบบ Indeterminate กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปดอกถั่ว เป็นสีม่วงหรือสีม่วงปนขาวนวล มีเกสรเพศเมียเป็นสีเหลืองปนสีน้ำตาล ก้านเกสรเพศเมียเป็นสีเขียว ก้านอับเรณูจะเป็นสีแดง อับเรณูนั้นจะเป็นสีเหลืองปนสีน้ำตาล[1],[2]
  • ผล เป็นฝัก มีความยาวประมาณ 1.3-3 เซนติเมตร จะมีขนกับคอดหักเป็นข้อ สามารถแตกได้ตามตะเข็บล่าง มีเมล็ดอยู่ในแต่ละฝักประมาณ 4-9 เมล็ด บางช่อดอกย่อยฝักจะมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด ออกดอกติดเมล็ดดี เริ่มออกดอกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จะออกดอกเยอะช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน[1],[2]

สรรพคุณขางคันนา

1. ยาพื้นบ้านนำรากมาต้มกับน้ำผสมผงปวกหาด รากมะเดื่อดิน ใช้ดื่มเป็นยาถ่ายพยาธิ โดยให้ใช้ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มวันละ 3 ครั้ง (ราก)[1]
2. ในตำรายาไทยกล่าวไว้ว่า มีรสเมาเฝื่อน มีสรรพคุณที่เป็นยาแก้กาฬมูตร แก้เด็กตัวร้อน และดับพิษตานซางได้ (ลำต้น, ใบ)[1],[2]
3. ยาพื้นบ้านล้านนาจะนำลำต้นกับใบมาต้มกับน้ำ เอามาใช้อาบเป็นยาแก้บวมพองได้ (ใบ, ลำต้น)[1],[2]
4. สามารถใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ยาแก้โรคลำไส้ ขับพยาธิได้ทุกชนิด (ลำต้น, ใบ)[1],[2]

ประโยชน์ขางคันนา

  • สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงได้

คุณค่าทางอาหาร

  • ต้นที่อายุ 45 วัน จะประกอบด้วย DMD 39.3-39.5%, ADF 38.7-47.3%, ฟอสฟอรัส 0.18-0.26%, โปรตีน 11.9-15.9%, ลิกนิน 14.2-17.7%, NDF 45.8-54.9%, โพแทสเซียม 1.17-1.26%, แคลเซียม 1.26-1.49% [2]
  • ต้นที่อายุประมาณ 75-90 วัน จะประกอบด้วย แทนนิน 4.2-6.1%, ไนเตรท 78.4-85 พีพีเอ็ม, มิโมซิน 1.17-1.54%, โปรตีน 11-12.8%, ออกซาลิกแอซิด 14.1-22.4 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ [2]

สั่งซื้อ อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วย เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ กรมปศุสัตว์. “ขาง คัน นา”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : nutrition.dld.go.th. [03 มิ.ย. 2015].
2. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ขาง คัน นา”. หน้า 91.

อ้างอิงรูปจาก
1.https://nanps.org/product/desmodium-canadense/
2.https://tropical.theferns.info/viewtropical.php?id=Desmodium+heterocarpon