จันทนา
เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามกัน ดอกเป็นสีขาวกลิ่นหอม ผลกลมรีสีเขียวเข้มและฉ่ำน้ำ ผลแก่จะมีสีแดง

จันทนา

ต้นจันทนา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและพม่า มักขึ้นตามป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบ ที่ระดับความสูงของจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณ 100-400 เมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการตอนกิ่ง ชอบดินร่วนซุยและทนแล้งได้ดี ชื่อวิทยาศาสตร์ Tarenna hoaensis Pit. จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE) ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ จันทน์ทนา (ภาคตะวันออก-เขมร) จันทน์ตะเนี้ย จันทน์ตะเบี้ย จันทน์ขาว (ประจวบคีรีขันธ์) จันทน์ใบเล็ก จันทนา (ระยอง) จันทน์หอม

ลักษณะของจันทนา

  • ต้น เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงของต้นได้ถึงโดยประมาณ 2-5 เมตร (บ้างว่าสูงได้โดยประมาณ 5-10 เมตร) กิ่งแขนงแตกเป็นพุ่มแน่น ลำต้นเดี่ยวตั้งตรง เปลือกต้นบาง ผิวเรียบ เป็นสีน้ำตาลเข้ม ส่วนกิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมมีขนสั้น เนื้อไม้และแก่นมีสีออกน้ำตาลอ่อนๆ หรืออกขาวนวล มีรสขม หวาน หรือรสขมเย็นระคนกัน
  • ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปวงรีแกมขอบขนาน ปลายใบมนมีหางแหลม โคนใบสอบ ใบมีขนาดกว้างโดยประมาณ 6-10 เซนติเมตรและยาวโดยประมาณ 24 เซนติเมตร แผ่นใบมีสีเขียวเข้ม หลังใบเรียบเป็นมัน หลังใบและท้องใบเกลี้ยง มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมฐานแคบปลายเรียวแหลม
  • ดอก ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ในหนึ่งช่อดอกจะมีดอกโดยประมาณ 8-12 ดอก ดอกมีกลิ่นหอม กลีบดอกเป็นสีขาว โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายจะแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ส่วนปลายกลีบม้วนลง ดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลืองติดอยู่ข้างในผนังหลอด
  • ผล ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมรี สีเขียวเข้มและฉ่ำน้ำ พอแก่จะมีสีแดง ภายในผลมีเมล็ดจำนวนโดยประมาณ 1-2 เมล็ด

