อุโลก
อุโลก (Hymenodictyon orixense) หรือเรียกกันว่า “ส้มกบ” เป็นไม้ยืนต้นที่อยู่ในตระกูลเข็ม มีถิ่นกำเนิดในทวีปอินเดียจึงเป็นไม้ที่ชอบขึ้นในที่แดดจัดหรือพื้นที่ดินทราย เป็นต้นไม้ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักและมักจะพบในป่ามากกว่า มีประโยชน์ในด้านสรรพคุณทางยาและด้านอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคลที่เคยใช้ในการสลักตราของพระเจ้าแผ่นดินและในวัง อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 9 ไม้มงคลที่ใช้แกะสลักในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย
รู้จักกับชื่อต่าง ๆ ของอุโลก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hymenodictyon orixense (Roxb.) Mabb.
ชื่อท้องถิ่น : ภาคเหนือและภาคอีสานเรียกว่า “ส้มกบ ส้มเห็ด” ภาคใต้เรียกว่า “ส้มลุ ลุ ลาตา” จังหวัดตรังเรียกว่า “ลาตา” จังหวัดสุราษฎร์ธานีเรียกว่า “ลุ ส้มลุ” ชาวกะเหรี่ยงเชียงใหม่เรียกว่า “สั่งเหาะ” จีนกลางเรียกว่า “ถู่เหลียนเชี่ยว”
ชื่อวงศ์ : วงศ์เข็ม (RUBIACEAE)
ชื่อพ้อง : Hymenodictyon excelsum (Roxb.) Wall., Hymenodictyon excelsum (Roxb.) DC.
ลักษณะของต้นอุโลก
อุโลก หรือส้มกบ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางผลัดใบที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอินเดีย อินโดจีนไปจนถึงฟิลิปปินส์ มักจะขึ้นตามป่าโปร่ง ป่าเบญจพรรณผสมและป่าดงดิบแล้งทั่วไป
ลำต้น : ลำต้นเปลาตรง เรือนออกเป็นทรงพุ่มกลมโปร่ง กิ่งแขนงแตกออกจากลำต้นเป็นวงรอบที่ปลายกิ่ง
เปลือกต้น : เปลือกต้นหนาและแตกลอนเป็นสะเก็ด มีสีน้ำตาลปนเทา บางทีก็มีสีเทาปนน้ำตาล
ใบ : เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปวงรี รูปไข่หรือรูปโล่ ปลายใบมนและมีติ่ง โคนใบสอบเข้าหาก้านใบ ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนาและเป็นลอนเล็กน้อย หลังใบและท้องใบมีขนนุ่มทั้งสองด้าน เส้นใบเห็นได้ชัดเป็นร่างแห ก้านใบมีสีแดงอ่อน มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ
ดอก : ออกดอกเป็นช่อแบบแยกแขนง โดยจะออกตามซอกใบและปลายกิ่ง ในแต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีขาวขนาดใหญ่กว่ากลีบฐานดอก ดอกมีกลิ่นหอม กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปกรวย ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก กลีบเลี้ยงมีเส้นใบคล้ายกับตาข่ายเป็นสีเขียว
ผล : ผลสามารถพบได้ในดอก มักจะอยู่รวมกันเป็นพวงห้อยลงแต่ปลายผลชี้ย้อนขึ้นไปทางโคนช่อ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงวงรีขนาดเล็ก มีร่อง 2 ร่อง เมื่อสุกผลจะแตกได้ ผิวเปลือกผลแข็งบางเป็นสีน้ำตาลแดง
เมล็ด : ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดมีครีบหรือปีกบาง ๆ อยู่ที่ปลาย
สรรพคุณของอุโลก
- สรรพคุณจากราก แก่น เปลือกต้น เป็นยาแก้ไข้พิษต่าง ๆ ช่วยระงับความร้อน ใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้ไข้ตัวร้อน ไข้หวัด แก้ไข้จับสั่น เป็นยาแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ
- สรรพคุณจากรากและแก่น ช่วยแก้อาการไอ ช่วยขับเสมหะ
- สรรพคุณจากใบและราก เป็นยาดูดพิษฝีหนอง เป็นยาภายนอกที่แก้ไขข้ออักเสบและแก้ปวดบวมแดงตามข้อ
ประโยชน์ของอุโลก
1. เป็นส่วนประกอบของอาหาร ใบอ่อนมีรสเปรี้ยวจึงนำมาใช้รับประทานเป็นผักสดหรือลวกต้มกินกับน้ำพริก
2. ใช้ในอุตสาหกรรม เนื้อไม้เป็นไม้เนื้ออ่อนจึงนำมาทำเฟอร์นิเจอร์หรือทำฝาบ้านได้
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของอุโลก
- เปลือกต้นและใบ พบสาร Aesculin และ Scopoletin
- ราก พบ Rubiadin, Lucidin, Damnacanthal, Morindon, Nordamnacanthal, 2 – Benzylxanthopurpurin, 6 – Methyllalizarin และ Anthragallol เป็นต้น
อุโลก เป็นพันธุ์ไม้มงคลของไทยที่อยู่ในโครงการพระราชดำริ ดอกมีกลิ่นหอมและเป็นต้นไม้ที่สำคัญ อุโลกเป็นต้นไม้ที่ช่วยในด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเนื่องจากไม้ของอุโลกเป็นไม้เนื้ออ่อนและเนียนละเอียด เหมาะอย่างมากแก่การแกะสลักและสามารถนำมาทำเฟอร์นิเจอร์หรือทำฝาบ้านได้ นอกจากนั้นส่วนอื่นของต้นยังมีสรรพคุณทางยาได้อีกด้วย ซึ่งมีสรรพคุณที่โดดเด่นเลยก็คือ ช่วยถอนพิษไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ แก้ไขข้ออักเสบและแก้ปวดบวมแดงตามข้อได้ เป็นต้นไม้ที่คนไทยควรอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคกลาง. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, กัญจนา ดีวิเศษ). “อุโลก”. หน้า 154.
หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ. (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “อุโลก”. หน้า 123.
หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. (วิทยา บุญวรพัฒน์). “อุโลก”. หน้า 652.
ผักพื้นบ้าน ในประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. “อุโลก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: area-based.lpru.ac.th/veg/. [26 ก.ค. 2014].
ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน, สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน). “อุโลก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th. [26 ก.ค. 2014].