สรรพคุณของจันทนา

1. ช่วยบำรุงดวงจิตมิให้ขุ่นมัว (แก่น)
2. ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย (แก่น)
3. แก่นช่วยรักษาโรคเลือดลม (แก่น) หรือจะใช้แก่นผสมกับสมุนไพรอื่นในตำรับยา ซึ่งประกอบไปด้วย แก่นจันทนา แก่นจันทน์แดง กระดูกหมาดำ งาช้าง รากชะอม รากชุมเห็ดเทศ รากผักหวานบ้าน รากมะกอกเผือก รากมะกอกฟานซ้อม รากมะลืมดำ รากมะลืมแดง รากหญ้าขัด และหัวถั่วพู โดยนำมาฝนกับน้ำข้าวเจ้า ใช้รับประทานเป็นยารักษาโรคเลือดลม แต่ถ้าเป็นมากจนตัวแดงหรือแดงเป็นลูกตำลึงสุกก็ให้นำมาทาด้วย (แก่น)
4. ช่วยบำรุงเลือดลม (แก่น)
5. แก่นหรือเนื้อไม้มีรสหวาน ช่วยบำรุงประสาท (แก่น) ช่วยทำให้เกิดปัญญาและราศี (แก่น)
6. ช่วยแก้ลม (แก่น)
7. ช่วยบำรุงตับและปอด (แก่น)
8. ช่วยบำรุงธาตุไฟในร่างกาย บำรุงธาตุไฟให้สมบูรณ์ (แก่น)
9. ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ (แก่น)
10. ช่วยแก้ปอด ตับ และดีพิการ (แก่น)
11. ช่วยบำรุงผิวหนัง บำรุงเนื้อหนังให้สดชื่น (แก่น)
12. ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ (แก่น)
13. แก่นใช้เป็นยาแก้ไข้ (แก่น) แก้ไข้ร้อน แก้ไข้ที่เกิดจากตับและดี แก้ไข้กำเดา (แก่น)
14. ช่วยแก้อาการเหงื่อตกหนัก (แก่น)
15. ช่วยขับพยาธิ (แก่น)
16. ในตำรับ (ยาจันทน์ลีลา) ซึ่งเป็นตำรับยาที่ส่วนผสมของจันทน์ขาว (เข้าใจว่าหมายถึงแก่นจันทนา) ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ อีกในตำรับยา โดยเป็นตำรับยาที่ช่วยบรรเทาอาการไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู (ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าคือส่วนของแก่น)
17. จัดอยู่ในตำรับยาพระโอสถนารายณ์ คือตำรับยา (มโหสถธิจันทน์) ซึ่งเป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรจันทน์ทั้งสอง ได้แก่ จันทน์แดงและจันทน์ขาว (เข้าใจว่าคือแก่นจันทนา) ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ อีก 13 ชนิด โดยเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ทั้งปวงที่มีอาการตัวร้อน หรือมีอาการอาเจียนร่วมด้วยก็ได้ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าคือส่วนของแก่นหรือเนื้อไม้)
18. ในตำรับยา (พิกัดเบญจโลธิกะ) ซึ่งเป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรที่มีสรรพคุณทำให้ชื่นใจ 5 อย่าง ได้แก่ แก่นจันทน์ขาว (เข้าใจว่าหมายถึงแก่นจันทนา) แก่นจันทน์แดง แก่นจันทน์ชะมด ต้นเนระพูสีไทย และต้นมหาสะดำ โดยเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้เพื่อดี แก้รัตตะปิตตะโรค แก้ลมวิงเวียน ช่วยกล่อมพิษทั้งปวง (แก่น)
19. อยู่ในตำรับยา (พิกัดจันทน์ทั้งห้า) ซึ่งเป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยแก่นไม้จันทน์ 5 อย่าง ได้แก่ แก่นจันทน์ทนา แก่นจันทน์แดง แก่นจันทน์ขาว แก่นจันทน์เทศ และแก่นจันทน์ชะมด โดยเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้เพื่อโลหิตและดี แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ช่วยบำรุงปอดและหัวใจ และช่วยแก้พยาธิบาดแผล (แก่น)
20. ปรากฏอยู่ในตำรับยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) คือ ตำรับ (ยาหอมเทพจิตร) ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีส่วนผสมของจันทน์ขาว (เข้าใจว่าหมายถึงแก่นจันทนา) ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับยาอีก โดยตำรับยานี้มีสรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืดตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน และช่วยแก้ลมจุกแน่นในท้อง (ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าคือส่วนของแก่นหรือเนื้อไม้)

ข้อมูลทางเภสัชวิทยา

สารสกัดจากแก่นด้วยแอลกอฮอล์ไม่เป็นพิษต่อหนูในความเข้มข้น 10 กรัมต่อกิโลกรัมต่อน้ำหนักตัว

ประโยชน์ของจันทนา

1. เนื้อไม้หรือแก่นใช้บดหรือฝนผสมกับน้ำ นำไปปรุงแต่งเป็นเครื่องหอมได้
2. แก่น สามารถนำมาใช้ในการทำมาทำเป็นธูปหอมได้

สั่งซื้อ อาหารเสริม เนสท์เล่ ออรัลอิมแพค สำหรับผู้ป่วย คลิ๊ก @amprohealth

เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคกลาง. “จันทนา”. (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, กัญจนา ดีวิเศษ). หน้า 88.
2. หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. “จันทนา”. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). หน้า 208.
3. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. “จันทน์ขาว”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.thaicrudedrug.com. [28 ก.พ. 2014].
4. สวนพฤกษศาสตร์สายยาไทย. “จันทนา”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.saiyathai.com. [28 ก.พ. 2014].
5 คมชัดลึกออนไลน์. “จันทนา แก่นใช้ทำธูป”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.komchadluek.net. [28 ก.พ. 2014].
6. โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. “ไม้ดอกหอมของไทย”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: kanchanapisek.or.th/kp6/. [28 ก.พ. 2014].

อ้างอิงรูปจาก
1. https://commons.wikimedia.org/wiki/
2. https://www.floraofsrilanka.com/